สนับสนุนการทำกิจกรรม ส่งเสริมประชาธิปไตยของชาวเชียงใหม่ ร่วมกับศูนย์ประสานงานกลาง นปช.แดงเชียงใหม่

ชื่อบัญชี นปช.แดงเชียงใหม่ ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 02 0012142 65 7 ( มีผู้รับผิดชอบบัญชี 3 ท่าน )

ติดต่อเรา deangchiangmai@gmail.com

ราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน บล็อค นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชนรุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้สร้างเวปบล็อคไว้ 2 ที่ คือที่นี่ “ แดงเจียงใหม่” สำหรับการบอกกล่าวในเรื่องทั่วไป และอีกที่หนึ่งคือ “ Daeng ChiangMai “ สำหรับข่าวสารที่เราเห็นว่ามีประโยชน์ต่อการรับรู้ข่าวสารในการร่วมทำกิจกรรมของพี่น้องประชาชน


เชิญร่วมสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกันครับ
“แดงเจียงใหม่” " Daeng ChiangMai "

รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน

การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ : สมุดปกขาวโดยสำนักกฎหมาย Amsterdam & Peroff การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ . ไพร่สู้บนเส้นทาง ๗๘ ปี ประชาธิปไตย ( ๒๔๗๕ - ๒๕๕๓ ) จรรยา ยิ้มประเสริฐ Voter's Uprising Thai

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วาทตะวัน สุพรรณเภษัช :Bad Ex-Best Ex!!! (ทักษิณฯ ผู้นำยอดแย่ หรือ ยอดเยี่ยม?)

เมื่อ ต้นเดือนที่ผ่านมา มีการประชุมอาเซมที่กรุง 'บรัสเซลล์'
ได้ปรากฏเหตุการณ์ที่เป็นไปตามที่สื่อ และชาวบ้านคาดกันไว้แล้วก่อนหน้านั่นคือ
กลุ่มคนไทยในต่างแดน ในเบลเยี่ยมและหลายประเทศใกล้เคียงในยุโรป
จะต้องมีการรวมตัวขับไล่ "นายมาร์ค ร้อยศพ" ซึ่งเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้
ได้ปรากฏที่กรุงนิวยอร์ค ในการประชุมประจำปีขององค์การสหประชาชาติ
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน
การชุมนุมเพื่อคัดค้านผู้นำโลซก นายมาร์ค มุกควาย (ฉายาที่ผมตั้งให้)
ในเบลเยี่ย่ม ได้เป็นไปตามคาด ดังที่ท่านเห็นตามภาพ ซึ่งเป็นรูปแบบสม่ำเสมอ
ทุกครั้งที่นายอภิแสบไปเยือนชาติประชาธิปไตย อาจเรียกได้ว่า เป็น "รปจ." หรือ
"ระเบียบปฎิบัติประจำ" ไปแล้ว
ทั้งนี้เพราะ...
ไม่ว่าอีตาคนนี้จะไปเหยีบบแผ่นดินประเทศไหนก็ตาม คนไทยในแผ่นดินนั้นๆ
และใกล้เคียง จะต้องตามแห่ไปชูป้ายประจานกันทุกแห่งหนไป ซึ่งเป็นเรื่องที่
'เมาท์' กันสนุกสนานครื้นเครงสำหรับคนไทยทั้งในและนอกประเทศ
จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสื่อและฝรั่งมังค่าในต่างแดน ที่พูดกันอย่างแปลกใจ
ว่า
ทำไมผู้นำไทยแลนด์แดนศรีวิไลสมทรง จึงโดนคนไทย
ขับไล่ไสส่งไปเสียทุกที่!?
นักข่าวต่างประเทศนั้น ได้เริ่มสังเกตเห็นความเกลียดชังอย่างลึกซึ้ง
ที่พี่น้องประชาชนคนไทย ทั้งในและต่างประเทศ ที่ได้แสดงออก
ถึงความเป็นปฎิปักษ์ต่อรัฐบาลโลซกของนายอภิแสบ ภักดีโพเดียม
ที่พวกเขาเห็นชัดแล้ว ว่า
นักกินเมืองชุดนี้
ปัจจุบันกำลังบริหารบ้านเมืองอย่างเหลวไหลเลื่อนเปื้อน
เพราะพรรคการเมืองอย่างประชาธิเปรต ได้พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งใหญ่ซ้ำๆซากๆ
แต่ดันเสือกกลับเข้ามาบริหารบ้านเมืองได้สำเร็จ ก็เพราะ...
อำนาจแฝง ที่ไร้ความชอบธรรม!
