“ใจ อึ้งภากรณ์”
จีรนุช เปรมชัยพร ผอ. ประชาไท ถูกกักตัวโดยตำรวจเป็นครั้งที่สองที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่๒๔ กันยายน ๒๕๕๓
มัน เป็นเรื่องตลกร้ายและน่าอับอายขายหน้าโลกที่คุณจีรนุชถูกจับหลังจากที่เขา เดินทางกลับจากการประชุมนานาชาติเรื่องเสรีภาพทางอินเตอร์เน็ท “Internet Liberty 2010″ ที่ประเทศอังการี่
มีรายงานข่าวว่าการจับคุมคุณจีรนุช เกิดจากเหตุการณ์ที่ขอนแก่น แต่ดูเหมือนว่ามีความสับสนเรื่องวันที่ของเหตุการณ์นั้น ทางตำรวจขอนแก่นอ้างว่ามีการออกหมายจับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วในข้อหา เกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ แต่การที่ตำรวจขอนแก่นใช้เวลาหนึ่งปีเพื่อที่จะจับคุณจีรนุช ทั้งๆ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติรู้จักสำนักงานของประชาไทดี เป็นเรื่องเหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นการที่มีการออกหมายจับโดยไม่มีหมายเรียก ก่อนหน้านั้นอาจผิดกฎหมาย
พ.ต.ท.ชัชพงษ์ พงษ์สุวรรณ์ พนักงานสอบสวน(สบ.2)สภ.เมืองขอนแก่น หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวเปิดเผยต่อ
มติชนออนไลน์ว่ามีคนแจ้งความคุณจีรนุชที่ขอนแก่นในปี ๒๕๕๑และหลังจากที่มีการปรึกษาหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีการออกหมาย จับเมื่อนักข่าวถามว่าทำไมไม่ออกหมายเรียกก่อน พ.ต.ท.ชัชพงษ์ตอบว่าในกรณี“คดีร้ายแรงไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกก่อน” อย่างไรก็ตามในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอื่นๆก็มีการออกหมายเรียกก่อน และถ้าตำรวจรีบร้อนที่จะจับคุณจีรนุช ทำไมใช้เวลาหนึ่งปีในการหาตัว?
เมื่อปีที่แล้ว ตำรวจกองปราบปรามได้บุกเข้าไปที่สำนักงานของประชาไทที่กรุงเทพฯในวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๒ และจับคุมคุณจีรนุชในข้อหากระทำผิดกฎหมายคอมพิวเตอร์เพราะลบข้อเขียนที่ถือ ว่าหมิ่นเบื้องสูงในเวปบอร์ดออกไปไม่ทันใจรัฐบาลต่อมาในวันที่๓๑ มีนาคมมีการตั้งข้อหาเป็นทางการหลังจากนั้นในวันที่ ๗ เมษายนปีเดียวกันคุณจีรนุชต้องไปรายงานตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เพื่อฟังข้อหาเพิ่มอีก ๙ข้อองค์กร“เสรีภาพจากการเซ็นเซอร์ประเทศไทย”อธิบาย ว่าข้อหาต่างๆ นี้ทำให้ ผอ. ประชาไท เสี่ยงกับการติดคุกถึง ๕๐ ปี จากสิ่งที่ตนเองไม่ได้เขียนคดีของคุณจีรนุชคดีแรกนี้ ศาลนัดครั้งต่อไปเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
ก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคม ๒๕๕๒ นายกรัฐมนตรีทหาร อภิสิทธิ์ ได้พูดกับนักศึกษาและนักวิชาการที่ StJohn’s College มหาวิทยาลัยออคซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษว่า เขาได้ “จัดการเคลียร์” คดีจีรนุชเรียกร้อยแล้วและมันเป็น“การเข้าใจผิดของตำรวจ” การที่คดีคุณจีรนุชยังดำเนินต่อพร้อมกับการจับคุมรอบสองนี้ พิสูจน์ว่านายอภิสิทธิ์พร้อมจะโกหกต่อชาวต่างประเทศเพื่อให้ตนเองดูดีว่าปก ป้องประชาธิปไตย การฆ่าประชาชนมือเปล่าที่ราชดำเนินและราชประสงค์ในขณะที่เขาเป็นนายกช่วย เน้นความตอแหลของเขานี้
การจับคุม ผอ. ประชาไทสองรอบ บวกกับข้อหาที่ตั้งไว้มากมาย ถือว่าเป็นการรังแกสื่อเสรีอย่างรุนแรงและเป็นการละเมิดเสรีภาพของสื่ออย่าง ต่อเนื่อง
ประชาไท ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายนปี ๒๕๔๗ เพื่อเป็นหนังสือพิมพ์อินเตอร์เน็ทอิสระที่ไม่แสวงหากำไร
ผู้แรกเริ่มก่อตั้งคือ จอน อึ๊งภากรณ์ และนักเคลื่อนไหวทางสังคมคนอื่นๆ วัตถุประสงค์ของประชาไท
ตามที่ประกาศไว้ในเวปไซท์คือ
1.เพื่อให้ประชาชนไทยเข้าถึงข่าวและข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
และเกี่ยวข้องกับการพัฒนาการทำงานของประชาสังคมในทิศทางประชาธิปไตย
2.เพื่อรายงานปัญหา ข้อกังวล กิจกรรม และผลงานของชุมชน และขบวนการหรือองค์กรประชาสังคม
3.เพื่อให้สื่อไทยมีเสรีภาพและความอิสระ
4.เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในสื่อไทย
ตั้งแต่รัฐประหาร ๑๙ กันยาที่ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาไทมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเสนอข่าวอิสระในยุคที่รัฐบาลทหารปิดกั้นและควบ คุมสื่อทุกชนิดอย่างรุนแรงในระยะเวลานี้ประชาไทถูกรัฐบาลปิดสามครั้งและต้อง ตั้งเวปใหม่สามครั้ง
ในเดือนมกราคม ๒๕๕๓ องค์กร Human Rights Watch ที่มีสำนักงานที่สหรัฐรายงานว่า “ถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์จะมีคำพูดสวยหรูตามนโยบายที่ดีในเรื่อง สิทธิมนุษยชนในปี๒๕๕๒ แต่การกระทำของเขาไม่ตรงกับสิ่งที่เขาพูดรัฐบาลทำลายสิทธิมนุษยชนและกระบวน การทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง…ระบบประชาธิปไตยไทยถูกทำลายจากกฎหมายหมิ่นพระ บรมเดชานุภาพ และกฎหมายคอมพิวเตอร์ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายโหดเหี้ยมที่สร้างบรรยากาศแห่ง ความกลัวในการพูดคุยในสังคมกว้างหรือในแวดวงอินเตอร์เน็ท และนี่คือผลงานของรัฐบาลอภิสิทธิ์”
http://robertamsterdam.com/thai/?cat=6
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น