คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง วันพนันของพันธมิตรฯ
โดย กาหลิบ
โชค ดีที่เขาพยายามปลุกซากของสิ่งที่เรียกว่า “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” มาใช้งานใหม่ในช่วงนี้ หากเป็นเมื่อสองสามปีก่อนจะเห็นความพิกลพิการและเงาที่อยู่เบื้องหลังได้ไม่ ชัด อาจนึกว่ากลุ่มนี้เป็นพลังมวลชนธรรมชาติที่เคลื่อนไหวกันตามอุดมการณ์และ ความเชื่ออันแท้จริงได้ง่ายๆ แต่มาบัดนี้ที่อะไรหลายอย่างมันร่วงโรยลงไปตามกรรมและเวลา ก็เกิดเป็นน้ำลดตอผุดขึ้นมาแล้ว
เรามาไล่ดูทีละเรื่องก็จะมองเห็นได้
สังเกต ไหมว่าเขาเรียกชุมนุมกันในช่วงนี้ ขนาดส่งเสียงเอะอะโวยวาย ใช้คำพูดรุนแรงหยาบคายหวังจะล่อใจลูกค้าแนวตลาดแล้ว ก็ยังได้คนไม่มาก ถึงขนาดต้องประกาศยุติเวทีไปหนึ่งคืนแล้วย้อนมาใหม่ วันรุ่งขึ้นใจชื้นเพราะคนมามากขึ้น ถึงจะเพิ่มจากร้อยเป็นเพียงพันต้นๆ ก็ยังทำท่าดีใจ
แต่หลักการเพิ่มคนในเวทีการเมืองนั้น ทุกคนที่เคยสัมผัสมวลชนธรรมชาติเขารู้กันทั้งนั้นว่า ต้องใช้วิธีตรึงเวทีโดยไม่ยอมให้ขาดช่วงหรือชะงักเป็นอันขาด หากเปิดเวทีแบบผลุบๆ โผล่ๆ โอกาสที่จะยืนหยัดอยู่นานพอจะสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้เกือบจะไม่ มี
สิ่งที่ “พันธมิตรฯ” ทำหน้ารัฐสภา จึงสะท้อนว่าเขาไม่มีมวลชนมากพอที่จะตรึงกำลังใดๆ ได้ จึงใช้วิธีหยุดเวทีเป็นระยะๆ เพื่อให้แนวร่วมจาก “มือที่มองไม่เห็น” ส่งมวลชนจัดตั้งมาร่วมมากขึ้น
“พันธมิตรฯ” จึงตั้งเวทีนี้ขึ้นมาเพื่อตรวจสุขภาพตัวเอง นั่นคือสำรวจว่า “เจ้านาย” เขายังจะใช้งานตัวเองอยู่ต่อไปหรือไม่ ถ้าเขายังมีเมตตาสงสาร เขาก็อาจส่งสัญญาณให้ลูกหาบกลุ่มอื่นๆ ในสังกัดช่วยส่งกำลัง “มวลชน” มาช่วยเสริมเวทีของ “พันธมิตรฯ”
แต่ถ้าเขาตัดเชือกโดยเห็นว่าเป็นเซลล์มะเร็งไปแล้ว สัญญาณแบบนั้นก็จะชัดเจนขึ้นเช่นกัน
วันนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า “มูลนาย” เขายังจะชุบเลี้ยงคนอย่างนายสนธิฯ พลตรีจำลองฯ นายพิภพฯ นาวาอากาศตรีประสงค์ฯ นายประพันธ์ฯ นางอัญชลีฯ ฯลฯ ต่อไปหรือไม่
ขั้นตอนที่สองคือการประกาศล่วงหน้าว่าจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ ๑๑ ธันวาคมปีนี้
ทำไมต้อง ๑๑ ธันวาคม?
