จดหมายถึง "ดิน"
ดิน ที่รัก
นานมากแล้วที่เราไม่ได้สื่อสารถึงกัน เกรงใจดินมาก รู้ว่า ดินยุ่ง ดินเหนื่อย จึงไม่กล้ารบกวนดิน แต่ข่าวคราวของดินเรารับรู้ตลอด เราติดตามตลอด
เดี๋ยวนี้ดินเปลี่ยนไปจากเดิม จากดินที่เคยอ่อนน้อมถ่อมตนใครๆก็พึ่งพาอาศัยดิน รักเคารพดิน บัดนี้ ดินกลายเป็นดินที่แข็งกร้าว ดินกลายเป็นอสูร ดินกลายเป็นส่วนเกินของพวกพี่น้องเรา ใครๆก็กลัวดินเกรงดินกันไปหมดแล้ว ความรักความศรัทธากลับหดหาย
วันที่เราจากดินมา ดินยังจำได้ไหม วันนั้นเป็นวันอะไร ปีอะไร ถ้าดินยังจำไม่ได้ เราจะบอกดินให้ วันนั้นเป็นวันที่6ตค.ปี2519 เป็นวันที่เราพี่น้องของเรา นอนอยู่บนดิน กินอยู่บนดิน รอบๆบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทุกอย่างทุกสรรพสิ่งก็อาศัยดินกันทั้งนั้นในวันนั้น ดินช่างดีเหลือเกินไม่ถือสาพวกเราเลย โอบกอดพวกเราไว้ในวงแขนให้ได้รับความอบอุ่นภายใต้วงแขนของดินเอง ดินเป็นผู้ให้อย่างเดียวเอื้ออาธรกับทุกผู้ทุกเหล่า ใครใคร่ทำอะไรกับดินในวันนั้นดินยอมให้ เพราะดินรักเขา ดินเสียสละให้พวกเขา พวกเราพร้อมใจกันขับร้องเพลงให้กับดิน สดุดีในความดีของดิน
แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในวันนั้น อะไรก็ไม่รู้มาดลใจให้ดินต้องเปลี่ยนไป จากดินที่เอื้ออาธร กลายเป็น ดินผู้หิวกระหายเลือดแทน ในวันนั้นเอง ดินได้ดูดซับเลือดของพี่น้องเราไปมากมายหลายชีวิต ทุกผู้หัวใจแทบสลายกับการกระทำของดินในวันนั้น และไม่เข้าใจว่าดินเป็นอะไรไปถึงทำกับเราได้ถึงเพียงนี้ คล้ายกับว่า เราไม่เคยรักกันมาก่อนอย่างนั้น
เราจึงห่างเหินกันตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แต่เราไม่เคยลืมดินเลยแม้แต่น้อย ยังรักและห่วงใยดินอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง
เวลานานเข้าดินก็แปลเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปีและเป็นหลายปี ชื่อเสียงของดินเริ่มโด่งดังขึ้นมาเรื่อยๆ หนังสือพิมพ์หลายฉบับในต่างประเทศ ลงเรื่องของดินอย่างต่อเนื่อง
เมย.52 ดินโด่งดังมาก ดินดื่มเลือดมากมายแต่หาศพผู้ตายไม่เจอสักหนึ่งเดียว และพวกผู้ที่เสียเลือดไปก็เป็นพี่น้องของเราอีกเช่นเคย
ความเสียใจน้อยใจของเรา มีให้กับดิน แต่ดินไม่รู้ตัว ดินกลับคิดว่า ทั้งหลายทั้งปวงยังรักและบูชาดินเหมือนเดิม ดินไม่อีนังขังขอกแม้แต่ออกมาพูดซักนิดว่า “ผู้ที่ตายและบาดเจ็บยังไงก็เป็นที่รักของดิน” ดินไม่พูด ตรงข้ามการกระทำของดินยังแสดงออกเหยียดหยามพี่น้องเราอีก หลายผู้เจ็บช้ำน้ำใจ รันทด เสียดายความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้ และหลากหลายอดใจไม่อยู่แสดงออกด้วยการเกลียดชังดิน
สิ่งนี้เองเมื่อได้แสดงออกมันก็มีการตอบสนองกัน ดินสั่งการให้กวาดล้างพี่น้องของเราเป็นการใหญ่หลายผู้ต้องไปนอนใต้ดินไม่ หายใจ หลายผู้ต้องโดนจับตัวไป
อีกครั้งเมย.53-พค.53 ดินไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น ดินเอาเลือดเอาชีวิตของพี่น้องเราไปมากมายอย่างไม่สะทกสะท้าน เหมือนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับดินไปแล้ว 91ชีวิตที่สังเวยให้กับดิน 2000 ชีวิตที่ต้องเจ็บพิการให้กับดิน ดินยังมิหนำใจ
จนบัดนี้ย่างเข้าเดือนกันยายนแล้ว ดินยังไม่หายหิว ดินยังตามไล่ล่าดื่มเลือดพี่น้องเราไม่เลิกและต่อเนื่อง ล่าสุดพี่น้องเราเยาวชนอายุยังน้อยอยู่แท้ๆ ดินได้เอาชีวิตของเขาไปซะแล้วที่เชียงใหม่
