คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : สนามเล็กในระบอบใหญ่
โดย : กาหลิบ
วันนี้ จำต้องสะท้อนถึงผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร (ส.ข.) ซึ่งเป็นชัยชนะทางตัวเลขอย่างขาดลอยของพรรคประชาธิปัตย์ ใครจะว่าซ้ำเติมกันอย่างไรก็ว่าเถิด
ขบวนประชาธิปไตยมาถึงขนาดนี้ แล้ว พูดความจริงกันไม่ได้ ก็ควรไปเปิดกรวยอำนวยพรและกราบเท้ากันต่อไปให้มันเพลิดเพลินเจริญใจ อย่ามาเกะกะอยู่บนถนนสายปฏิวัติกับเขาเลย
ผลการเลือกตั้ง ส.ก. และ ส.ข. ครั้งนี้บอกอะไรกับเราบ้าง?
ผู้ที่กำลังหลงใหลใฝ่ฝันถึงการเลือกตั้ง กระหายใคร่เลือกตั้งใหญ่โดยเร็วที่สุด โปรดนำผลนี้มาพิจารณาสักหน่อย
บาง คนกำลังฝันหวานว่าจะได้เลือกตั้งกันเร็วๆ นี้แล้ว ไม่กุมภาพันธ์ปีหน้าก็เร็วกว่านั้น วันนี้จึงจำเป็นต้องระดมทุนมาฟื้นฐานเสียงและวางยุทธวิธีกันแต่เนิ่นๆ ในระยะตกเขียวของคนที่ไม่มีอาชีพอย่างอื่นรองรับ ไม่น่าแปลกใจที่มีข่าว “แพ็คเกจคู่ ๘๐ ล้าน” หรืออะไรออกมาให้วุ่นวายไปหมด
บางคนกำลังหวัง ว่า เขาคงเจรจารวมไปถึงคดีความที่เกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งหมด ว่ากันตั้งแต่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นมาเลยทีเดียว นิรโทษกรรมเสียให้เกลี้ยงถาดแล้วกลับสู่สนามเลือกตั้งกันให้หมด เรื่องนี้คนที่พลัดบ้านพลัดเมืองมาบางคนก็ยังร่วมฝันหวานกับเขาไปด้วย
ต่างคนก็ต่างฝันกันไป จนมามองผลการเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งเป็นการเลือกตั้งสนามเล็ก
ผู้ คร่ำหวอดบางท่านเอะอะขึ้นว่า ประชาธิปัตย์เขาครองสนามนี้มาแต่ไหนแต่ไร ใช้เป็นมาตรวัดสนามใหญ่ไม่ได้หรอก พ่ายแพ้ในสนามนี้ไม่ได้แปลว่าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะไร้สิ้นทางสู้ในสนามใหญ่
ก็ อาจจะจริง แต่ท่านลืมไปหรือเปล่าว่าสิ่งสำคัญกว่าความนิยมหรือเจตนารมณ์ของมวลชนที่รัก ท่านอยากเชียร์ท่านใจจะขาดนั้น คืออำนาจรัฐที่ฝ่ายเขาใช้ควบคุมและครอบงำกระบวนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอีก ต่อหนึ่ง
มีคนติงว่า เราเคยชนะอย่างสง่างามมาแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐ ท่ามกลางฝูงเผด็จการทั้งใน คมช. และรัฐบาล คราวนี้ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยไม่ได้หรืออย่างไร ยิ่งมวลชนแดงกันทั้งประเทศอย่างไม่ยอมโรยราก็ยิ่งเป็นคะแนนสะสมที่หนักแน่น ยิ่งกว่าการเลือกตั้งครั้งนั้นไม่ใช่หรือ
คำตอบก็คือ คราวนั้นเขาเผลอไผล เชื่อมั่นในอำนาจควบคุมของกองทัพมากจนเกินไป บวกกับความไร้ประสิทธิภาพอย่างไม่น่าเชื่อของรัฐบาลสุรยุทธ์ ความศรัทธาของมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยที่เปี่ยมล้นจึงได้รับการสะท้อนออกมาผ่าน การเลือกตั้ง แล้วอย่างไรเล่า? สุดท้ายเขาคนนั้นก็ต้องปลุกผีพันธมิตรฯ สั่งผู้พิพากษาฝ่ายเขา และระดมพวกทหารมองการณ์สั้นในกองทัพมาทำลายรัฐบาลของผู้ชนะลงถึงสองชุด
แต่ คราวนี้ เขาใช้พลแม่นปืนหรือสไนเปอร์กับประชาชนผู้ไร้อาวุธและเรียกร้องเพียงการยุบ สภาจนล้มตายกันเป็นร้อยๆ ทั้งที่เป็นทางการและตามความจริงแล้ว เขาจะไม่เรียนรู้ความผิดพลาดเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๐ และหาทางกลบเกลื่อนความชั่วร้ายเลวทรามของตัวเองเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคมปี นี้ คงเป็นไปไม่ได้แน่
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็สั่งให้การเลือกตั้งเป็นทุ่งสังหารแห่งใหม่
ผู้สมัครรับเลือกตั้งฝ่ายเราที่มีทางชนะ จะถูกทำลาย ทำร้าย และทำให้แพ้ไปได้ อาจสูญเสียแม้กระทั่งชีวิต
สุดท้ายก็จะโกงที่ผลการเลือกตั้งนั้นเอง จนฝ่ายประชาธิปไตยแพ้ หรือไม่ชนะอย่างหนักแน่นพอจะถ่วงดุลกับอำนาจอันล้นพ้นของเขาได้
เมื่อคำว่า ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทย แม้กระทั่งคำว่า ทักษิณ เริ่มเลือนราง ก็สั่งการให้ยึดอำนาจรัฐประหารรอบใหม่
ล้างไพ่ยังไม่พอ คราวนี้ให้ล้างโต๊ะที่นั่งเล่นไพ่นั้นด้วย
เลือกตั้งให้ตายในระบอบเขา ก็ได้แค่ตายครับ.
-------------------------------------------------------------------------------
เรียบเรียงโดย Nangfa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น