คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง อย่าหยุดแค่อภิสิทธิ์
โดย กาหลิบ
ฝัน ของหลายท่านที่อยากเห็นจอมเผด็จการไทยขึ้นศาลระหว่างประเทศในฐานะจำเลยหลัก ในคดีอาญาโลกและถูกลงโทษด้วยอาญาสากลอาจกำลังเป็นจริงแล้ว การให้ข้อมูลข่าวสารแก่สังคมและการเดินสายทั่วโลกของพวกเราเริ่มได้ผล ร่วมกับเครือข่ายอย่าง นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นขาหนึ่ง
บัด นี้โลกบางส่วนเริ่มเข้าใจในสถานการณ์อันสลับซับซ้อนของไทยและโน้มใจมาทาง ฝ่ายมวลชนของเรามากขึ้น แม้สหรัฐอเมริกาก็ยังเริ่มนิ่มลงและรับฟังมากขึ้น ถึงเราจะยังไม่อาจมั่นใจได้ก็ตาม
แต่ประเด็นใหญ่ที่ฝ่ายมวลชน ควรรับทราบและช่วยกันผลักดันต่อไปคือ การดำเนินคดีครั้งนี้ต้องไม่หยุดแค่รัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะอย่างที่พูดกันอยู่ ณ วงในในขณะนี้
การเอาเรื่องกับฆาตกร ระดับหางแถวอย่างนายอภิสิทธิ์ฯ นายสุเทพฯ หรือแม้แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและฝ่ายทหาร ถึงจะเป็นคดีที่มีโอกาสสูงในการเอาผิดและลงโทษ แต่จะไร้ประโยชน์ต่อการผลักดันให้เกิดระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงขึ้นใน ประเทศไทย
หลายปีมาแล้วที่เราต้องเผชิญภัยกับคนๆ เดียวและวงศ์วานญาติเครือของเขา เราเอาเรื่องเขาไม่ได้เพราะเขาซ่อนมือได้อย่างแนบเนียนและเปลี่ยนคนทำงานมา หลายรุ่น
ก่อนอภิสิทธิ์จะคลอดในค่ายทหารโดยผ่านขบวนการบ้านสี่เสาฯ ก็มีสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ถนอม กิตติขจร สัญญา ธรรมศักดิ์ สองพี่น้องตระกูลปราโมช ธานินทร์ กรัยวิเชียร เปรม ติณสูลานนท์ อานันท์ ปันยารชุน ชวน หลีกภัย และ สุรยุทธ์ จุลานนท์มาก่อน
ก่อนจะมี ประยุทธ์ ก็มีผู้บัญชาการทหารบกมาแล้วนับไม่ถ้วน เกิดแก่เจ็บตายรายรอบฐานเทวทัตกันมากมาย มีน้อยคนหนีรอดจากวงจรกรรมได้ก็หนีไปอยู่เงียบๆ กับงบสืบราชการลับและประโยชน์ที่เบียดบังเอามาจากตำแหน่ง ก่อนจะตายจากไปอย่างเงียบๆ โดยพยายามไม่เป็นข่าวแม้จากขุมนรก
ขบวน การทำลายรัฐบาลทักษิณที่ดำเนินการมาเป็นขั้นตอน จนถึงการฆ่ามวลชนกลางกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ.๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ นี้ ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นที่ตัวคนทำงานอย่างอภิสิทธิ์กับประยุทธ์
แต่เป็นพฤติกรรมการฆาตกรรมต่อเนื่องอย่างที่เรียกกันว่า serial killings ของผู้จ้างวาน
สร้างประวัติศาสตร์กันทั้งที ต้องกล้าๆ หน่อย ตีงูเห่าแค่หลังหัก มันก็เลื้อยกลับมาขบกัดมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยได้อีก
เสียงคัดค้านในเรื่องนี้ลอยลมมาว่า อย่าเอาถึงขนาดนั้นเลย เพียงตัดแขนตัดขาเขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ที่เหลือคือนั่งรอเวลาของเรา
ก็ต้องตอบถ้อยของเสียงที่ฟังดูสุขุมคัมภีรภาพนี้ว่า เขามีแขนขามากมายเกินกว่าที่เราจะตัดได้หมดสิ้น
ตัดอภิสิทธิ์กับคนอีกสองสามคนมีหรือจะหยุดเขาได้
ยุทธวิธี ตัดแขนตัดขาจึงไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของการใช้อำนาจในระบอบของเขา ฝ่ายประชาชนจะต้องเผชิญภัยอีกไม่รู้จักเท่าไหร่ถ้าเราเอากันเพียงแค่นั้น
เท่าที่ผ่านมาบาดเจ็บล้มตายและหัวใจสลายกันเกินพอแล้วมิใช่หรือ?
จึง ขอร้องผ่านช่องทางนี้เพื่อให้เป็นสาธารณะ แทนที่จะกระซิบกระซาบกันเบาๆ ในวงในอย่างเดิมก็เพื่อให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจตัวจริงท่านได้ร่วม สนทนาและวิสัชนาด้วย เพราะการตัดสินใจครั้งนี้มีความสำคัญต่อคนไทยทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นที่ล้มหายตายจากไปแล้วจนถึงรุ่นที่กำลังจะมาเกิด จะคบคิดกันเพื่อประโยชน์การเมืองเฉพาะหน้าเท่านั้นหาได้ไม่
งานนี้เป็นการทำความสะอาดระบอบ ไม่ใช่แค่ระบบ
เรา ต้องถางป่าไปตลอดจนโล่งเตียน อย่าได้เหลือมุมมืดไว้ให้งูพิษและสัตว์ร้ายทั้งหลายมันหลบซ่อนตัวในระบอบที่ โฆษณาว่าเป็นประชาธิปไตยต่อไปอีกเลย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น