นี่เอง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยในต่างแดน
ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ในบ้านเมืองที่มีอิสระเสรี
ซึ่งพวกเขาได้เห็นคุณค่าของความเป็นประชาธิปไตย คนเหล่านั้นจึงทนไม่ได้
ที่เห็นระบอบการปกครองของเมืองไทยโดนย่ำยี
ประชาชนโดนข่มเหงรังแกถึงขั้นฆ่าฟันอย่างโหดร้ายทารุณ ชาวไทยนอกแผ่นดินแม่
จึงได้รวมตัวต่อต้าน คัดค้านกันอย่างกว้างขวาง
ที่น่าแปลกก็คือ
ทุกครั้งที่นายมาร์ค มุกควาย ผู้นำโลซกเดินทางไปต่างประเทศ
ไม่เคยมีคนไทยกลุ่มไหนเลย ที่จัดขบวนไปต้อนรับเขา (มีแต่ขบวนไปขับไล่)
นอกจากข้าราชการสถานทูต และนักเรียนไทยที่ทางสถานกงสุลหรือสถานทูต
ขอแรงให้มาทำทีต้อนรับ พอเป็นพิธีเท่านั้น
เชื่อกันว่า ปรากฏการณ์อย่างนี้
จะมีให้เห็นกันอีกทุกครั้งที่ผู้นำโลซกของไทย ไปเยือนต่างประเทศ จึงนับได้ว่า
เป็นการประจานต่อเนื่อง แบบไม่มีวันเลิกรา ซึ่งทำให้นายมาร์ค
เกิดความกลัว
แม้จะทำปากแข็งว่า...ไม่กลัวก็ตาม!
เมื่อสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้นำเสนอบทความชื่อ 'ทักษิณ' แจกอนาคต-
'อภิแสบ' หดความหวัง!!!http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=253
เพื่อนำเสนอหลักฐานชัดเจนเพิ่มเติมอีก
ว่า
อีกหนึ่งโครงการของทักษิณ ชินวัตร ที่ได้มอบให้กับบ้านนี้คือ
"กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง!" ซึ่ง เกิดขึ้นในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เป็นนายกรัฐมนตรี เริ่มมีการกดปุ่มเงินก้อนแรกทางโทรทัศน์
ส่งไปให้ประชาชนทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2544
ซึ่งสื่อมวลชนที่มีจิตใจดี เห็นกับประโยชน์ของชาติบ้านเมือง
เขารายงานตรงไปตรงมาว่า
"กองทุนหมู่บ้าน ตำนานทักษิณ กำไรกว่า 30,000 ล้านบาทแล้ว
หนี้เสียเพียง 0.5%"
แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เงินทุนที่รัฐบาลทักษิณให้แต่ละหมู่บ้านไปนั้น
บัดนี้ โครงการของทักษิณ มีกำไรเพิ่มขึ้นครึ่งเท่าตัวแล้ว
กลายเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญ ในหมู่บ้านและชุมชน สำหรับประชาชนคนไทยไปแล้ว
ซึ่งพี่น้องของเรา ได้มีไว้เป็นที่พึ่งพาเมื่อถึงคราจำเป็น
โดยไม่ต้องไปหันไปหาเงินตรานอกระบบ จากนายทุนหน้าเลือดคนไหนอีกแล้ว
มาถึงวันนี้ ผมมีเรื่องที่จะกราบเรียน ให้ท่านผู้อ่านได้ชื่นใจกันอีก
คือ...
นอกจากเรื่อง "โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค" และ "กองทุนหมู่บ้าน
และชุมชนเมือง!" ซึ่งเป็นเรืองที่คนไทยเรายกย่อง เพราะหลักฐานได้ปรากฏชัดเจน
ว่า
โครงการทั้งสองนั้นเป็นโครงการล้ำค่า ยากที่จะหาโครงการใด
ของรัฐบาลไทยชุดไหนหรือยุคใด มาเทียบเทียมได้ เพราะคนทั่วประเทศได้รับประโยชน์
และชื่นชอบโดยทั่วกัน
ใช่แต่แค่ในประเทศไทยเรา เท่านั้นนะครับ...