คนที่รู้เกม “พันธมิตรฯ” ฟังแล้วก็หัวเราะ เขาเลือกเอาวันที่ ๑๑ ธ.ค. มาชุมนุมคน ก็เพราะหวังส้มหล่นโดยแท้
วันที่ ๑๑ ธ.ค. เป็นเวลาราวหนึ่งสัปดาห์หลังจากวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม
เลือก เอาวันนั้นไม่ใช่เพราะเป็นวันเสาร์เท่านั้น แต่เป็นเพราะหวังจะได้รับสัญญาณบางอย่างในวันที่ ๔ หรือ ๕ มาวิเคราะห์ทางเดินของตน หากเสียงนั้นออกมาเป็นบวก ก็จะมีเวลาหนึ่งอาทิตย์เพื่อเตรียมประสานกับแนวร่วมต่างๆ ให้ส่งเงินทองของใช้และมวลชนมาร่วมกันในวันชุมนุม โดยอ้างกับเจ้ามือที่เตรียมจะไป “ไถ” เหล่านั้นว่าบัดนี้ตัวเองได้รับงานมาแล้วจาก “สายตรง” ถ้าไม่ส่งสิ่งของมาเซ่นสังเวย (เหมือนไหว้ผี) ตามที่ขอ ก็อาจจะตกขบวนหลักได้
แต่ถ้าสัญญาณเกิดไม่ดี ก็จะพูดไปเสียอีกทางหนึ่งให้ดูดีและหลีกเลี่ยงที่จะไม่ชุมนุมเพื่อประจานตัวเอง
เมื่อ ภารกิจเป็นเรื่องของการสอพลอเอาใจ หวังว่าจะยิงถูกเป้าเข้าสักเรื่อง เนื้อหาที่ “พันธมิตรฯ” นำมาตะโกนโฆษณาบนเวที จึงเปลี่ยนไปเรื่อยไม่มีความเสถียร จากกรณีปราสาทพระวิหารบัดนี้กลายเป็นการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐธรรมนูญเสีย แล้ว
สะท้อนว่าคนที่เกิดมาเป็นเซลล์แมนการเมือง มันก็ต้องเที่ยวหาสินค้ามาขาย ถ้าสินค้าชนิดนี้ไม่เป็นที่นิยมของคนใหญ่คนโต โดนเขาเอาเท้าเขี่ยทิ้งอย่างที่ผ่านมา ตัวก็ต้องก้มเก็บซากของเก่าเอาไปทิ้ง แล้วงกๆ เงิ่นๆ ไปหาสินค้าใหม่มาเสนอเขา โดยหวังว่าคราวนี้จะไม่เจออวัยวะเบื้องต่ำซ้ำอีก เรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อะไรไม่ต้องพูดถึง เพราะไปยอมตัวอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาเสียแต่ต้น
“พันธมิตรฯ” รู้ตัวดีกว่า เดือนธันวาคมนี้เป็นเดือนอยู่เดือนตายของตัวเขาเอง เขาจึงต้องโหมไฟใหญ่โต แต่ก็ติดเพียงเล็กน้อย
ฝ่าย ประชาธิปไตยเองก็อย่าหลวมตัวคิดตื้นๆ ว่าเอา “พันธมิตรฯ” มาฆ่ารัฐบาลประชาธิปัตย์นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อเรา นี่เป็นเพียงปรากฏการณ์ของขี้ข้าฆ่ากันเองเท่านั้น ใครตายในเกมนี้ไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ ต่อเราในเชิงระบอบเลย
ต้องรู้ว่าตัวจริงเขาไม่ได้เล่มเกมใต้น้ำแบบนี้หรอก เขามาเหนือน้ำเลยทีเดียว.
----------------------------------------------------------------------
ข่าว SMS ของฝ่ายประชาธิปไตย เชิญสมัครสมาชิก SMS-TPNews โดยทีมงานเสื้อแดง เที่ยงตรง ไม่บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center: 084-4566794-5 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com บล็อก : wwwthaipeoplenews.blogspot.com
เรียบเรียงโดย Nangfa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น