สนับสนุนการทำกิจกรรม ส่งเสริมประชาธิปไตยของชาวเชียงใหม่ ร่วมกับศูนย์ประสานงานกลาง นปช.แดงเชียงใหม่

ชื่อบัญชี นปช.แดงเชียงใหม่ ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 02 0012142 65 7 ( มีผู้รับผิดชอบบัญชี 3 ท่าน )

ติดต่อเรา deangchiangmai@gmail.com

ราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน บล็อค นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชนรุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้สร้างเวปบล็อคไว้ 2 ที่ คือที่นี่ “ แดงเจียงใหม่” สำหรับการบอกกล่าวในเรื่องทั่วไป และอีกที่หนึ่งคือ “ Daeng ChiangMai “ สำหรับข่าวสารที่เราเห็นว่ามีประโยชน์ต่อการรับรู้ข่าวสารในการร่วมทำกิจกรรมของพี่น้องประชาชน


เชิญร่วมสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกันครับ
“แดงเจียงใหม่” " Daeng ChiangMai "

รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน

การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ : สมุดปกขาวโดยสำนักกฎหมาย Amsterdam & Peroff การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ . ไพร่สู้บนเส้นทาง ๗๘ ปี ประชาธิปไตย ( ๒๔๗๕ - ๒๕๕๓ ) จรรยา ยิ้มประเสริฐ Voter's Uprising Thai

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

“เรื่องอย่างว่า” : ตอน 2 ความทรงจำถึง 2 ฝรั่งเสื้อแดงในคุกไทย

กรกช เพียงใจ

ในตอนที่สองจะขอแวะมาที่อีกหนึ่งเรื่องแปลก - เรื่องราวของฝรั่ง 2 คนที่ปวารณาตัวเป็น คนเสื้อแดงพวกเขาร่วมชุมนุม โดนจับ และถูกควบคุมตัวที่เรือนจำไทยนานหลายเดือนด้วยข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนจะถูกปล่อยตัวให้บินกลับบ้านไปแล้วทั้งคู่

นั่นคือ คอเนอร์ เดวิด เพอร์เซลล์ และเจฟ ชาเวจ เราเห็นชื่อของเขาเป็นข่าวอยู่บ้าง โดยเฉพาะในส่วนของนายคอร์เนอร์ ซึ่งอยู่เรือนจำนานกว่าเจฟมาก แต่มิสเตอร์ X ผู้ต้องขังคนหนึ่งจะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ร่วมที่มีกับเขาทั้งสองอย่างใกล้ ชิดภายหลังลูกกรง

ผมไม่แน่ใจว่าเจฟและคอเนอร์เข้ามาที่เรือนจำเมื่อไหร่แน่ แต่ที่จำได้แม่นก็คือวันนั้นเป็นช่วงที่มีคนเสื้อแดงถูกจับเข้ามาเรื่อยๆ เป็นร้อยๆ คน เมื่อเข้ามาแล้วก็กระจายไปแดนต่างๆ หลังจากเจฟและคอเนอร์ อยู่แดนแรกรับได้ระยะหนึ่ง ก็ถูกจำแนกมาที่แดนผม เจฟอยู่ห้อง 10 ซึ่งเป็นห้องที่ติดกล้องวงจรปิด และเป็นห้องที่ถือว่าดีที่สุด มีไว้สำหรับนักโทษรายสำคัญๆ ผมเองเคยอยู่ห้องนี้มาก่อน ตอนเจฟเข้ามาผมก็อยู่ห้องนี้ เราจึงสนิทกันมากว่าคอเนอร์ คอเนอร์ถูกจัดให้อยู่ห้อง 2 เพราะเจ้าหน้าที่ต้องการให้แยกห้องกับเจฟ แน่นอน เป็นห้องที่มีกล้องวงจรปิดเช่นกัน

