Wed, 2010-11-24 17:58
สุรพศ ทวีศักดิ์
ทำไมระยะหลังมานี้สังคมไทยจึงดูเหมือนจะเอียนกับคำว่า “จริยธรรม” หากมองย้อนกลับไป สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจาก การที่สื่อ นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย (รวมทั้งตัวผมด้วยในเวลานั้น) ชู “ประเด็นจริยธรรม” มาขับไล่ทักษิณ
แล้วเรื่องจริยธรรมก็ถูกทำให้คลุมเครือ เช่น เป็นเรื่องของความรู้สึก เป็นเรื่องจิตสำนึกส่วนบุคคล ชี้ถูก-ผิด หรือพิสูจน์ให้สาธารณชนเห็นตรงกันไม่ได้เหมือนประเด็นทางกฎหมาย ฉะนั้น เรื่องจริยธรรมจึงเอามาเป็นประเด็นทางการเมืองไม่ได้
แต่ในความเป็นจริง เราจะพูดถึงสังคม-การเมือง หรือรัฐที่ดีไม่ได้ ถ้าไม่มีความคิดพื้นฐานทางจริยศาสตร์บางอย่างรองรับ เช่น ในทางสังคม-การเมือง ที่เรายอมรับหรือเคารพความเสมอภาคตามกฎหมาย เท่ากับเรายอมรับความคิดพื้นฐานทางจริยศาสตร์ที่ว่าความเสมอภาคในความเป็น มนุษย์เป็นสิ่งที่มีคุณค่าในตัวมันเองซึ่งละเมิดมิได้ การละเมิดความเสมอภาคในความเป็นคนเป็นสิ่งผิดจริยธรรม เป็นต้น
ทว่าเมื่อเราพูดถึงเรื่องจริยธรรมในสังคมไทย จะพบว่ามีความสับสนอย่างมาก เช่น
1. เรามองเรื่อง “จริยธรรม” คู่กับ “คนดี” ฉะนั้น เราจึงสรุปว่าจริยธรรมเป็นเรื่องของตัวบุคคล หรือเป็นเรื่องแล้วแต่จิตสำนึกของแต่ละคน ซึ่งมุมมองเช่นนี้ถูกต้องถ้าหมายถึงจริยธรรมทางศาสนาที่เป็นเรื่องของปัจเจก บุคคลที่ปฏิบัติตามหลักจริยธรรมเพื่อเข้าถึงพระเจ้า หรือบรรลุนิพพาน หรือเพื่อให้มีความสุข ความสำเร็จส่วนตัวอื่นๆ
แต่ตามความคิดทางจริยธรรมตะวันตก คำว่า “คนดี” จะคู่กับคำว่า “คุณธรรม” ซึ่งคุณธรรมหมายถึง “ความเป็นเลิศ” ของบุคลิกภาพ (character) หรือลักษณะนิสัย (habit) ในด้านต่างๆ เช่น โสเครตีส มีบุคลิกภาพเป็นเลิศในด้านปัญญา พระเยซูเป็นเลิศในด้านความรักและความเสียสละ เป็นต้น
ส่วนคำว่า “จริยธรรม” จะคู่กับคำว่า “หน้าที่” คือ จริยธรรมมีสถานะเป็นกฎ หรือหลักการสากลอันถือเป็นหน้าที่ซึ่งทุกคนต้องยึดถือปฏิบัติร่วมกัน เพื่อปกป้องคุณค่า ศักดิศรีความเป็นมนุษย์ หรือความผาสุกของสังคม
เช่น หลักจริยธรรมสากลของคานท์ หลักประโยชน์นิยมของมิลล์ ซึ่งต่อมานักปรัชญาอื่นๆ ได้พัฒนาหลักจริยธรรมในฐานะที่เป็นหน้าที่ซึ่งเราต้องปฏิบัติเป็นหลัก จริยธรรมสากลหรือจริยธรรมภาคสาธารณะ คือ หลักสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และความยุติธรรม ซึ่งกลายมาเป็นพันธสัญญาพื้นฐานของระบบสังคม-การเมือง
ฉะนั้น จริยธรรมจึงมีความหมายเป็นพันธะสัญญาทางสังคมที่ทุกคนมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ ตามเพื่อปกป้องคุณค่าของมนุษย์ และความผาสุกร่วมกัน พูดอย่างเจาะจงคือการมีจริยธรรมสากลก็คือการเคารพหลักการประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนนั่นเอง
