From: Sanfan Wanmai
ลองอ่านกันดูนะคะ จากนสพ.โลกวันนี้ ประจำวันที่22กค.2553
คอลัมน์"นิ้วกลมระดมความคิด"
เขียนโดย ชมเพลิน อยู่เพลิน
การขุดแฉและจับโจรสลัดครองเมืองย่อมไม่ใช่การยุยงสร้างให้แตกแยก
ได้ข่าวว่าพรรค เพื่อไทยจะเดินสายในจังหวัดที่ไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
โดยมุ่งเป้าหมายในการแฉกลโกงต่างๆของรัฐบาล...พลันที่ได้ยินข่าวนี้คุณสุเทพ
เทือกสุบรรณ
ก็ออกโรงมาเตือนว่าให้ระวังกิจกรรมที่จะกระทำควบคู่ระหว่างการจัดคอนเสิร์ต
กับการปราศรัยตามโครงการ...โดยสำทับว่า "...ขอให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบของกฎหมาย
ถ้าไปยุยงให้คนเกลียดชังจนเกิดความแตกแยกก็ถือว่าผิด"
นี่เป็นเรื่องน่าพิจารณาเหมือนกันสำหรับการปราศรัยและจัดนิทรรศการ
เคลื่อนที่เพื่อแสดงข้อมูลการทุจริตในโครงการต่างๆของรัฐบาล
ตลอดจนรายละเอียดของการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน
ซึ่งเข้าใจว่าเป็นการจัดเวทีที่ไม่เกี่ยวกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ
"คนเสื้อแดง"...กิจกรรมเหล่านี้มันจะเข้าข่ายสร้างความแตกแยกและยุให้เกลียด
ชังตามที่คุณสุเทพได้กล่าวถึงหรือเปล่า?...และก็ไม่รู้ว่าเมื่อกิจกรรม
ดำเนินไปทางฝ่ายรัฐบาลหรือ ศอฉ. จะคิดอ่านจัดการอย่างไรหรือไม่?
เพราะปัญหาทุจริตคอร์รัปชันมันย่อมเป็นเรื่องใหญ่ของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกัน
จัดการ?
รัฐบาลเองคงต้องใจกว้างและหนักแน่นพอ
ยกเว้นเสียแต่ว่าทำตัวเองให้เป็นวัวสันหลังหวะ...มีบางคนวิพากษ์วิจารณ์
กลุ่มคนในชาวคณะที่ประกอบกันเป็นรัฐบาล
ซึ่งตรงนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถูกกล่าวหาเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสให้
กลายเป็น "พวกสันดานโจรสลัดเสียจนหมดทุกคน"
แต่เมื่อเราย้อนไปมองในหลายๆโครงการที่มีพิรุธและเบื้องหลัง
คงปฏิเสธไม่ได้สำหรับรัฐมนตรีหรือคนแวดล้อมในหลายกระทรวงที่กำลังใช้
พฤติกรรมของตัวเองในการแสวงหาผลประโยชน์
ซึ่งไม่ได้แตกต่างอะไรกับกองเรือของพวกโจรสลัดตระเวนปล้น?
เรื่องของโจรสลัดนั้นมีอยู่มากมาย เป็นมาตั้งนานแล้ว
คาดหมายถึงตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
ถัดจากสมัยของโจรสลัดอียิปต์ก็ถึงยุคโด่งดังสำหรับพวกโจรสลัดไวกิ้ง
โดยเป็นกลุ่มคนจากแถบประเทศเดนมาร์ก, นอร์เวย์ และสวีเดน
ช่วงนั้นอยู่ระหว่างศตวรรษที่ 8-11 พวกไวกิ้งสามารถครองน่านน้ำยุโรป
ปล้นออกไปกว้างขวางจากทะเลบอลติกจนถึงช่องแคบยิบรอลต้า...แต่โจรสลัดที่มี
ชื่อเสียงมากเห็นจะเป็นกลุ่มในศตวรรษที่ 16
เป็นกลุ่มโจรสลัดอิสระในแถบทะเลอีเจียนและเมดิเตอร์เรเนียน...โจรสลัด
อิสระเหล่านี้เป็นประเภทโจรรับสัมปทาน
โดยทำความตกลงกับรัฐบาลหรือประเทศซึ่งตัวเองสังกัดอยู่
จะต้องแบ่งทรัพย์สินจากการปล้นให้เพื่อแลกเปลี่ยนกับความคุ้มครอง
ไม่โดนรบกวนจากเจ้าหน้าที่รัฐ...โจรอาชีพจริงๆเป็นอย่างนี้?