เรื่องปฏิกริยาจากนักโทษด้วยกันน่ะหรือ ไม่มีในทางลบครับ เพราะโดยปกติแล้วนักโทษที่นี่จะค่อนข้างอยู่ห่างๆ จากนักโทษฝรั่งผิวขาว แต่ตอนเค้า 2 คนเข้ามาแรกๆ ก็เป็นที่ฮือฮากันพอสมควร สำหรับเจฟนั้น ใครๆ ก็ซุบซิบนินทาว่าเป็นพวกปลุกปั่นให้เผาเซ็นทรัลเวิร์ล ส่วนคอเนอร์อันนี้หนักเลย เพราะมีการลือกันไปว่า คอเนอร์คือมือสไนเปอร์ที่ถูกคุณทักษิณจ้างมาบ้าง หรือเป็นคนยิงเสธแดงบ้าง

เจฟเข้ามาที่นี่ด้วยสภาพปกติ แต่คอเนอร์นั้นอาการที่เห็นได้ชัดคืออาการปวดกล้ามเนื้อขาอย่างรุนแรงจนแทบ นั่งไม่ได้ ช่วงนั้นตอนที่เค้ามาใหม่ๆ มีคนพูดกันว่า คอเนอร์โดนรุมซ้อมมาจากแดน 1 และข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับก็ลงเช่นนั้น แต่ผมก็ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงนะว่าเป็นยังไงแน่ ช่วงแรกๆ ผมก็แค่เข้าไปทำความรู้จักให้พวกเค้าอุ่นใจว่า เออ มีเพื่อนพูดภาษาอังกฤษได้นะ

โดยปกติแล้วแดนผม ใครที่โดนคดีเสื้อแดงเข้ามาจะได้รับการต้อนรับเป็นพิเศษนะ เพราะหัวหน้าแดนเค้ารักเสื้อแดนมากกกกกกก ผมเป็นคนแรกที่ถูกใบสั่งให้เข้ามาอยู่ที่นี่ ทั้งที่ควรจะอยู่แดนแรกรับเพราะคดีเพิ่งส่งฟ้อง มาถึงก็ได้รับการต้อนรับจากหัวหน้าแดนอย่างสาสม โดยเฉพาะช่วงที่มีผู้ต้องขังเสื้อแดงทยอยกันเข้ามา เกือบทุกคน ยกเว้นบางกรณี เช่น มีอายุ หรือพิการ จะได้รับ การต้อนรับอย่างทั่วถึง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้ดูแลแดนนี้ถึงรักคนเสื้อแดงนัก

โชคดีว่าเจฟและคอเนอร์เป็นฝรั่ง จึงได้เข้ามาอยู่แดนนี้อย่างปลอดภัย ไม่งั้นก็คงไม่รอด น่าแปลกมากที่คนไทยด้วยกันเองปฏิบัติกับคนไทยด้วยกันอย่างไร้เกียรติ ยิ่งเป็นคนเสื้อแดงด้วยแล้วมันกลายเป็นพวกคนเลวทันทีในสายตาผู้คุมที่นี่

ถามเรื่องความเป็นอยู่ของฝรั่งสองคนนี้น่ะหรือ ทั้งเจฟและคอเนอร์ปรับตัวให้เข้ากับการอยู่ที่นี่ได้อย่างดี อาจมีวันแรกๆ นั่นแหละที่อาจขลุกขลักซักนิด เพราะเค้าสองถูกย้ายแดนมากรณีพิเศษ ปกติแล้วที่เรือนจำนี้จะมีการจำแนกผู้ต้องขังทุกๆ วันพฤหัส แต่สองคนนี้ได้เข้ามาก่อน อาจเพราะคอเนอร์มีปัญหาถูกทำร้ายจากแดน 1 ก็ได้

