คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : เงื่อนไขแห่งความรุนแรง
โดย : กาหลิบ
ไม่ เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่ระบอบเผด็จการโบราณของไทยกำลังบีบคั้นฝ่ายประชาชนอยู่ในขณะนี้ กำลังนำบ้านเมืองไปสู่ความรุนแรงและการเผชิญหน้ารอบใหม่
รู้ตัวหรือ ไม่รู้ตัวก็ไม่ทราบได้ แต่คำสั่งลับๆ ในรูปการพยักหน้า และคำพูดสั้นๆ สองสามคำจากปากของคนแก่บางคน กำลังทำให้บ้านเมืองที่ปริร้าวอยู่แล้วใกล้จะถึงคราวแตกแยกออกเป็นเสี่ยง คนนี้เขาไม่พูดอะไรเยอะหรอกครับ เพราะเขาใช้เวลาหลายสิบปีสร้างเครื่องมือแห่งอำนาจมาจนอยู่ตัว ถึงเวลาก็นำมาใช้ได้อย่างแนบเนียน
ควบคุมอำนาจได้อย่างแน่นแฟ้น แต่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย เพราะไม่เคยปรากฏหลักฐานว่าสั่งการให้ไปฆ่าฟันใคร
ระบอบก็เลยอยู่ได้มาตลอด
ปัญหาคือต่อไปจะรวมสังขารได้ติดหรือไม่
ขณะ นี้คนไทยนับล้านกำลังถูกข่มขู่คุกคามราวกับอยู่ในบ้านป่าเมืองเถื่อน โดยเฉพาะที่ภาคอีสานและภาคเหนือซึ่งเป็นฐานเคลื่อนไหวหลักสำคัญของขบวนการ ประชาธิปไตย ต่างส่ายหน้ากันอย่างคับแค้นใจ เพื่อนฝูงพี่น้องถูกฆ่าตาย บางคนถูกลากตัวไปคุมขังชนิดขังลืม บางคนถูกยัดคดีไม่รู้จักกี่คดีชนิดไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ถูกข่มขู่บางคนต้องหนีตายหรือไปกบดานเสียที่อื่น
บ้านเมืองระส่ำ ระสายเพียงเพราะคนแก่บางคนเกิดความไม่มั่นคงทางใจและสั่งการอย่างต่อเนื่อง ให้ล้มทำลายขบวนการภาคประชาชนเสียให้จงได้ จนข้าราชการผู้รับคำสั่งจำนวนมากรู้สึกละอายใจไม่อยากทำ และแอบเอาข้อมูลมาบอกกล่าวให้ฝ่ายประชาชนฟังกันทั่วเมือง หลายคนรอดตัวรอดตายได้ก็เพราะข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหารแตงโมเหล่านี้
ผู้ เฒ่าผู้แก่ฝ่ายประชาธิปไตยบางคนถูกขู่ถึงบ้าน เพราะมีลูกหลานไปพลีชีพเพื่อประชาธิปไตยอยู่กับเขา นี่ได้ข่าวว่ายายที่อุบลราชธานีท่านหนึ่งได้รับจดหมายด่าประณามหยามเหยียด ว่า “โง่ เป็นขี้ข้าทักษิณ” เพียงเพราะยายแกมั่นคงอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยและไม่เอาด้วยกับระบอบโบราณและ ซากเดนของคนเหล่านั้น
การข่มขู่บุคคลที่หาตัวไม่ได้ ก็ไปกระทำกับครอบครัวเขา เพราะรู้ว่าครอบครัวเป็นแก้วตาดวงใจของแต่ละคน อย่างกรณี “หรั่ง” เสแสร้งว่าดีกับแม่และพี่น้องของเขา จะกันตัวเป็นพยาน ไม่เอาโทษ แต่ความหมายอันแท้จริงคือการข่มขู่ว่าข้าจะเล่นงานครอบครัวพ่อแม่พี่น้องของ เอ็งเสียเมื่อไหร่ก็ได้ ความตื้นเขินแบบนี้นอกจากจะตบตากันไม่ได้แล้ว ประชาชนยังรู้สึกสะอิดสะเอียน ทำร้ายเขายังไม่พอ ยังเห็นว่าเขาเป็นคนโง่เง่าเต่าตุ่นอีกหรือนี่
ต่อไปพฤติกรรมเยี่ยง นี้จะหนักขึ้น เขารู้ดีว่าครอบครัวไม่ได้เห็นคล้อยตามกันไปทุกคน อันเป็นสิ่งธรรมดาสามัญเสียเหลือเกิน เขาก็จะจี้ลงบนแผลนั้น เพื่อทรมานใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ และอาจรวมไปถึงญาติผู้ใหญ่ที่มีบารมีในบ้าน ให้รู้สึกถึงความไม่ลงรอยกันในครอบครัว ทำให้เกิดความเศร้าใจ ในที่สุดก็อาจออกปากขอร้องให้ลูกหลานในฝ่ายประชาธิปไตยยอม “ถอย” จากจุดยืนทางการเมืองโดยเห็นแก่ประโยชน์สุขของครอบครัวตัวเองก่อน
สิ่งเหล่านี้จะเกิดแล้วเกิดอีก เพราะฝ่ายทรราชโบราณเชื่อว่าแบบนี้จะได้ผล
หารู้ไม่ว่าฝ่ายประชาชนเขาก็มีขีดจำกัดของเขาอยู่ด้วย
การ แพร่พิษร้ายของเผด็จการไปทั่วประเทศขณะนี้ สุดท้ายจึงเป็นเงื่อนไขแห่งความรุนแรงที่ช่วยกันสร้างขึ้นในบ้านเมืองโดยตรง นานเท่าไหร่กว่าพิษร้ายจะไหลซึมไปทั่วตัวนั้น บอกได้ยาก รู้เพียงว่าไม่นานนักก็จะเห็นผลตอบกลับแล้ว
เมื่อถึงวันนั้นอย่ามาถามว่า อุบัติเหตุทางสังคมและการเมืองในประเทศนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ไม่มีเวลาให้แกล้งโง่ครับ.
---------------------------------------------------------------------------------
เขียนโดย Nangfa ที่ 16:48:00
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น