บัดนี้ มีข่าวที่น่ายินดีและเป็นเกียรติยศของประเทศไทย
เพราะแม้แต่คนต่างด้าวท้าวต่างแดน อย่างกลุ่ม "เอเปก"
หรือกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
(Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ได้ยกย่อง "โอทอป"
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการของคนชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร"
ที่ได้มอบให้กับบ้านนี้เมืองนี้ ที่ทำให้ประชาชนคนไทยจำนวนมาก ลืมหน้าอ้าปากได้
และมีพี่น้องจำนวนมาก ได้มีชีวิตใหม่ที่ "มั่งคง-มั่งคั่ง" สมบูรณ์กว่าเดิมมาก
"ไทยรัฐ" ซึ่งเป็น "สื่อมหาชน ของคนไทยทั้งชาติ" ถึงกับพาดหัวว่า
เอเปกชู "โอทอปไทย"...
แล้วบรรยายข่าวต่อมา ที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ว่า
...ระบุประชุมรัฐมนตรีเอสเอ็มอีเอเชียแปซิฟิก(เอเปก)
ที่ประชุมยกตัวอย่างความสำเร็จ "โอทอปไทย"
เป็นพระเอกต้นแบบสินค้าโอทอปทุกประเทศ
สสว.จ่อดันเอสเอ็มอีเป็นเครื่องจักรตัวใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กินพื้นที่ 42%
จีดีพีสิ้นปีหน้า...
น่าประหลาดใจเหลือกำลัง
ที่แม้นายกฯทักษิณต้องพบวิบากโดยที่ยังกลับมาประเทศของตนไม่ได้
แต่ผลงานและความดี ที่เขาสร้างให้กับประเทศนี้ กลับทยอยออกมาเป็นรูปธรรม
ให้พี่น้องในบ้านเมืองของเรา ได้ชื่นชมยกย่องกันมิได้ขาด
นอกจากชื่นชมกันในประเทศไทยแล้ว บัดนี้ องค์กรใหญ่ระหว่างชาติ อย่าง
"เอเปก" ได้ให้กียรติยกย่อง เชิดชูและชื่นชม
เป็นการประกาศตอกย้ำความสำเร็จของผู้นำชาติไทยคนนี้ ให้ขจรขจายไปทั่วโลกแล้ว
น่าปลาบปลื้มใจยิ่งนัก!
ขณะข่าวที่น่ายินดีของโครงการผู้นำประเทศไทย ที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร
กำลังสาดแสงเบ่งบานทั่วโลก แต่เมื่อวันจันทร์ ที่ 11 ตุลาคม 53
หนังสือพิมพ์บ้านเราหลายฉบับ ได้ลงข่าวเรื่อง เว็บไซต์นิตยสาร ฟอเรียน โพลิซี
(Foreign Policy) ในเครือหนังสือพิมพ์ เดอะวอชิงตัน โพสต์ ได้เผยแพร่บทความ
อดีตผู้นำยอดแย่ หรือ Bad Exes เขียนโดย Joshua E.Keating ระบุว่า
ทักษิณติด 1 ใน 5 ผู้นำยอดแย่
ผู้ นำยอดแย่ ประกอบด้วย นายแกร์ฮาร์ด ชโรเดอร์
อดีตนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี นายโคเซ มารีอา อัซนาร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของสเปน
นายโอลูเซกัน โอบาซันโจ อดีตประธานาธิบดีของไนจีเรีย นายโจเซฟ เอสตราดา
อดีตประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ และ...
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย!
แม้สื่อ "กุ๊ย" อเมริกันจะว่าอย่างนั้นก็ตาม
แต่คนไทยกลับวิพากษ์วิจารณ์กันว่า
"ไอ้พวกเกี๋ยวกุ้ย อั้งม้อมะกัน มันอยากได้ตัว มิสเตอร์ วิคเตอร์ บูท
เลยเขียนเอาใจรัฐบาลไทย"
จะเป็นอย่างพี่น้องของเรา ว่าเอาไว้หรือไม่นั้น ก็ไม่ทราบชัด แต่พอ
"ไทยรัฐ" หนังสือพิมพ์ของคนไทย เขาลงเอาไว้ใน หน้า 4 คอลัมน์ บุคคลในข่าว
วันศุกร์ ที่ 15.ต.ค. 2553 ว่า
"...ทักษิณถูกโลกล้อมแทนประเทศไทยไปแล้ว ด้วยฝีมือ ซีไอเอ
ผ่านเว็ปไซด์วอชิงตันโพสต์"
คนไทยเราเลยถึง "บางอ้อ" กันตรงนี้เอง!
