[img]http://img684.imageshack.us/img684/4715/72486380.jpg[/img]
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : คัดกรอง
โดย : กาหลิบ
หมู่ นี้ดูจะมีข่าวมากเป็นพิเศษเกี่ยวกับคนเสื้อแดงด้วยกัน บ้างว่าอ่อนข้อกับฝ่ายตรงข้ามไปแล้วบ้าง บ้างก็ว่าฉ้อฉลเงินทองของขบวนการมาตลอดบ้าง บ้างก็ว่าหาผู้นำที่มีอุดมการณ์อันแท้จริงไม่ได้บ้าง คล้ายกับว่าขบวนการประชาธิปไตยที่ใช้เสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์กำลังจะเข้าตาจน
แต่ ขอตราไว้ตรงนี้เลยว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือการชำระล้างร่างกายและจิตใจของขบวนการเสื้อแดงเท่า นั้น นอกจากจะไม่เข้าตาจนแล้ว ขบวนการประชาธิปไตยขบวนนี้จะยิ่งแข็งแกร่งและเดินอย่างมั่นคงขึ้นจนถึงเส้น ชัยในที่สุด
ไม่ใช่ยาหอม หรือมะนาวหวาน แต่เป็นทฤษฎีวิวัฒนาการทางสังคมโดยแท้
ขบวน การเสื้อแดงเริ่มจากการต่อต้านอำนาจเผด็จการทหารผู้ก่อรัฐประหารเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ ทั้งในสนามหลวงและหัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ เป้าหมายค่อยๆ กระเถิบจากคณะทหารที่เรียกตัวเองว่า คปก./คมช. ผู้ใช้สีเหลืองสีฟ้ากันอย่างสลับสับสน ไปสู่ฝูงอำมาตย์ที่ทำงานเอื้อประโยชน์ต่อกันและกันและช่วยกันรักษาอำนาจไว้ อย่างสุดชีวิต ในที่สุดก็ถึงผู้คนอีกประเภทหนึ่งที่ใช้งานอำมาตย์เหล่านี้ด้วยสภาพสิงสู่ อย่างที่เรียกว่า “มือที่มองไม่เห็น”
จากชิ้นส่วน ภาพต่อทีละชิ้น ประชาชนที่ค่อยรวมตัวกันเป็นมวลชนก็เริ่มมองเห็นภาพชัดขึ้นทุกที ชัดยิ่งขึ้นเมื่อเห็นการล้มรัฐบาลสมัครและรัฐบาลสมชายแบบล้มทั้งยืน ชัดยิ่งขึ้นเมื่อเห็นบทบาทเหนือกฎหมายของผู้ที่เรียกตนเองว่าพันธมิตรฯ และชัดที่สุดเมื่อเห็นญาติมิตรของเราต้องล้มตายกันเกลื่อนกลาดด้วยอาวุธ สงครามที่ซื้อด้วยเงินภาษีของเราเอง
จากตัวบุคคลชั้นรอง ก็เริ่มเห็นบุคคลชั้นหลัก ท้ายที่สุดก็เห็นผู้เป็นประธาน
ครบ ถ้วนอย่างนี้แปลว่าได้เห็นทั้งระบอบอันฉ้อฉล อันเป็นมุมมองที่ประชาชนคนรากฐานไม่เคยได้รับอนุญาตให้เห็น เพราะถูกลวงโลกอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องมาทั้งชีวิต
วลีที่มีคุณค่าที่สุดและตรงที่สุดในวันนี้คือ “ตาสว่างทั้งแผ่นดิน”
หาก ท่านอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ หยั่งรู้ได้โดยวิถีใดก็ตาม ท่านคงจะหลั่งน้ำตากับวลีนี้ ในยุคอภิวัฒน์ไทยที่ท่านเป็นแกนนำ หากตาของมวลชนสว่างขึ้นเพียงครึ่งเดียวของความสว่างในขณะนี้ เราคงไม่ต้องเดินทางระหกระเหินถึงเพียงนี้บนถนนที่มีชื่อว่าประชาธิปไตย
ช้าไปเกือบแปดสิบปี คงมิใช่ช้าจนเกินไป
การ เปลี่ยนแปลงตามวิวัฒนาการทางสังคมอย่างที่ว่านี้ จำเป็นอยู่เองที่จะต้องเกิดกระบวนการคัดกรองบุคคลที่มวลชนจะยกให้เป็นผู้นำ และแกนนำ โดยอาจจะต้องลองผิดลองถูก และพบกับความผิดหวังรันทดใจบ้าง ก่อนจะได้คำตอบที่ลงตัวว่าขบวนการที่ต้องใช้จิตใจอันสูงเยี่ยมเทียมฟ้านี้ ควรจะอยู่ในการนำของใคร
คนขี้โกงคงนำไม่ได้
คนสันดานเผด็จการคงนำไม่ได้
คนที่ทำตัวเป็นไม้หลักปักเลนก็คงนำไม่ได้
สุด ท้ายขบวนการอาจจะตกอยู่ในความรับผิดชอบของคนที่เราไม่เคยรู้จักมักคุ้นมา ก่อนเลย แต่เป็นบุคคลที่มวลมหาประชาชนช่วยกันคัดกรองขึ้นมาจากดิน เหมือนสำนวนโบราณที่ว่าปั้นดินให้เป็นดาว โดยไม่สนใจว่าจะต้องมีชื่อเสียงเกียรติคุณใดๆ เป็นต้นทุนมาก่อน
การ ปฏิวัติที่สำคัญๆ ในโลกล้วนกระทำการโดยคนที่โลกไม่รู้จักมาก่อนทั้งสิ้น จนเมื่อภารกิจนั้นเสร็จสิ้นลงแล้วเขาเหล่านั้นถึงได้กลายเป็นคนในประวัติ ศาสตร์โลก
อย่าเสียกำลังใจครับ ขณะนี้เครื่องคัดกรองกำลังทำงานหนักอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อจะได้เลิกเอาทองไปห่อผ้าขี้ริ้วเสียที.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น