วิคเตอร์ บูท (๒)
พุธ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๓
ใคร ที่คิดว่าอเมริกาจะช่วยตนและพวกให้พ้นข้อหาอาชญากรรมระหว่างประเทศ โดยการเอาคดีความบางเรื่องเข้าแลก ก็อย่าหวังว่าอเมริกาจะจริงใจนะครับ ชีวิตมนุษย์จำนวน ๙๑ คน ที่ต้องตายวายชีวันจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ในอนาคตอาจนำความยุ่งยากมาสู่ผู้คนบางกลุ่มด้วยการจะต้องถูกฟ้องร้องของคดี สังหารหมู่ คดีการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ คดีทำร้ายพลเรือน ฯลฯ
เรื่อง การรับโทษทัณฑ์เป็นเรื่องในอนาคต ยังไม่มีอะไรจริงแท้แน่นอน แต่ข่าวที่จะเป็นของแท้แน่ชัดก็คือ บริษัทไทยที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับเรื่องท่องเที่ยวเตรียมรับความหายนะได้ วันที่ผมเขียนต้นฉบับอยู่นี้ มีข่าวจากกรุงมอสโกความว่า ส.ส. ซิรินอฟสกี รองประธานสภาดูมาของรัสเซีย ซึ่งเป็นมหาบัณฑิตจากสถาบันเอเชียและแอฟริกาศึกษา แห่งมหาวิทยาลัยมอสโก ประกาศว่าจะบอยคอตการท่องเที่ยวไทย คนไทยครอบครัวไหนเคยมีอาหารอิ่มท้องเพราะนักท่องเที่ยวรัสเซียมาใช้บริการ ก็เตรียมทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ พร้อมทั้งต้องลองออกไปหาอาชีพเสริมทำ
ผู้ อ่านท่านผู้เจริญ ศาลอาญาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๒ ปฏิเสธคำร้องของสหรัฐอเมริกาในการส่งนายวิคเตอร์ บูท เป็นผู้ร้ายข้ามแดน โดยให้เหตุผลว่า ลักษณะนี้เป็นคดีการเมือง และเป็นคดีที่ศาลไทยพิจารณาไม่ได้ เพราะข้อกล่าวหาของสหรัฐอเมริกาไม่ตรงกับมาตราใดๆ ของศาลไทยเลย
วัน เดียวกันนั้น พนักงานอัยการอุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษาศาลอาญา ศาลอุทธรณ์รับไว้เมื่อ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขังนายวิคเตอร์ บูทไว้เพื่อส่งตัวข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ เมื่อ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓
แต่สังคมภายนอกรู้คำพิพากษาพร้อมกันทั่วโลกเมื่อ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ แสดงว่าคำพิพากษามีก่อนหน้าที่ประกาศจริงถึง ๒ เดือน ๒๗ วัน
ใน ห้วงช่วง ๓ เดือนที่ว่านี้ นายกษิต ภิรมย์ เดินทางไปกรุงมอสโก เพื่อคุยกับกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องของนายบูทด้วย แถมนายกษิตเองก็พบกับนายเซรเกย์ ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียที่กรุงฮานอยเมืองหลวงของเวียดนาม เมื่อออกมาจากห้องสนทนา นายลาฟรอฟบอกกับคนที่นั่งคอยอยู่หน้าห้องว่า “รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยเริ่มพูดถึงกรณีของนายบูทก่อน......”