ท่านผู้อ่านที่ติดตามอ่านคอลัมน์ "วาทตะวัน" มาโดยตลอดนั้น
คงจะทราบดีว่า
ผู้นำอเมริกันที่ผมเขียนยกย่อง คือท่านประธานาธิบดี แฟรงค์กลิน ดี
โรสเวลท์ (Franklin Delano Roosevelt) ซึ่งเป็นรัฐบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของโลก
ส่วนอีกท่านหนึ่งก็คือ ประธานาธิบดี แฮร์รี เอส. ทรูแมน (Harry S. Truman)
ท่านลองเปิดอ่านดูได้
แม้อเมริกันชนจะมีเพรสสิเดนท์ที่ยิ่งใหญ่ แต่รายชื่อผู้นำยอดแย่ที่ไอ้
"โจชั่ว" มันเขียนในเว็บไซต์นิตยสาร ฟอเรียน โพลิซี (Foreign Policy)
ในเครือหนังสือพิมพ์ เดอะวอชิงตัน โพสต์ นั้น
กลับไม่ยักมีชื่อ "ผู้นำเลว" ของชาวมะกัน ติดโผด้วย!
ผู้ที่อเมริกันชนเขาเห็นว่า "ผู้นำยอดแย่" (Bad Exes) หรือหากเป็นคนไทย
ก็ต้องใช้สำนวนสะใจว่า "เลวระยำหมา" เพราะผู้นำที่คนอเมริกันเกลียดชังกันมาก
และเป็นที่รู้กันทั่วไป (แต่ไอ้ "โจชั่ว" วอชิงตัน โพสต์ มันไม่รู้จัก) อย่าง
นายริชาร์ด นิกสัน จอมเจ้าเล่ห์เพทุบาย
ซึ่งละเมิดกฏหมายของบ้านเมืองอย่างรุนแรง จนต้องลาออกจากตำแหน่ง
เพื่อหลีกเลี่ยงการถอดถอน หรือ impeachment ไปอย่างไร้เกียรติและอัปยศยิ่งนัก
แต่ไม่ติดตะรางก็เพราะลูกน้องที่ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน อภัยโทษให้
เอาอีกคนก็ได้ครับ
นายจอร์จ บุช ตัวลูก ที่ก่อสงครามไปทั่วโลก
ล้างผลาญชีวิตทั้งทหารอเมริกัน และคนชาติอื่นไปเป็นจำนวนมาก
เพราะความโง่เขลาและมุ่งค้าสงคราม
นายบุชได้นำชาติใหญ่อย่างสหรัฐเข้าติดพันในการสู้รบที่ไม่จำเป็น
สร้างความยุ่งยาก และความทุกข์ระทมใหญ่หลวงให้กับมนุษยชาติ
มาจนกระทั่งทุกวันนี้
คนอเมริกันเกลียดชัง "ไอ้บุชตัวเวร" นี้ จนไม่อยากพูดถึง!
อเมริกันชนนั้น โดยพื้นฐานแล้วเป็นผู้มีจิตใจยุติธรรม มีความตรงไปตรงมา
การวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อส่วนใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริงที่พิสูจน์ได้
ยอมรับการ "ชำแหละ" ของ
คนอื่นและสื่อ ด้วยความมีเหตุมีผล
ผู้นำสหรัฐบางคน ที่แม้ไม่ได้ละเมิดกฏหมาย แต่ถ้าหากละเมิดศีลธรรมจรรยา
ถึงจะบริหารบ้านเมืองได้ดีอย่างประธานาธิบดี บิล คลินตัน อเมริกันชนก็ไม่นิยม
แต่ไม่ถึงกับเกลียดชังนัก เหตุเพียงเพราะแกนั้น
ดันทะลึ่งไปให้คุณลูวินสกี้ "อมกระจู๋" กลางทำเนียบขาว เท่านั้นเอง
เลยทำให้สีขาวที่เคย แวววาวของ White House ทำเนียบชาติมหาอำนาจ
มีอันต้อง...
โสโครกไปเลย!
แม้จะไม่ใช่ผู้นำเลว หรือยอดแย่ แต่การที่อีตาบิล ตลินตัน
แกดันเอาหัวกระเจี๊ยว ไปใช้ "คิด" แทนหัวที่มีผมขึ้นอยู่ข้างบนตามปกติ
ก็เลยไม่ได้รับความเคารพนับถือจากคนอเมริกัน
กลายเป็น "ตัวตลก" ไปเสียอีก!