ดินครับ ดินที่เราเคยรัก ดินที่เราบูชา “เราขอความรักที่เรามีต่อดินคืนนะครับ” เรารับไม่ไหวแล้วกับการกระทำของดิน
ส่วนที่มันผ่านมาก็ขอให้มันผ่านไปด้วยดี อดีตเราไม่ต้องทวงถามกัน ความรู้สึกดีๆที่เคยมีต่อกันอย่านำเอามันมาคิดอย่านำเอามันมาพูดถึง มันไม่คงอยู่แล้วมันละลายหายไปกับการกระทำของดินเอง
ที่เขียนจม.มาหาดินในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องอื่นได ไม่ต้องการมาทวงถามทวงหาความรู้สึกเก่าๆที่เรามีต่อกันไม่ต้องการให้วัน เก่าๆกลับคืนมาอีก ไม่ต้องการให้ดินกลับมารักเราเหมือนเดิม
เพียงแต่ว่าที่เขียนมานี้เพียงอย่างเดียวที่จะบอกว่า “เราไม่ผิด ถ้าเราจะเกลียดดิน”
เพื่อดินจะได้รู้ตัวว่าเราเกลียดดินเพราะอะไร เพราะเราชื่อว่าตอนนี้ ณ.ขณะนี้ ดินยังไม่รู้ตัวเองว่าดินนั้นเสื่อมลงแล้วด้วยตัวของดินเอง ด้วยความกระหายที่ไม่รู้จักอิ่มของดินเอง
ก็ขอให้ดินไปดี อยู่รอดปลอดภัย เราคงมีแค่คำพูดให้กับดินได้แค่นี้
อดีตที่คิดว่าเคยรักดิน
ไส้เดือน
ก่อนจะมาเป็นจดหมาย มารู้ความหมายของ “ดิน”
ดินคืออะไร? พระแม่พระธรณีบีบมวยผมองค์ใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ คือใคร?
“ดิน” หรือ “พื้นดิน” ในความหมาย หมายถึง “ธรณี” ที่เรามักเรียกแผ่นดินด้วยความยกย่องเธอเป็นสตรีและเรียกเธอว่า “พระแม่ธรณี”
ตามความเชื่อถือกันมาช้านานของชาวพุทธ พระแม่ธรณี เป็นผู้สังหารผู้คนทั้งหมู่บ้านด้วยการบีบน้ำจากมวยผม จนน้ำท่วมไปทั่วเมืองและทำให้ผู้คนสิ้นชีวิตทั้งหมด
เพราะต้องการให้ องค์สมเด็จพระสำมาสำพุทธเจ้าได้ทรงแสดงเทศนาในหมู่บ้านแห่งนั้น แต่ชาวบ้านมิยินยอมเกรงว่าพระพุทธเจ้าจะยึดที่ดินของพวกตนมาสร้างวัด จึงได้รวมตัวกันทั้งหมู่บ้านออกมาขับไล่พระพุทธเจ้าออกไปให้พ้น
พระแม่ธรณีทนดูไม่ได้ จึงต้องออกมาสังหารชาวบ้านทั้งหมดจนสิ้น
การกระทำในครั้งนั้นของพระแม่ธรณี เป็นบาปอย่างมหันต์ แต่บาปนั้นก็สามารถเปลี่ยนเป็นอื่นได้เมื่อพวกชาวบ้านผู้สูญเสียชีวิตไปไม่ ใช่มนุษย์ปกติ แต่กลายเป็น “มาร”
ซึ่งในเวลาต่อมาปางหนึ่งของพระพุทธรูป จึงมีผู้สร้าง “ปางชนะมาร” ขึ้นมา ก็อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ในตอนนี้
ในกึ่งพุทธกาล มีชายหนึ่งนามว่า “อภิสิทธิ์” ได้ถือกำเนิดขึ้นมา ได้เล่าเรียนจนสำเร็จการศึกษา ณ.สถาบันอันสูงส่งของโลกในดินแดนไกลโพ้น ในสำนักตกศิลาแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า “อ๊อกฟอร์ด”
เมื่อย่างเข้า45ปีก็เข้าสู่ยานอันสูงส่ง สำเร็จมรรคผลสิ้น ย่างเข้าปีที่46 ถูกสถาปนาเป็น “อภิสิทธัตถะ” และกลับมาปกครองบ้านเมืองตนเอง
เมื่อเข้าปี พศ.2553 “องค์อภิสิทธัตถะ” เกิดปัญหาประชาชนเสื่อมศรัทธาไปทั่ว เช่นเคยตามอดีตกาลในครั้งพุทธกาลอีกครั้ง กล่าวคือได้มี “พระแม่ธรณี” องค์ใหม่ เข้ามาขจัดมารให้ ครั้งนี้ไม่ใช้น้ำจากมวยผมมาจัดการ แต่ใช้ ไสนเปอร์ เอ็ม16 ปืนลูกซองออกมาเข่นฆ่าประชาชนแทน
และอีกเช่นเคยเป็นบาปอย่างมหันต์ แต่มหันต์นั้นสามารถเปลี่ยนได้ จากประชาชนคนธรรมดากลายเป็น “ผู้ก่อการร้าย”แทน
บาปนั้นจึงไม่เกิด
สิ่งที่จะบอก
“ดิน”หรือ“พระแม่ธรณี”องค์นี้ องค์ที่เกิดคู่บารมีกับ “องค์อภิสิทธัตถะ”องค์ที่ปราบผู้ก่อการร้ายในปี2553 เป็น “ดิน”ที่”ไส้เดือน”เขียนจดหมายถึง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น