เรียน เพื่อนนปช.ที่เคารพรักทุกท่าน
บางท่านอาจจะสงสัยว่าเหตุใด ในสัปดาห์นี้ สมาชิกประชาธิปัตย์ถึงได้ออกมาโจมตีข้อความในสมุดปกขาว สี่เดือนหลังจากที่สมุกปกขาวกว่า 50,000 สำเนาถูกเผยแพร่ ดูราวกับว่า ดร.บุรณัชย์ สมุทรักษ์และสมาชิกพรรคคนอื่นออกมากล่าวหาว่าสมุดปกขาวมีข้อความที่ละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทุกวัน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลและจนตรอก
เหตุใดพรรคประชาธิปัตย์ถึงเลือกที่จะโมโหโทโสกับข้อความในสมุดปกขาวที่ ถูกเผยแพร่เมื่อสี่เดือนในเวลานี้? สัปดาห์ที่แล้ว สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารของสหพันธรัฐ พรรคการเมืองเสรีนิยมที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว มีการพิจารณาถึงเรื่องการระงับสมาชิกภาพชั่วคราวหรือขับไล่พรรคประชาธิปัตย์ออกจากสหพันธรัฐ สมาชิก พรรคประชาธิปัตย์เดินทางไปยังแอฟริกาใต้พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางที่เต็มไป ด้วยคำอธิบายที่ซ้ำซาก เข้าข้างตนเอง และไม่มีมูลความจริง ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวที่พรรคใช้อธิบายให้คนในประเทศไทยฟังเมื่อ 6เดือนที่ผ่านมา โดยปกติแล้ว มาตรฐานทางด้านสิทธิมนุษยชนของสมาชิกสหพันธรัฐพรรคการเมืองเสรีนิยมนั้นไม่ ใช่มาตรฐานสิทธิมนุษยชน “แบบไทยๆ” ดังนั้นจึงมีความเป็นได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์อาจจะไม่ได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างที่ได้คาดหวังเอาไว้ใน แอฟริกาใต้ และการตอบโต้เรื่องสมุดปกขาวหลังจากเลยมาสี่เดือนแล้ว อาจเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ถูกสมาชิกสหพันธรัฐพรรคการเมืองเสรีนิยมประณาม เรื่องการทำลายระบอบประชาธิปัตย์ในประเทศไทยลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี
นอกจากจะโมโหเพราะพรรคถูกทำให้อับอายแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญคือ การที่พรรคประชาธิปัตย์เสียหน้าในเวทีโลกเป็นภัยอย่างยิ่งต่อรัฐบาลพรรคประ ชาธิปัตย์ อย่างที่เรารู้ดีว่า สาเหตุที่อภิสิทธิ์ถูกกลุ่มอำมาตย์เลือกให้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เพราะว่าอภิสิทธิ์ดูสุขุมนุ่มนวล ทันสมัย และเป็นผู้ดี ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเป็นเกราะกำบังภัยกลุ่มอำมาตย์ได้เป็นอย่างดี และในเวลานี้ มีสัญญาณจากประชาคมโลกที่ชัดเจนว่า ความมีประสิทธิภาพในการใช้นายอภิสิทธิ์บังหน้านั้นกำลังเสื่อมลง โดยในวันนี้ มีรายงานข่าวว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายเดวิด คาเมรอน ยกเลิกแผนการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงวันหยุดคริสต์มาส โดยส่วนหนึ่งเพราะมีความกังวลเกี่ยว กับเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลของนายคาเมรอนนั้นเป็นรัฐบาลผสม โดยมีพรรคเสรีประชาธิปไตยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคการเมืองดังกล่าวเป็นสมาชิกของสหพันธรัฐพรรคการเมืองเสรีนิยม
นายอภิสิทธิ์รู้ดีว่าเมื่อใดที่เปลือกของเขาถูกเปิดเผย ชะตากรรมของเขาจะไม่ต่างจากผู้นำคนก่อน กลุ่มอำมาตย์จะกำจัดนายอภิสิทธิ์อย่างไม่เป็นไปตามระบบเหมือนอย่างที่ทำกับ ผู้นำคนก่อนหน้าเขา ไม่ว่าจะเป็นการใช้วิธียุบพรรค ยุบสภา ใช้บริการกลุ่มพันธมิตร ทำรัฐประหาร และการโยนนายอภิสิทธิ์ออกจากตำแหน่งนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายที่สุด สำหรับกลุ่มอำมาตย์
ยิ่งประชาคมโลกรับรู้ถึงพฤติกรรมอันน่าตกใจของพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น เท่าไร พรรคประชาธิปัตย์ก็จะใช้ชาติ วัฒนธรรม และสถาบันมาเป็นข้ออ้าง ข้อกล่าวหาที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้โจมตีเรา เป้าหมายไม่ใช่เพื่อการปกป้องระบอบกษัตริย์ เพราะบทความหรือเอกสารของเราไม่มีข้อความที่วิจารณ์หรือทำลายสถาบันพระมหา กษัตริย์ เป้าหมายที่แท้จริงของพรรคเป็นไปเพื่อจะปิดปากประชาชนไม่ให้วิจารณ์พรรคประ ชาธิปัตย์ด้วยความชอบธรรม ในกรณีเรื่องการดำเนินนโยบายและการกระทำที่ผิดกฎหมายของพรรค ในอดีต ผู้คนมักจะกินยาอายุวัฒนะเพื่อความเป็นอมตะ แต่ปัจจุบัน พรรคประชาธิปัตย์ใช้ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแทนยาอายุวัฒนะ เพื่อหวังจะใช้เป็นเกราะป้องกันตนเองจากสิ่งต่างๆที่พรรคคิดว่าเป็นภัยต่อ ความมั่นคงทางอำนาจของตนเอง
ความรู้สึกที่ประชาชนไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เกี่ยวข้องกับความ รู้สึกที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ การที่พรรคต้องการรักษาอำนาจตนเองในรัฐบาล โดยพยายามอ้างถึงการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการบิดเบือนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดถึงความสัมพันธ์ที่ไม่มีมูล และยุทธศาสตร์ที่เลวร้ายนี้แสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์และพวกพ้องสามารถสละ ได้ทุกอย่างเพื่อที่จะรักษาอำนาจ การยอมสละความจริง ระบอบประชาธิปไตย และชีวิตของประชาชนกว่า 80คน เพื่อที่จะรักษาอำนาจของตนเอง เราคงจะอดสงสัยไม่ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะทำอะไรต่อไป
ด้วยความนับถือ
นาย
Read more from นปช, โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม
http://robertamsterdam.com/thai/?p=582
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น