ไม่น่าเชื่อว่า "ผู้นำระยำหมา" อย่างสองประธานาธิบดี ที่ผมกล่าวมานั้น
คนอเมริกันเขาชิงชังกันมากจริงๆ (แต่ไม่ติดโผผู้นำยอดแย่ของไอ้ "โจชั่ว")
จนเขาถึงกับสร้างหนังเอาไว้ เพื่อสอนลูกสอนหลาน คือ
นายนิกสัน ก็ได้แก่เรื่อง Frost/Nixon (2008) ซึ่งสร้างโดย รอน
โฮเวิร์ด
จอร์จ บุช ตัวลูกก็ได้แก่เรื่อง Fahrenheit 9/11 ซึ่งคุณไมเคิล มัวร์
นักสร้างหนังสารคดี ขวัญใจของผม เป็นผู้สร้าง
ทั้งสองรื่องนี้ www.vatavan.com ได้นำเสนอไปแล้ว
ท่านผู้ที่สนใจลองหาอ่านดูได้
ท่านผู้อ่าน ที่เคารพครับ
มีเรื่องที่ทั้ง "น่าคิด-น่าขำ" ได้เกิดขึ้นเมื่อ วันจันทร์ ที่ 11
ตุลาคม พ.ศ. 2553 อยากจะเล่าให้ท่านทั้งหลายฟังกัน คือ
รายการ ซึ่งมี FM 101 MHz ที่ผู้คนเขาวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นคลื่น
"ไล่กระทืบ" ทักษิณกับพวกโดยเฉพาะ นั้น
ตอนเที่ยงๆ ของวันจันทร์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สถานีนี้เขามีรายการชื่อ "พูดกันทั่วบ้านทั่วเมือง" ผู้ดำเนินรายการประจำคือ
รัชชพร เหล่าวานิชย์ กับ หัทยา วงศ์กระจ่าง แต่วันนั้นคนหลังหายหัวไปไหนไม่รู้
แต่มีอีกหนึ่งนาง ที่ผมไม่รู้ชื่อ มาทำหน้าที่แทน
คุณยายรัชชพร เหล่าวานิชย์ เธอเอาข่าวอดีตผู้นำยอดแย่มาอ่าน
ด้วยสุ้มเสียงเหมือนมีความสุขอย่างยิ่ง แล้วก็เปิดสาย ให้คนโฟนอินมาโหวตว่า
"ใครเป็น... 'ผู้นำในดวงใจ' ของคุณ?"
ใครๆที่ฟังอยู่ในตอนนั้น ก็ต้องคิดว่า
วันนี้คุณทักษิณคงไม่แคล้วถูกไล่กระทืบ...
แบนแต๊ดแต๋...อีกแน่ๆ!
แต่...
ผลกลับไม่ได้เป็นดังที่คาดกัน เพราะหลังจากปิดรายการแล้ว
ทางผู้จัดไม่ได้บอกว่า ผู้นำคนไหนได้คะแนนรวมเท่าไหร่
จากการออกเสียงผู้โฟนอิน เพียงแต่ผู้ดำเนินรายการ
ประกาศโหวตด้วยน้ำเสียงเหี่ยวแห้ง สั่นเครือสมวัย ว่า
"ผลการโหวต "ผู้นำในดวงใจ" คุณทักษิณ ได้คะแนนเป็นอันดับที่ 1
ตามมาด้วย คุณอภิสิทธิ์...."
ใครฟังแล้วก็รู้ได้ทันที่ว่า เสียงของแม่เฒ่ารัชชพร
เต็มไปด้วยความท้อแท้และชอกช้ำ เพราะความผิดหวังอย่างแรง
ผมถึงกับ...ขำกลิ้ง!...555
การโหวตครั้งนี้ เป็นการโหวตแบบ impromptu คือฉับพลันทันที
ไม่มีการเตี๊ยมล่วงหน้า แม้ทางผู้ดำเนินรายการไม่บอกคะแนน
(เป็นเพราะขานคะแนนแล้ว อาจต้องเปลี่ยนชื่อรายการเป็น
"หน้าแตกทั่วบ้านทั่วเมือง" ) แต่ผมได้ให้เลขาฯ คอยนับผลการโหวตอยู่
เธอรายงานผล ให้ทราบว่า
ปู่เปรม ตาอานันท์ เจ้าคุณพหลฯ และโกชวน อดีตนายกฯ
ต่างได้รับคะแนนเสียง จากการโหวตไป คนละ 1 คะแนน...ส่วนนายอภิแสบ
หัวหน้าพรรคแมลงสาป ได้ 8 คะแนน
นายกฯทักษิณ ชินวัตร ได้ถึง 22 คะแนน!
นี่คงเป็นบทพิสูจน์ง่ายๆ ว่า "ผู้นำยอดแย่" (Bad Ex) ในสายตาของไอ้พวก
""อั๊กลี่อเมริกัน" แท้ที่จริงแล้วเป็น "ผู้นำในดวงใจ" หรือ "ผู้นำยอดเยี่ยม"
(Best Ex) ในสายตาของคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศนี้!!
ใช่ไหมครับ!!!?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น