คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง นางมารร้ายกับคุณชายพระเอก
โดย กาหลิบ
เมือง ไทยคือเมืองละคร ระดับของละครก็ไม่เหนือไปกว่าช่อง ๓ และช่อง ๗ แต่อาจจะโน้มไปทางช่อง ๗ มากกว่า ๓ นิดหน่อยในแง่ความไม่สมจริงของชีวิต พระเอกนางเอกวิเศษเลิศคน ผู้ร้ายตัวโกงก็เลวชาติจนไม่รู้ว่ารอดมาจนถึงละครได้อย่างไร ความร่ำรวยในละครก็ไม่ต้องอธิบายที่มา ไม่มีใครต้องทำมาหากิน รู้แต่ว่ารวยแล้วก็กินข้าวซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเป็นฉากที่ซ้ำบ่อยสุดของละครไทย
ขณะ นี้ละครเรื่องเก่ากำลังฉายซ้ำกันอีกครั้ง โดยส่งข้อความผ่านเว็บต่างๆ ว่า วิกฤติเมืองไทยในปัจจุบันนี้ มีตัวโกงสำคัญคือนางมารร้ายฝ่ายหญิงและพวก ส่วนพระเอกคนเดิมก็ยังเป็นพระเอก อะไรที่เกิดขึ้นในเมืองไทยที่ผ่านมา ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ข้องไม่เกี่ยว นั่งๆ นอนๆ ทั้งวันและนั่งเสียใจว่าทำไมผู้คนถึงเข้าใจผิดเกี่ยวกับตนเอง เพื่อให้คนดูเห็นใจว่าเป็นคนน่าสงสาร
นอกจากเว็บแล้ว ก็จัดส่งนักพูดจัดตั้งของตัวเองออกไปปล่อยข่าวตามกลุ่มประชาชนต่างๆ ด้วยสาระอย่างเดียวกัน เพื่อแก้ข่าวที่อ้างว่าประชาชนส่วนใหญ่กำลังเข้าใจผิด
ในกระแสแฉของ วิกิลีคส์ทีมโฆษณาชวนเชื่อของระบอบก็ยังเอามาใช้ประโยชน์ โดยเปิดเผยสิ่งที่อ้างว่าเป็นรายงานลับของสถานเอกอัครราชทูตที่มีใจความ อย่างเดียวกัน ในโทรเลข (embassy cables) ฉบับนั้น ระบุว่าความวุ่นวายทั้งหลายเกิดขึ้นจากฝ่ายหญิง ที่กระทำลงไปอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์มากกว่าจะเจตนา ฝ่ายชายหรือพระเอกของเรา ไม่รู้เรื่องใดๆ ทั้งสิ้น แถมรู้สึกทุกข์ร้อนอย่างยิ่งในช่วงพันธมิตรฯ ยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบิน แต่ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร
ฟังแล้วก็ต้องหัวเราะเป็นภาษาสันสกฤต
เรื่องแบบนี้อาจจะมีคนเชื่อบ้าง หากเอามาเผยแพร่กันก่อนเหตุการณ์สำคัญๆ ต่อไปนี้
๑. การรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ที่ได้รับคำรับรองระดับสูงเกือบทันทีหลังกระทำสำเร็จ
๒. เงินช่วยเหลือจากระดับสูงที่ระบุมอบให้กับครอบครัวสมาชิกสตรีของพันธมิตรฯ ที่ถูกระเบิดของตัวเองจนตายหน้ารัฐสภา ซึ่งมักจะถูกลืม เพราะไปจำตอนร่วมงานศพกันมากกว่า
๓. การไม่ห้ามปรามลูกน้องของตัวเองที่ไปเกี่ยวข้องโดยตรงกับการโค่นล้มรัฐบาล เลือกตั้ง การทำร้ายประชาชน การวางแผนสังหารผู้นำหลายครั้ง และอื่นๆ ที่ขัดต่อบรรยากาศประชาธิปไตย ทั้งที่เวลาผ่านมาหลายปี
๔. การนั่งเฉยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เมื่อกองกำลังฝ่ายรัฐฆ่าฟันประชาชนในที่ชุมนุมอันเปิดเผยตามสิทธิในระบอบ ประชาธิปไตยจนประชาชนตายไปหลายร้อยคน การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงที่ติดตามมาในหลายมิติจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็ปล่อยให้เกิดขึ้นทั้งที่มีอำนาจระงับยับยั้งได้
ฯลฯ
แต่เมื่อนำมาโฆษณากันภายหลังเหตุการณ์เหล่านี้ แม้แต่เหล่าสุนัขชาติยังปลงใจเชื่อมิได้
หลัก ฐานเหล่านี้ชี้ให้เราเห็นว่า ข่าวปล่อยว่าสังคมนี้เกิดปัญหาเพราะนางมารร้ายโดยที่พระเอกไม่ได้เกี่ยวข้อง ใดๆ เลยนั้น เป็นความเท็จที่ไม่อาจหาใครเชื่อได้อีกต่อไปแล้ว เว้นแต่คนของตัวเองที่อยากเชื่อเพราะกลัวสวรรค์ล่มแล้วจะเสียประโยชน์กัน ทั้งโคตรตระกูล
ฝ่ายประชาธิปไตยควรหัวเราะสนุกกับข่าวปล่อยประเภทนี้ ไม่ต้องเสียเวลาแก้ข่าว แต่ถ้ามีเวลาก็เล่าย้ำถึงความทุกข์ยากเชิงประวัติศาสตร์ให้กับผู้สนใจฟังไว้ เสมอๆ เพื่อให้รับรู้ร่วมกันว่า เมืองไทยเขาแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนเท่านั้นเองคือ มวลชน กับ ผู้กดขี่ระดับสูง ส่วนพระเอกผู้ร้ายนั้นเขาสมมติกันขึ้นมาเพื่อให้เมืองไทยมันสับสนวุ่นวาย เหมือนละครไทยเท่านั้นเอง
ขอบคุณที่ฝ่ายตรงข้ามเดินหน้าโฆษณาชวน เชื่ออย่างต่อเนื่องเพราะนึกว่าได้ผล ทุกครั้งที่ออกมา ฝ่ายประชาธิปไตยก็จะได้เวทีในการชี้นำไปในทางที่ถูกต้องทุกครั้งไป เหมือนในครั้งนี้
การจัดตั้งมวลชนด้วยความจริงทางประวัติศาสตร์เป็น เครื่องมืออันสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงเมืองไทยขนาดใหญ่ ในขณะที่เงื่อนเวลาเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายประชาชนอยู่แล้วในนาทีนี้
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น