ซึ่งถ้ามองจากกรอบของสังคม-การเมือง จริยธรรมสากลต้องเหนือกว่าจริยธรรมหรือคุณธรรมส่วนบุคคล เพราะจริยธรรมสากลเป็นหลักการหรือกฎเกณฑ์ของการอยู่ร่วมกันในสังคม ขณะที่จริยธรรมหรือคุณธรรมส่วนบุคคลเป็นหลักปฏิบัติเพื่อความสำเร็จหรือความ สุขส่วนตัว
2. แต่ความหมายของจริยธรรมที่ใช้กันในบ้านเรานั้นสับสนมาก เช่น มีการโปรโมทการชุมนุมทางการเมืองว่าใช้ธรรมนำหน้า มาทำบุญ มาตอบแทนคุณแผ่นดิน ฯลฯ เป็นการใช้ “วาทกรรมจริยธรรม” เพื่อ 1) สร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูเป็นคนดี ในขณะเดียวกันก็เหยียดฝ่ายที่ตนเองกล่าวหาว่าไร้จริยธรรมเป็นคนเลวทราม 2) เชิดชูคนมีจริยธรรมหรือคนดีเหนือหลักการ ถ้าพวกฉันเป็นคนดี หรือถ้าเป็นคนดีมีคุณธรรมก็สามารถล้มหลักการได้ (เช่น มีการชุมนุมที่ละเมิดกฎหมาย ทำรัฐประหาร ฯลฯ)
หลายๆ ครั้งเราจะเห็นการอ้างความเป็นคนดีทางศาสนา เช่น ถือศีล 8 กินมังสวิรัติ การเข้าวัดปฏิบัติธรรม ฯลฯ มาสร้างความน่าเชื่อถือในทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะความดีที่กล่าวอ้างนั้นเป็นคุณธรรมทางศาสนา หรือจริยธรรมส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับจริยธรรมทางการเมือง หรือจริยธรรมประชาธิปไตย
การมีคุณธรรมทางศาสนา หรือจริยธรรมส่วนบุคคลจะมีความหมายต่อจริยธรรมทางการเมือง หรือจริยธรรมประชาธิปไตย ก็ต่อเมื่อสามารถทำให้จริยธรรมส่วนบุคคลนั้นสนับสนุนจริยธรรมประชาธิปไตย (เช่น กรณีคุณ
ในทางตรงกันข้าม แม้ไม่อ้างอิงคุณธรรมทางศาสนา หากยึดมั่นในหลักจริยธรรมสากล หรือจริยธรรมประชาธิปไตยก็ถือว่ามีจริยธรรมทางการเมืองที่สมบูรณ์ในตัวเอง แล้ว
พูดตรงๆ คือ เวลาเราพูดถึงคำว่า “จริยธรรม” ในบริบทของสังคม-การเมือง ก็เท่ากับเรากำลังพูดถึงจริยธรรมสากล จริยธรรมภาคสาธารณะ หรือจริยธรรมประชาธิปไตยนั่นเอง
การกล่าวอ้าง ธรรมนำหน้า มาทำบุญเพื่อประเทศ ตอบแทนคุณแผ่นดิน อ้างความเป็นชาวพุทธที่เคร่งครัด อ้างการถือศีลกินเจใดๆ แต่ละเลยหรือละเมิดหลักจริยธรรมสากล จริยธรรมภาคสาธารณะ หรือจริยธรรมประชาธิปไตย ย่อมเป็นการกล่าวอ้าง “วาทกรรมจริยธรรม” ที่ไร้ความหมาย
นอกจากไร้ความหมายแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่าคงมีประเทศนี้ประเทศเดียวกระมังที่มีการอ้างคุณธรรมทาง ศาสนา อ้างวาทกรรมจริยธรรม เพื่อให้สิทธิพิเศษแก่คนดีมีศีลธรรมล้มหลักการประชาธิปไตยได้
น่าอนาถ “วาทกรรมจริยธรรม” ในบ้านเมืองนี้ไหมครับ ที่จนบัดนี้เหล่าคนดีมีศีลธรรมสูงส่งยังป้องปากตะโกนเรียกให้ทหารออกมาทำรัฐ ประหารกันอยู่อีก!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น