คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง งานลับอเมริกัน
โดย กาหลิบ
ไม่นานมานี้ นักการทูตคนสำคัญของสหรัฐอเมริกาเข้าไปนั่งคุยลับๆ กับนาย
และที่น่าสังเกตมากก็คือ ไร้วี่แววของ นายก
ตัวแทนของวอชิงตันแกก็พูดตรง เมื่อเจอหน้าอภิสิทธิ์แล้วแกก็บอกว่ามาพูดสองเรื่องเท่านั้น
เรื่องแรกคือการสั่งปราบปรามประชาชนด้วยอาวุธ สงคราม
อภิสิทธิ์ ถามว่าวอชิงตันว่าอย่างไร
ทูตตอบ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนั้นและจะยุติการสนับสนุนรัฐบาลไทยทันทีหากเกิดเหตุ ซ้ำสองขึ้นอีก
อภิสิทธิ์ ถามว่า สหรัฐฯ ก็ออกแถลงการณ์มิใช่หรือว่า ไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้าย เหตุไฉนการต่อต้านการก่อการร้ายจึงกลับกลายเป็นเรื่องผิดในสายตาสหรัฐฯ ขึ้นมา
ทูตไม่ตอบคำถาม แต่เน้นย้ำว่าการใช้อาวุธสงครามและการปราบปรามประชาชนที่ผ่านมา ชาติของเขาไม่อาจจะยอมรับได้ และเน้นย้ำว่าคราวต่อไปเขาจะแสดงออกอย่างเปิดเผยนะ
ฝ่าย ไทยถาม แล้วประเด็นที่สองคืออะไร
ให้ เลิกไล่ล่าทักษิณได้แล้ว ฝ่ายสหรัฐฯ ตอบ เพราะตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้ถือกำเนิดขึ้น งานล่าตัวอดีตนายกรัฐมนตรีกลายเป็นหัวใจของรัฐบาล แทนการบริหารประเทศ นายกรัฐมนตรีและทีมงานรอบตัวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเกินไป จนความสงบสุขเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ รัฐบาลและผู้สนับสนุนรัฐบาลจะอับปางลงในที่สุด
อภิสิทธิ์ ฟังแล้วก็เงียบ ครั้นจะอธิบายชวนเชื่อแบบไทยๆ ว่าอดีตนายกฯ เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและทั้งสองเรื่องเป็นประเด็นเดียวกัน ก็เกรงว่าสหรัฐฯ จะงัดหลักฐานที่ฝ่ายเขาก็รวบรวมไว้เหมือนกันออกมาแสดงจนหน้าแตกสลาย
พูดสอง ประเด็นครบแล้วทูตก็ลากลับ
ถามว่า เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ นี้ มีความหมายอย่างไร โดยเฉพาะต่อขบวนประชาธิปไตย เราคงจะแยกได้เป็นข้อๆ
งานนี้ ไม่ได้แปลว่าสหรัฐอเมริกาเกิดจะเป็นคนดีขึ้นมา หลังจากที่ออกแรงสนับสนุนระบอบชั่วในเมืองไทยเพราะมีข้อตกลงลับอันยาวนาน ระหว่างกันตั้งแต่สงครามเย็น แต่เนื่องมาจากพฤติกรรมที่ไม่เห็นแก่ชีวิตจิตใจของเพื่อนร่วมโลก อย่างที่แสดงออกอย่างชัดเจนเมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๒ ,๑๐ เมษายน และ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นมาจนทำให้น้ำกระเพื่อมทั่วแผ่นดินไทย ทำให้วอชิงตันประเมินสถานการณ์ว่าระบอบไทยกำลังพาตัวเองเข้าสู่มุมอับ
ความ วินาศของระบอบไทยอาจทำให้ผลประโยชน์อันล้นพ้นของสหรัฐฯ ในย่านนี้เสียไปได้ คำเตือนจึงมาถึง
ไม่ได้แปลว่าหันเหกลับมาสนับสนุนฝ่ายประชาชนในบัดนี้ แต่อย่างใด
อีกประการหนึ่งคำเตือนในคราวนี้ไม่ใช่พูดกับนาย อภิสิทธิ์ฯ แต่เป็นการฝากผ่านไปถึงคนที่ใส่โปรแกรมจนฝังหัวของนายอภิสิทธิ์ฯ ว่า การประหัตประหารพี่น้องร่วมชาติเพียงเพราะเขาเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็น มนุษย์และรักประชาธิปไตย เป็นเรื่องถูกต้องและสมควรได้รับรางวัล
ก็คือ เตือนไปถึงยอดของระบอบไทยว่ารู้จักเห็นคุณค่าความเป็นคนของคนอื่นเขาบ้าง นั่นล่ะ
เตือนแล้วจะได้ผลแค่ไหนแล้วแต่ความพิการทางใจของคนที่ถูกเตือน
ข้อสำคัญคือเมื่อทำอะไรเกินเลยไปแล้วก็เท่ากับฆ่าตัวตายช้าๆอยู่ทุกวันจนแม้ แต่สปอนเซอร์ของตัวแท้ๆเขายังเห็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น