7 สิงหาคม, 2010 - 11:10 | โดย narongyuth
เห็นฝนหลั่งหล่นให้ ชะโลมเห็น
รู้อยู่ความอยู่เป็น อยู่รู้
นิ่งร้าวผ่าวร้อนเย็น ไหวนิ่ง
เผยว่างผุดผันผู้ ผ่องพื้นผลเผย ฯลฯ
สายใยแห่งกวีนิพนธ์ ฉบับที่ 2 ได้รับเกียรติจาก กวีสร้างสรรค์รางวัลวรรณกรรมยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปีพุทธศักราช 2547
ล่วงผ่าน หมึก กระดาษ ปากกา ที่ถ่ายสะท้อนถึงกันนั้นยังมีแก่ใจ มีคุณค่าแก่หัวใจเสมอ แม้ครั้งนี้จะถูกเผยแพร่ต่อเครื่องสมองกล (com)
โดยเจ้าของชิ้นงานให้คนเคียงข้างช่วยสื่อสารผ่านมาทางจดหมายอิเล็คโตรนิคส์ (electronics)
ตามท่วงลีลาสง่าผ่าเผยในร้อยกรองที่ถูกกลั่นมาเป็นถ้อยวลีเรียบง่าย ประดาความสง่างามจากชิ้นงานอันมีชื่อว่า "ในงาน"
เชิญพิศอ่านแล.
ในงาน
-๑- เริ่มลงงาน แต่เช้า ใต้ดาวรุ่ง
ราวกับเดิน ในทุ่ง ของถิ่นฐาน
ราวกับได้ หลับฝัน ย้อนวันวาน
ทุ่งข้างใน ไพศาล บันดาลใจ
-๒- ใจดวงที่ มีรัก จักรับรู้
เปิดประตู สู่ทาง สว่างไสว
ไม่มีเมฆ ข้างนอก หมอกข้างใน
ความฝันใฝ่ แสนงาม ส่องนำทาง
-๓- จึงเห็นทุ่ง สีทอง อันผ่องผุด
ไม่สิ้นสุด มหัศจรรย์ ผู้สรรค์สร้าง
เธอเห็นไหม ดาวรุ่ง เหนือทุ่งน้ำค้าง
เปิดหน้าต่าง พลางรู้ ฤดูดอกไม้
-๔- ด้วยเลือดเนื้อ ชาวนา สามัญชน
ฉันเคี่ยวกรำ ฝึกฝน ความฝันใฝ่
ด้วยความรัก ไม่สิ้นสุด เฝ้าจุดไฟ
จึงรินไหล ในความรัก ทุกวรรคกวี-ฯ
- ๕- มองเห็นเทือก เห็นเถา เนื่องเนานาน
คือรากหญ้า สาธารณ์ ของถิ่นที่
จากปลักตม ต่ำต้อย ร้อยพันปี
ผีกระดูก ปลูกข้าว เลี้ยงชาวชน
-๖- ไม่มีทาง สักสาย ให้คัดเลือก
มีแต่เทือก รอยไถ ไปทุกหน
เมล็ดพันธุ์ หว่านไว้ ข้างในตน
งามในความ ทุกข์ทน ด้วยฝนน้ำตา
-๗- ด้วยหยาดเหงื่อ เหนื่อยเหน็ด เมล็ดรวง
ในใจดวง บังเกิด ความเจิดจ้า
ประดับยัง พื้นถิ่น ดินและฟ้า
ส่องทางบุตร ธิดา ผู้ปราชัย
-๘- บุตรธิดา ของยุค ผู้ทุกข์ท้อ
ไร้ศรัทธา ถักทอ เติมต่อสมัย
รุ่งเรืองโดย ไร้ราก ยิ่งยากไร้
ไม่มีใจ ให้งาน ไม่ผ่านพ้น-ฯ
- ๙- ในทุกทุก ก้าวย่าง กลางท้องนา
ประดุจการ ยาตรา และฝึกฝน
ก้าวไปพลาง นบน้อม พร้อมโน้มตน
ราวดอกฝน เบิกบาน อยู่ด้านใน
-๑๐- ด้วยเนื้อดิน เอื้ออวย ด้วยแสงตะวัน
พร้อมเมล็ด พืชพันธุ์ ช่างฝันใฝ่
หยั่งลงไป ในราก ไม่ยากไร้
ยิ้มที่ผลิ จากใจ ไม่จืดจาง
-๑๑- แต่ละก้าว แต่ละกล้า จึงเกื้อกูล
ทั้งค้ำคูน หล่อเลี้ยง อยู่เคียงข้าง
หนักก็เอา แต่น้อย และปล่อยวาง
รกก็ถาง สร้างทำ ธรรมดา
-๑๒- ใจกับกาย โน้มน้อม ไปพร้อมกัน
ณ ขณะ ปัจจุบัน อันมีค่า
ก้าวของกาย และใจ ไปช้าช้า
แต่ทว่า ซื่อตรง มั่นคงนัก-ฯ
-๑๓- ใครผู้ปลูก พืชพันธุ์ และผลพวง
ในพายุ ทั้งปวง ล้วนหน่วงหนัก
ใครผู้ปลูก ในนาม ของความรัก
ใครหาญหัก เท่าไร ไม่หยุดยั้ง
-๑๔- ยิ่งจะงอก ให้งาม กว่าความเดิม
ยิ่งจะเพิ่ม ปรากฏ สดสะพรั่ง
กลั่นเมฆหมอก กลอกกลิ้ง ความชิงชัง
เป็นสายฝน อันหลั่ง ลงโลมดิน
-๑๕- เพื่อให้งาน งอกงาม เป็นความจริง
สรรค์บางสิ่ง ทิ้งบางอย่าง ไม่รู้สิ้น
เมื่อฟังเสียง หัวใจ จะได้ยิน
นกชีวิต โบกบิน อย่างเบิกบาน
-๑๖- เริ่มลงงาน แต่เช้า ใต้ดาวรุ่ง
ราวกับอยู่ ในทุ่ง กว้างไพศาล
เธอรักไหม ฉันรัก ฤดูกาล
เมฆกุหลาบ อ่อนหวาน เช้าวันนี้-ฯ
-----------------------------------
เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์
๒๕๕๓.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น