เมื่อทำชั่วได้ดี?

หาก เราจะต้องร่างรายชื่อของบุคคลที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งหลังจากการกระทำอัน กดขี่และทารุณต่อประชาชนในทุกรัฐบาลแล้วคงต้องใช้เวลานานทีเดียว และสิ่งที่ชัดเจนคือตั้งแต่สมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ไปจนถึงรัฐบาลนายธานิน กรัยวิเชียร กลุ่มบุคคลที่กระทำการอันเป็นปริปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรงมัก ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ในปัจจุบันปี 2553 เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันแรือเรียกว่าระบบอุปถัมภ์ในกองทัพโดยใช้การเลื่อน ตำแหน่งเพื่อเป็นเครื่องประกันให้บุคคลในตำแหน่งระดับสูงไม่ต้องรับผิดชอบ ต่อการกระทำไม่เพียงแต่เกิดขึ้นซ้ำซาก แต่ยังเพิ่มความรุนแรงขึ้นหลังจากมีการสลายการชุมนุม นายทหารหลายนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าหมู่ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมใน กรุงเทพมหานครได้รับการเลื่อนตำแหน่งภายในกองทัพไทย เริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผู้บัญชาการทหารบก นายทหารชั้นผู้ใหญ่หัวอนุรักษ์นิยมที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มอำมาตย์ และเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำอันกดขี่อันทารุณต่อคนเสื้อแดง ได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบก โดยพล.อ.ประยุทธ์ จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวอีกไม่กี่อาทิตย์ การที่บุคคลซึ่งไม่มีความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยและการรับผิดชอบต่อการ กระทำการในตำแหน่งหน้าที่อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการเลื่อนขั้นให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ทำให้หลายคนที่สนับสนุนแนวทางปรองดองสมานฉันท์รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้นายทหารที่อยู่เบื้องหลังแผนยุทธศาสตร์การฆ่าหมู่ในเดือนเมษายนและ พฤษภาคมอย่างพล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งอีกด้วย และสิ่งที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือภรรยาของพล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณหรือแม้แต่น้องสาวของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดาก็ยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งอีกเช่นกัน แต่กรณีที่น่าตกใจมากที่สุดคือการเลื่อนขั้นนายตำรวจอย่างพล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม ขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยหนังสือพิมพ์บางกอกโพสระบุว่า “ พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอมกับพวกอีก 4คนถูกอัยการฟ้องร้องว่าในวันที่ 12 มกราคมว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย นายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี่ในปี 2540” การตกเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงทำให้พล.ต.ท. สมคิดไม่สมควรแม้แต่จะดำรงตำแหน่งดั่งกล่าว โดยไม่ต้องกล่าวถึงการเลื่อนตำแหน่งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญดังกล่าวเลย การเลื่อนตำแหน่งดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวความคิดอันเป็นปริปักษ์ต่อความ รับผิดชอบต่อการกระทำที่ผิดกฎหมายของรัฐบาลและกลุ่มอำมาตย์ และเมื่อถามว่าใครคือบุคคลที่ออกมาปกป้องการเลื่อนตำแหน่งของพล.ต.ท. สมคิด? ไม่ใช่บุคคลอื่นไกลแต่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และรองนายกรัฐมนตรีสุเทพ เทือกสุบรรณนั้นเอง นายสุเทพดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีโดยการแต่งตั้งไม่ใช่จากการเลือกตั้ง นายสุเทพต้องลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจาก ข้อกล่าวหาเรื่องคอรัปชั่นหลายข้อกล่าวหา และนายสุเทพในปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุก เฉิน อันเป็นกลุ่มองค์กรที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อการสลายการชุมนุมที่นำไปสู่การ ฆ่าหมู่ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมในกรุงเทพมหานคร กล่าวอย่างสั้นๆคือ รองนายกรัฐมนตรีสุเทพต้องปกป้องระบบที่ปูทางในตนขึ้นสู่ตำแหน่งและระบอบที่ ประกันไม่ให้นายสุเทพต้องรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว บุคคลที่รับใช้ระบบนี้เ่ท่านั้นที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ความสามารถส่วนบุคคลและการรู้จักรับผิดชอบต่อการกระทำของตนไม่ใช่ประเด็นที่ นำมาพิจารณาประกอบการเลื่อนตำแหน่ง การเลื่อนตำแหน่งดังกล่าวยังคงมีขึ้นท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากประชาคมโลก ให้มีการสอบสวนที่จริงจังและเป็นธรรมเกี่ยวกับการฆ่าหมู่ในกรุงเทพมหานคร การเลื่อนตำแหน่งดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความประสงค์ของกลุ่มอำมาตย์ที่ยังคง จะเดินหน้ากระทำการอันทารุณและก่ออาชญากรรมเงียบต่อประชาชนชาวไทย