โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
ใน เช้าตรู่ของวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ กองกำลังของรัฐไทย ซึ่งนำโดยตำรวจตระเวนชายแดนจากหัวหิน และสมทบด้วยตำรวจนครบาลจากกรุงเทพฯ ได้ใช้อาวุธสงครามบุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
มีการ ยิงปืนสกัดรถถังและปืนกล กราดใส่นักศึกษาและประชาชนที่ชุมนุมภายในรั้วมหาวิทยาลัย มีการจงใจปิดประตูทุกด้านเพื่อไม่ให้ใครหนีออกไปได้ ใครที่กระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาจะโดนยิงกลางแม่น้ำ ในจำนวนคนที่ตายในแม่น้ำมีหญิงพยาบาลอาสาสมัครที่มาช่วยประชาชน
ภายนอกรั้วมหาวิทยาลัย “ลูกเสื้อชาวบ้าน” “กระทิงแดง” และ “นวพล” ได้ลากนักศึกษาออกมาทุบตี แขวนคอ และเผาทั้งเป็น ที่ท้องสนามหลวง พวกนี้ผูกผ้าพันคอพระราชทาน และอ้างว่าเขาปกป้อง “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”
หลังเหตุการณ์ มีการทำรัฐประหารโดยทหาร และมีการจัดตั้งรัฐบาลเผด็จการ ต่อมาในวันเดียวกัน เจ้าฟ้าชายได้ออกมาให้กำลังใจกับลูกเสือชาวบ้านที่ลานพระรูปทรงม้า และในเดือนธันวาคมปีนั้น นาย(เซ็นเซอร์)ก็ออกมาชมการทำรัฐประหารโดยใช้ข้ออ้างว่า “ประเทศไทยมีประชาธิปไตยมากเกินไป”
จำลอง ศรีเมือง ซึ่งตอนนี้เป็นพันธมิตรฯ เคยมีบทบาทเบื้องหลังในการฆ่านักศึกษา
นักศึกษาและประชาชนถูกฆ่าที่ธรรมศาสตร์ เพราะต้องการประชาธิปไตยและสังคมนิยม สำหรับเขา “สังคมนิยม”หมายถึงสังคมที่เท่าเทียมกันและทุกคนมีศักดิ์ศรี นักศึกษาและประชาชนชุมนุมที่ธรรมศาสตร์เพราะต่อต้านการกลับมาของทรราชเผด็จ จอมพลถนอม กิตติขจร ที่เคยสั่งฆ่าประชาชนในวันที่ ๑๔ ตุลาคม สามปีก่อน
การนำ ถนอม กลับมาบวชที่วัดบวรนิเวศน์ เป็นแผนของอำมาตย์ที่จะ “สร้างสถานการณ์” หลังจากที่ถนอมถูกพากลับมาบวชที่วัดบวรฯ (เซ็นเซอร์)และ (เซ็นเซอร์)ก็ไปเยี่ยมถนอม ซึ่งเป็นการประทับตราสนับสนุนอำมาตย์และฆาตกรฝ่ายขวา
ในยุคนั้นมีการป้ายร้ายป้ายสีฝ่ายประชาธิปไตยและสังคมนิยมอย่างเป็นระบบ เหมือนกับที่สื่อผู้จัดการ และ ศอฉ.ทำทุกวันนี้ สื่อสมัยนั้นมีสถานีวิทยุยานเกราะ และหนังสือพิมพ์ดาวสยาม และ สมัคร สุนทรเวช เป็นนักการเมืองคนหนึ่งที่คอยโจมตีนักศึกษาและฝ่ายประชาธิปไตยตลอด มีการประโคมข่าวเท็จว่านักศึกษาธรรมศาสตร์เล่นละครแขวนคอเจ้าฟ้าชาย การประโคมข่าวโดยอำมาตย์ว่าฝ่ายประชาธิปไตยต้องการล้มเจ้า เป็นข้ออ้างในการเข่นฆ่าประชาชนเสมอ
ทุกวันนี้ก็เช่นกัน ดังนั้นเราไม่ควรเสียเวลาในการประกาศความจงรักภักดีต่ออำมาตย์
ฝ่ายอำมาตย์มีพวกนายพล มีพวกข้าราชการชั้นสูง มีพวกราชวงศ์ มีพวกนายทุนใหญ่ และมีนักการเมืองพรรคอนุรักษ์นิยมทั้งหลาย โดยเฉพาะในพรรคชาติไทย (ภายใต้ ชาติชาย ชุณหวัน ซึ่งผูกผ้าพันคอลูกเสือชาวบ้านในวันที่ ๖ ตุลา) เขาทั้งหมดมือเปื้อนเลือดประชาชนจากเหตุการณ์ ๖ ตุลา
ส่วนพรรคประชา ธิปัตย์สมัยนั้น ก็คัดค้านนักศึกษาและแนวสังคมนิยม และเป็นส่วนหนึ่งของอำมาตย์ด้วย แต่ฝ่ายอำมาตย์สุดขั้วมองว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์อ่อนเกินไปที่ไม่ลงมือ ปราบนักศึกษาอย่างตรงไปตรงมา จึงมีการทำรัฐประหารล้มรัฐบาล
34ปี ผ่านไป ประเทศไทยยังอยู่ใต้อำนาจทรราช ไม่เคยมีใครถูกลงโทษ สมัยนี้สมุนทรราชอย่างเนวินก็จะผลักดันให้อภัยโทษฆาตกรจากเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา ๒๕๕๓
ถ้าไม่ต้องการให้ไทยเป็นทาสต่อไป เราต้องรวมตัวกัน เคลื่อนไหวต่อสู้ เพื่อโค่นอำมาตย์ทั้งแก๊ง ทั้งนายพลชั้นสูง ทั้งนักการเมืองมือเปื้อนเลือด ทั้งข้าราชการศาล ทั้งนายทุนใหญ่ที่สนับสนุนอำมาตย์ และระบบ(เซ็นเซอร์)ที่คอยให้ความชอบธรรมกับความเลวทรามของอำมาตย์
************
ดู รายละเอียดได้ในหนังสือ “อาชญากรรมรัฐในวิกฤติการเปลี่ยนแปลง” คณะกรรมการรับข้อมูลและสืบพยานเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ เขียนโดย ใจ อึ๊งภากรณ์ สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ และคณะ (๒๕๔๔)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น