พวกโจรที่มีปลอกคอน่ากลัวมากกว่าโจรไร้สังกัด เหมือนกับ
"สองพี่น้องบาร์บารอสซ่า" ซึ่งพวกเขาเป็นประเภทโจรสลัดที่มีข้อตกลงกับ
"สุลต่านตูนีเซีย" คือโจรจ่ายค่าต๋งในการปล้นเป็นจำนวน 1 ใน 5
ให้กับองค์สุลต่าน เป็นข้อคิดของความสัมพันธ์ในระหว่างโจรและเจ้า
ซึ่งเกิดขึ้นในราว พ.ศ. 2053...แต่ในราว พ.ศ. 2215
ก็มีอีกกลุ่มโจรสลัดที่เจ็บไม่น้อยกว่ากัน ได้เกิด "จอมโจรแห่งแคริบเบียน"
ขึ้นมาแทนตำแหน่ง โจรสลัดกลุ่มนี้มีชื่อเสียงโด่งดังแถบน่านน้ำสเปน
พวกนี้มีมากมายหลายก๊วนที่ออกอาละวาดปล้นสะดมผู้อื่นเป็นประจำ
ต่างล้วนเป็นโจรได้รับอนุญาต ถือเป็นโจรสลัดของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่
1 แห่งอังกฤษ คือเส้นแข็งกันขนาดนี้จึงสามารถคงอยู่และปล้นได้อย่างลอยนวล
มีจำนวนมากที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็น "เซอร์" เช่น เซอร์จอห์น
ฮอว์คินส์, เซอร์เฮนรี่ มอร์แกน และกัปตันวิลเลี่ยม คิดด์ เป็นต้น
ทางด้านเอเชียของเราก็มี "กองทัพโจรสลัดของเจิ้งอี้" เขามีกองทัพเรือถึง 400
กว่าลำ ใช้พลพรรคสมุนโจรร่วม 70,000 คน
สร้างอาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลไปทั่วทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ใน พ.ศ.
2350...สืบต่อมาถึงรุ่นทายาท "จางเป่า"
ก็เป็นโจรสลัดเชื้อไม่ทิ้งแถวเหมือนพ่อของเขา ใช้ชีวิตเยี่ยงโจรจนเบื่อ
ต่อจากนั้นในภายหลังหันไปเป็นข้าราชสำนักให้แก่ฮ่องเต้จีน
ซึ่งเรื่องราวของจางเป่าได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อยู่หลายเรื่องเหมือน กัน?
โจรสลัดในยุคปัจจุบันยังมีอยู่ เคยโด่งดังในแถบชายฝั่งทะเลอเมริกาใต้
ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ตอนหลังเหตุการณ์ซาลง
มาโด่งดังเอาในมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย
ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ระหว่างช่องแคบมะละกากับประเทศสิงคโปร์
นอกจากนั้นก็ยังมีย่านบังกลาเทศ บราซิล ไนจีเรีย
โซมาเลีย...กระทั่งฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยก็มีโจรสลัดปล้นอยู่เหมือน กัน?
โจรสลัดไทยในฝั่งอันดามันมันไม่น่ากลัวนัก
ไอ้ที่น่ากลัวคงเป็นโจรสลัดที่ใส่เสื้อสูทอยู่ในหลายกระทรวง
เพราะพวกนี้มันเป็นโจรที่ส่งส่วยและได้รับความคุ้มครองเหมือนโจรสลัดในสมัย
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ...ดังนั้น
การเดินสายแฉทุจริตจึงไม่ใช่การทำให้แตกแยกหรือยุให้เกลียดชัง
ทั้งยังเป็นการช่วยจับโจรสลัดเสียด้วย เพราะบ้านเมืองมันชุกชุมด้วยโจรเหลือเกิน
เป็นโจรสลัดในระบบอุปถัมภ์อำมาตย์ที่ปล้นเพื่อส่งส่วย?
อ่านแล้ว คิดแล้วเห็น เห็นแล้วจึงร้องอ๋อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น