7 ตุลาคม, 2010 - 20:22 | โดย narongyuth
โลกชีวิตแย้มยื่น หยัดหลอม
ผิวผ่าวบางหนาวตรอม แต่งไว้
ที่พื้นที่ย่ำยอม ย้อมอยู่
โดยกล่อมใจโหยให้ ต่อท้าทวนสรรค์
ก่อนละอองความฉ่ำแล้งเลือนลาง คงมีบางห้วงอารมณ์ที่ร่ำหวนถึง...
ละออง ฉ่ำแล้งเอย...ความฉ่ำแล้ง แรงใจที่ไหนเชื่อมเรา - ท่าน.. หนึ่งนาม "ข้าวปั้น" มีร้อยกรองกลั่นโดยเชยชิด เชิญพิศอ่านแล...
ฝนแรกลงแหลกริ้ว
...ตอนสายฝน พรูพราย สยายต้อง
เจ้าก็หมอง ก็หม่น จนสิ้นสาย
โอ้ซาบซึ้ง ซึ่งว่า น่าเสียดาย
แต่ชีวี ยังมิวาย ตายทั้งเป็น
...ตอนที่เจ้า ผลิดอก ระลอกไหว
เจ้าก็โอน เอนไล้ ลู่ลมเล่น
ยิ่งสายลม พรมพราย ร่ายระเนน
เจ้าก็เอน เลนลู่ ไปพรูพรม
...แม้นร้อนแดด แผดเผา ให้เร่าร้อน
ก็เหมือนผ่อน เหมือนเพลา ให้เงาร่ม
เหมือนจะโบก บินไหว ในสายลม
ผีเสื้อชม เล่นล้อ อยู่รอรี
...ยังรากยัง หยัดยืน ยังขื่นแค้น
ไม่มีใด ทดแทน มาแทนที่
เพียงอวยเอื้อ เกื้อโลก โบกไมตรี
ลมพัดวี ดอกไสว ไปผูกพัน
...ถึงต้องตา แต่มิมอง แล้วต้องจิต
จึงมิคิด มีใจ จะใฝ่ฝัน
มือแผ้วถาง สางสุย ลุยฟาดฟัน
รับโทษทัณฑ์ ฟายฟุ้ง ทุ่งหญ้าคา
...ตอนสายฝน หล่นปราย สยายต้อง
จึงหมองๆ หม่นๆ บนซังหญ้า
ไม่มีคำ พูดใด ไร้น้ำตา
อนิจจา ฝนแรก ลงแหลกริ้ว
...โอ้อกเอ๋ย ดอกฝัน พลันสลาย
ดอกฝนก็ โปรยปราย ลงละลิ่ว..
โดย "ข้าวปั้น"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น