Mon, 2010-07-26 19:56
การขอคืนพื้นที่ของรัฐยังดำเนินไปอย่างไม่หยุด....
รสสุคนธ์หอมรื่นเคล้า ระเหยหอม
เพลินเด็ดอักขระดอม ดอกไม้
ถวิลกลิ่นจำปาขอม วิสาขะ
รฦกฤกษ์เวียนเทียนไหว้ วิเวกท้องสนามหลวง
เทียนไสวสว่างท้อง พระเมรุสวรรค์
กาลล่วงใกล้สายัณห์ ย่ำฆ้อง
เพ็ญโคมเยี่ยมโพยมจันทร์ คลุมแผ่
อธิษฐานไตรรัตน์ป้อง พรุ่งนี้ประกาศชัย
ปัถพินขอต้อนรับ มหาชน
เนืองขนัดหลามมณฑล แน่นล้อม
เลอค่ากว่าโภคผล ทั่วพิภพ
ธรณินยังนบน้อม หน่อเนื้อนิรนาม
รอยไถแรกหว่านข้าว นาขวัญ
เพิ่งจรดพระนังคัล เคลื่อนพ้น
วันผ่านพลิกดินผัน พลาภาพ
กล้าพืชโตเหยียดต้น หยัดต้านมารทมิฬ
สายลมพัดเสียดถ้อย มธุรศิลป์
ไพเราะเพียงก้อนดิน กระดิกได้
ล้านเสียงโศกถวิล เสรีภาพ
ร่วมเจตน์ผนึกไว้ ผูกร้อยหทัยเดียว
ผันเวียนขึ้นป่าวร้อง โพนทนา
ถือหลักอหิงสา ต่อสู้
ชูมือปราศศาสตรา ว่างเปล่า
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมรู้ แผ่นฟ้าเป็นพยาน
เพรียกหาแสงส่องหล้า เรืองนิรันดร์
ด้วยปีกแห่งความฝัน หิ่งห้อย
สอยเด็ดสุริย-จันทร์ จรพิลาป
ฤๅพรั่นแรงเรี่ยวน้อย บ่คล้อยกระแสสินธุ์
ระดมพลมามากแม้น มือผสาน
จารึกฝากจิรกาล จ่อมฟ้า
ทุ่งพระเมรุสุทธาสถาน สะเทือนสั่น ฤๅแม่
เอียงอกรับลูกอ้า อุ่นเนื้ออณูชน
มิตรภาพเพียงส่งยิ้ม ยวนหวาน
อวลอยู่ในวิญญาณ หยั่งได้
ท้องหิวแบ่งอาหาร ข้าวห่อ
ออมเรี่ยวเอาแรงไว้ เรียกร้องอิสรา
แสนยานุภาพข้าม เมฆินทร์
ดั้นฝ่าปราการหิน หักกร้าว
น้ำใสปราศมลทิน ธุลีอาบ
เอมอิ่มแม้ร้อนอ้าว นั่งสู้แสงตะวัน
อำนาจห่มเกราะต้าน เตรียมประยุทธ์
อัคนิธาตุแห่งมนุษย์ แตกแล้ว
ดวงใจผ่องพิสุทธิ์ เกินพ่าย
พลีร่างวิญญาณแผ้ว อุทิศให้สังหาร
ควันปืนปลิวว่อนเวิ้ง พระเมรุสวรรค์
ไออาบระติวัน เวี่ยคลุ้ง
อรุณเลือดหลั่งกระสัน กระสุนแลก
โลกตกอยู่ในอุ้ง ฝ่าเท้าพลทหาร
เสียแรงเคยปกป้อง ปฐพี
มิภักดิ์รักศักดิ์ศรี สักน้อย
นำชนกล่าวสดุดี ดนูชาติ
แท้เถื่อนสถุลถ้อย ต่ำต้อยเกินประณาม
สนามหลวงแดนถิ่นนี้ ควรถนอม
ใช่ปล่อยกิมิชาติตอม ไต่เต้น
ไม้จันทน์กลิ่นจรุงหอม วอนช่วย
เผาร่างปีศาจเร้น หลีกลี้ปลาตสูญ
ทรราชอย่าล่วงล้ำ เฉียดกราย
ณ ทุ่งพระเมรุถวาย มอบไว้
แด่วีรชนวาย ชีวาตม์
แม้นรุกเข้ามาไซร้ สาปซ้องเสนียดเมือง.
*พฤษภาทมิฬ ๓๕ ขณะประชาชนเคลื่อนขบวนจากสนามหลวง ไปราชดำเนิน
ผู้ชุมนุมถูกไล่พื้นที่ โดยอ้างว่า เป็นช่วงพืชมงคล วิสาขบูชา
ลำตัดสนามหลวง ๕๓
นกขมิ้นเหลืองอ่อน เจ้าจะร่อนเร่ไฉน
หากแม้นมีที่ไป ใครจะนอนทางเท้า
ขอเศษเพิงพิงพัก รั้วพำนักวังเจ้า
คนรอนแรมอกร้าว วิ่งเก็บว่าวเขาทิ้ง
ต้นมะขามสนามหลวง ดั่งแมนสรวงสุขยิ่ง
ซุกร่างเอนเนนอิง กอดความจริงชั่วกาล
เห็นเขาฆ่าประชาชน เห็นกองพลเคลื่อนผ่าน
ทุ่งพระเมรุสังหาร เจ็บประจานดวงแด
นกพิราบสาบสูญ ปฏิกูลเชื้อแพร่
ผีขนุนยืนชะแง้ ทั้งหนุ่มแก่รอหวัง
อีกหมอดูแม่นแม่น มาดส่องแว่นเซียนดัง
นักเลงพระอวดขลัง แม่ค้านั่งแบกะดิน
กางเกงขาดสาดเก่า นวดฝ่าเท้าเคล้ากลิ่น
ชีวิตไร้ปฏิทิน รอองค์อินทร์อำนวย
คนตาบอดเป่าแคน คนสิ้นแขนขายหวย
คนขาขาดอาจซวย ใครคอยช่วยเขา-เธอ
คนจรจัดพลัดบ้าน คนตกงานนั่งเหม่อ
คนฟั่นเฟือนบ่นเพ้อ คนป้ำเป๋อฉี่ไหล
สนามหลวงเสนียดรัฐ สนิมสัตว์ทรามไพร่
ชะ!เมืองกรุงศิวิไลซ์ ขับจัญไรล้างบาง
เจ้าคนบ้าห้าร้อย ขนไปปล่อยไกลห่าง
ทะเลคนเคว้งคว้าง ต้องเริดร้างสนามหลวง
โอ้โอ๋...เจ้านกขมิ้น กรุงโกสินทร์สิ้นสรวง
ทุ่งพระเมรุแมนลวง ไปพ้นบ่วงเมืองทราม
ค่าเจ้าต่ำเกินสัตว์ เขายัดเยียดเหยียดหยาม
นักท่องเที่ยวไหลลาม เพชรเม็ดงาม ...เพียงเงิน!
*พฤษภาอำมหิต ๕๓ ขณะที่ประชาชนถูกกวาดล้างจากอำมหิตยามาตย์ กทม.ก็เข้ากวาดไล่
คนเร่ร่อนจรจัดโดยอ้างว่า ขอคืนพื้นที่ให้กับเกาะรัตนโกสินทร์
เพ็ญ ภัคตะ ๓๕ - ๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น