คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง แดงดอกไม้
โดย กาหลิบ
ใน ระหว่างกิจกรรมของมวลชนคนเสื้อแดงอันหลากหลาย ทั้งในนาม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน และกลุ่มอื่นๆ มีข้อคิดความเห็นบางอย่างที่ขอฝากไว้ในฐานที่รักกันชอบกัน เพื่อขบวนประชาธิปไตยของเรา
ขณะนี้ถือได้ว่าฝ่ายประชาธิปไตยได้พลิก โฉมหน้าประวัติศาสตร์ไทยในเชิงระบอบแล้ว เพียงแต่เป็นการพลิกในระยะต้นที่ยังมีภารกิจคอยให้ทำอีกมาก ผลสัมฤทธิ์ที่ชัดในกระบวนการนี้ คือมวลชนผู้ก้าวหน้า ใฝ่รู้ และหนักแน่นมั่นคงทางอุดมการณ์
สามข้อนี้คือคุณลักษณะสามประการที่ ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ปียังมีคนปรามาสอยู่ว่าคนไทยไม่มีก้าวหน้า คือพร้อมเคลื่อนตัวเองจากการติดหล่มเชิงระบอบ จากความเชื่อที่ฝังหัวแต่เดิมว่าเราต่างมีผู้ปกครองที่ดีวิเศษอย่างหาไม่ได้ อีกแล้วในโลกนี้ จนไม่จำเป็นต้องปกครองตัวเองตามแนวทางประชาธิปไตยและไม่จำเป็นต้องมีระบอบ ประชาธิปไตยด้วยซ้ำ
ใฝ่รู้ คือความกระหายที่จะรู้ความจริงเกี่ยวกับบ้านเมืองและผู้ปกครองที่มีอำนาจ เหนือชีวิตของตนเองโดยสละความสุขส่วนตนเดินทางไปร่วมชุมนุม ร่วมกลุ่ม (ในทุกระดับ) และร่วมรับส่งข้อมูลจนความรู้ความเข้าใจแผ่ออกไปในวงกว้าง
หนัก แน่นมั่นคงทางอุดมการณ์ คือความมั่นใจว่าแนวทางที่ตนเองยึดถือถูกต้อง ไม่วอกแวกไม่วูบวาบ ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อด้วยวิธีการที่หลากหลายของฝ่ายตรงข้ามง่าย เหมือนก่อน
มวลชนที่ได้คุณภาพและประสิทธิภาพถึงขนาดนี้ เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ของประเทศชาติแล้ว ใครประกาศตนเองว่าเป็นผู้นำ แกนนำ หรือองค์กรนำมวลชนเสื้อแดง จะต้องยอมรับนับถือสิ่งเหล่านี้เสียก่อน
คน ที่ลุ่มหลงว่าฉันคือ “กูรู้” ถึงขนาดยกตัวเองขึ้นเป็นครูบาอาจารย์ของทุกคน แถมยังขืนใจให้เขาน้อมตัวเป็นลูกศิษย์โดยที่เขาไม่เต็มใจ แสดงว่าคนๆ นั้นยังขาดวุฒิภาวะที่สำคัญของผู้นำในแนวประชาธิปไตย นั่นคือ ความยอมรับนับถือในเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่มีลักษณะข่มหรืออวดเบ่ง
อัตตาสูงชนิดนี้ หากยังคงมีในระบบความคิด มันจะคอยบังตามิให้เห็นความจริงว่ามวลชนของเรามีความก้าวหน้า มีนิสัยใฝ่รู้ และมีความหนักแน่นมั่นคงทางอุดมการณ์
ความไว้วางใจใน มวลชนก็จะเหลือเพียงน้อยนิด และสุดท้ายก็จะเห็นมวลชนเป็นเพียงส่วนย่อยของระบบใหญ่ที่ตนเป็นเจ้า ในที่สุดก็จะกลายเป็นเผด็จการไปโดยไม่รู้ตัว
ทำไมมวลชนแดงของเราจึงไม่เป็นแดงดอกไม้ ที่ชูช่อไสวสวยงามอย่างหลากสีหลากพันธุ์และอยู่ร่วมกันได้ในแปลงเดียวกัน?
หาก เจตนาเป็นเช่นนี้ก็ง่าย ผู้นำและองค์กรนำจะต้องยอมรับความหลากหลายแตกต่างเสียก่อน ไม่ด่วนตัดสินโครมครามลงไปว่าฉันถูกเธอผิด ไม่มีแดงแท้-แดงเทียม ไม่มีคนที่อุดมการณ์เข้มจัดเกินกว่าใครเสมือนว่าศีลสูงกว่าคนอื่นๆ แต่ยอมรับว่าทุกคนอยู่ในเส้นโค้งแห่งการเรียนรู้ และสุดท้ายก็จะตาสว่าง (ก้าวหน้า) อย่างเดียวกันได้
มวลชนและกลุ่มพลังต่างๆ เองก็ไม่ควรด่วนตัดสินว่าผู้นำและองค์กรนำนั้นเลวหรือดี หากพิสูจน์ไม่ได้ถึงข่าวลือและการให้ร้ายต่างๆ ทั้งส่วนรวมและส่วนตัว ในขณะที่เขายังดำรงจุดยืนสาธารณะเพื่อมวลชนอยู่โดยไม่ออกนอกแนวทาง เราควรยกประโยชน์ให้จำเลยไปก่อน วันหลังว่ากันใหม่ ถ้าเราไม่หนักแน่นอย่างนั้นเราจะไม่เหลือคนทำงานในฝ่ายประชาธิปไตยเลย
ธรรมชาติ มีความลึกซึ้งสุขุมยิ่งในการเลือกพันธุ์คัดพันธุ์ ต้นไม้ใบหญ้าจึงสวยงามลงตัวมีสมดุล หากเราดูแบบธรรมชาติเสียบ้าง ขบวนการใดๆ เพื่อมวลชนจะยกระดับตัวเองได้ง่าย
อย่าลืมว่าเสื้อแดงเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
ใคร คิดแข่งกับเหลือง ชมพู และหลากสีโดยใช้วิชามารเยี่ยงเขา จะพบว่าไร้ประสิทธิภาพและไม่สามารถรักษาความรักนับถือจากมวลชนได้นาน เพราะไม่เป็นธรรมชาติ
ฝากแนวคิดแดงดอกไม้ไว้ตรงนี้ครับ.
http://www.democracy100percent.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น