เรื่อง ที่นายกษิตพูดกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียนั้น เป็นความลับ ไม่มีใครทราบ แต่ผมก็ไม่คิดนะครับ ว่านายกษิตจะแย่ขนาดเอาเรื่องอิสรภาพนายวิคเตอร์ บูท ไปแลกกับการขอให้รัสเซียส่งพันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาให้รัฐบาลไทยลงโทษ
พันตำรวจโท ดร. ทักษิณเป็นบุคคลที่ผู้ใหญ่ทางฝ่ายรัสเซียรักมาก คบกันเป็นเพื่อนตาย นิติภูมิรู้จักคนรัสเซียดี ผมจึงมั่นใจว่า คนรัสเซียไม่ขายเพื่อน
ยิ่ง ถ้าหากนายกษิต ภิรมย์ รู้ผลคำพิพากษาล่วงหน้า ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้วว่าให้ส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท ไปให้สหรัฐอเมริกา ทว่าในระหว่างนั้น นายกษิตยังกล้าไปเจรจาเรื่องแลกตัวนายวิคเตอร์ บูท กับ พันตำรวจโท ดร. ทักษิณฯ ผมว่าอันนี้ก็เหมือนรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยไปหลอกลวงรัฐบาลรัสเซีย
คนบ้านนอกคอกนา ตระกูลแม่ค้าขายขนมในตลาดสดและทำไร่ไถนาหาปลาในทะเลอย่างนิติภูมิ ก็ไม่เชื่อหรอกครับ ว่าผู้ดีอย่างนายกษิตจะทำ
แต่ถ้าทำ ก็ต้องถือว่านายกษิตเป็นคนเลวมาก
และก็สมควรที่คณะรัฐบาล และสมาชิกรัฐสภาแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และประชาชนคนรัสเซียจะโกรธมาก
รัส เซียทำทุกอย่างเพื่อให้นายบูทมีอิสรภาพ และช่วยหาหลักฐานมามอบให้ฝ่ายสงสัยหลายครั้ง เพื่อยืนยันว่านายบูทเลิกธุรกิจระหว่างประเทศทั้งหมด รวมทั้งธุรกิจการบินด้วยตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๔ มีหลักฐานจาก ต.ม. รัสเซียว่า ระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๔-๒๕๕๑ นายวิคเตอร์ บูท เคยเดินทางไปจีน ๑ ครั้ง มอนเตรเนโก ๑ ครั้ง อาร์เมเนีย ๑ ครั้ง และมาเมืองไทย ๑ ครั้ง โดยเหยียบแผ่นดินไทยได้เพียง ๓ ชั่วโมงก็ถูกจับ
ถ้าบูทเป็น พ่อค้าอาวุธตัวจริงก็น่าจะรวยนะครับ สมบัติพัสถานของคนค้าอาวุธบ้าอะไร ทำไมมีน้อยจัง? มีบ้าน ๒ ชั้น ๓ ห้องนอน ขนาดไม่กี่ตารางวาที่อยู่ห่างจากรุงมอสโกไปตั้งเกือบครึ่งร้อยกิโลเมตร สมบัติอีกอย่างก็เป็นคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก ๒ ห้องนอน และมีหุ้นเล็กน้อยในบริษัทผลิตวัสดุก่อสร้างสำหรับตลาดรัสเซีย
ตั้งแต่หัวหน้าครอบครัวติดคุกไทย ครอบครัวของบูทต้องวิ่งหาสตางค์มาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี จนขณะนี้ มีแต่หนี้รุงรัง
นาง อัลลา ภรรยาของนายบุช ไม่เคยออกนอกประเทศไทยเลยมามากกว่า ๒ ปีแล้ว เธอเช่าห้องเล็กๆ ขนาด ๔๐ ตารางเมตรแถวเรือนจำ เพื่อซุกหัวนอน และเพื่อสามารถเดินทางไปเยี่ยมและนำอาหารไปให้สามี ได้ทุกวันๆ ละ ๑๕ นาที
ลูกสาววัย ๑๖ ปีของวิคเตอร์ บูท และนางอัลลา ต้องย้ายไปขออาศัยอยู่บ้านตากับยายในกรุงเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก
พ่อค้าอาวุธบ้าอภิพญามหาเศรษฐีอะไรกันครับ ต้องยืมเงินคนไทยเพื่อนำไปใช้จ่ายประคองชีวิตให้ดำรงคงอยู่ได้ ยืมทีละไม่กี่หมื่นบาทซะด้วย
พวกเอ็งจะบ้านิยายที่ไอ้ดักลาส ฟาราห์ โม้กันไปถึงไหน?
[25/8/2553]
http://www.tfn3.info/board/index.php?topic=14129.0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น