11 พฤศจิกายน, 2010 - 09:47 | โดย narongyuth
วันคืนต่อคลื่นคว้า พลังใจ
ถึงผ่านฟุ้งซ่านไหว เห่เร้น
สัมผัสเพื่อยองใย ฝันตื่น
ทุกฝั่งทางเลือกเฟ้น ที่ห้วงทุกข์เทียม ฯ..
ฉบับที่ ๑๖ จากสายใยแห่งกวีนิพนธ์นี้ได้รับเกียรติจาก " ข้าวปั้น " เป็นหนึ่งร้อยกลั่นภาพสัมผัสทางอารมณ์ ดั่งร้อยกรองอ่อนหวาน..เชิญผู้เผลอผ่านเข้ามาอ่านซึมซับ..สดับในความแผ่ว แว่ว โดยไว้ชื่อบทว่า " แอบไหว "
แอบไหว
พร่างพราวเพรียว เขียวอ่อน อยู่ฟ้อนยอด
ลู่ลมพรอด แกว่งไกว เจ้าใบเหงา
ที่น่านฟ้า ครึ้มครึ้ม ทึบทึมเทา
แลเห็นเจ้า ยางโยน อยู่โอนเอน
ระรื่นฉ่ำ ซู่สาด หยดหยาดฟ้า
ปลิวปรอยมา ต้อง ใบละไล้เล่น
รินรดลง ร่องไม้ ไหวระเนน
ไหลประเคน ลงแอ่ง แหล่งลุ่มดอน
คระครืนครืน ครั่นโครม หะโหมก้อง
ห่มฟ้าร้อง ฟ้ายอก ฟ้าหลอกหลอน
ลั่นสะท้าน สะเทื้อน เอื้อนนาคร
ประกอบตอน ฟ้าเล่น เข่นอารมณ์
แม้ยอดยาง ลืมไหว ลืมใบกวัด
ลมสงัด เงี่ยไป ไม่ประสม
พลันตระหนก อกขวัญ สั่นระงม
ร้าวระทม ทำนบ ทบทลาย
มะละกอ ต่อกิ่ง ทิ้งใบเกาะ
เอื้อนเสนาะ ต้องน้ำ ตามิราสาย
ต้นลางสาด สาดใบ ไหวกระจาย
ใบบอนพราย น้ำกลิ้ง ทิ้งใบบอน
รูปใบชู เชิดหน่อ แนบกอกล้วย
รื่นระรวย ฝักสะตอ ล้อลมอ่อน
ทางมะพร้าว พลิกพลาง เลื่อนทางนอน
มะลิซ้อน ก็คง เล่นลงดิน
หญ้าก็ย้าย แตกกอ ทอยอดหญ้า
เขียวตะไคร่ ก็ทาทราย กรวดหิน
เสียงเจี๊ยบเจี๊ยบ ไก่มา แอบหากิน
คุ้ยเล่นดิน คละคู่ ดูเพลิดเพลิน
ที่โดดเต้น เห็นหาย เห็นใต้ร่ม
กระจอกน้อย พลอยชม อยู่นานเนิ่น
ที่ดำดำ กระโดด โลดสะเทิน
หย่งคางคก ดูเคอะ เขินอยู่ไปมา
แมลงภู่หวือ ไปไกลลิบลิ่ว
ปีกแอ่นปลิว ว่ายฟ้อน ว่อนเวหา
กระหวัดต้อง ส่องแสง จ้าแทงตา
ที่ทาบทาเรือง รองต้อง คคนางค์
กระทั่งฟ้า เบิกฟ้า แย้มมาใหม่
กระทั่งใคร ดำเนินออก เหินย่าง
ที่นิ่งแนบ แอบไหว คือใบยาง
บอกว่าพลาง พักผ่อน ได้นอนยาว...
โดย : ข้าวปั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น