คืนแรก เจฟถูกจับยัดมาในห้อง 10 ขณะนั้นแน่นขนัดแทบไม่มีที่จะนอนแล้ว จึงทำให้ ขาใหญ่ประจำห้องที่เป็นอดีตนายตำรวจ (ที่โดนคดียาบ้านแล้วขู่เรียกเงินผู้บริสุทธิ์หลายราย ท้ายที่สุดโดนผู้เสียหายแจ้งความกลับกว่า 200 คดี ปิดฉากมือปราบยาเสพติด) ไม่พอใจ และผมคิดว่าเค้าคนนี้จึงมีอคติกับเจฟตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่เนื่องจากเจฟเป็นคนตลกและพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย จึทำให้เข้ากับผู้ต้องขังในห้องได้เร็วและไม่มีปัญหาใดๆ

ส่วนคอเนอร์น่ะเหรอ เค้าสร้างวีรกรรมที่ห้อง 2 ซึ่งผมไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ มารู้อีกทีก็ตอนเช้าของอีกวันที่มีคนมาบอกว่าฝรั่งเสื้อแดงเพื่อนคุณเกือบโดนรุมกระทืบเมื่อคืนผมถามว่าทำไมหรือ? พวกที่นอนอยู่ห้อง 2 ก็บอกว่าให้ผมเดินไปดูด้วยตัวเองจะดีกว่า ปรากฏว่าเมื่อผมเดินไปดูก็พบ ข้อความที่เขียนด้วยปากกาเต็ม 2 ฝั่งผนังห้องข้อความเหล่านั้นเขียนเป็นภาษาอังกฤษมีเนื้อหาเกี่ยวกับประชาธิปไตยล้วนๆ มีข้อความด่ารัฐบาล ระบบรัฐธรรมนูญไทย และข้อความแสดงความไม่พอใจที่เขาถูกจับกุม เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ผมเห็นแล้วนึกสงสัยทันทีเลยว่า อีตานี่ท่าทางจะติงต๊องแน่เลย ฮ่า

รายละเอียดส่วนตัวของแต่ละคนเหรอ เจฟเป็นคนอังกฤษ พูดภาษาอังกฤษชัดเจนมาก ค่อยยังชั่วหน่อยฟังสบาย เสน่ห์ของเจฟอยู่ที่การพูดจาครับ เค้าเป็นคนพูดจาสนุกสนานติดตลก เป็นคนอารมณ์ดีน่ะ เข้ากับคนง่ายแถมยังพูดภาษาไทยได้นิดหน่อยด้วย เวลาเค้าไปไหนมาไหนจะสะพายกระเป๋าสีดำคู่ใจไปด้วยเสมอ ในกระเป๋ามีทุกอย่างที่ถูกจับยัดๆ เข้าไป เวลาจะหยิบใช้อะไรทีต้องเสียเวลาหากันให้วุ่น เจฟเป็นคนขี้อายมากๆ เลยนะแม้จะตัวใหญ่เหมือนหมี หรือเรียกว่ามีคุณลักษณะที่เป็นนักเลงได้ มันจึงไม่แปลกที่ผมมักเห็นเขาแอบเข้าห้องน้ำตอนตี 3 ซึ่งคนอื่นหลับหมดแล้วบ่อยๆ เจฟเป็นคนรักครอบครัว เค้ามีภรรยาคนไทยอยู่ที่พัทยา และมีลูกติดภรรยา 1 คนซึ่งเจฟรักมาๆ และมักจะบ่นคิดถึงลูกเสมอพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า เจฟรู้ดีว่าผมก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน บ่อยครั้งเราจึงคุยกันเรื่องลูกด้วยน้ำตาคลอเบ้าทั้งคู่แล้วก็พากันปลอบใจ กันไปมา

ส่วนคอเนอร์ เค้าเป็นฝรั่งที่พูดเร็วมาก เป็นคนพูดจาสนุกสนานอยู่แต่จะไม่โผงผางอย่างเจฟ คอเนอร์รูปร่างใหญ่ อุดมไปด้วยมัดกล้าม สมกับที่เคยเป็นทหารมาก่อน เค้าจะสะพายกระเป๋าไปไหนมาไหนเหมือนเจฟ เป็นกระเป๋าโดราเอมอนเหมือนกัน ที่สำคัญ ไม่เคยล้างเหมือนกัน คอเนอร์เป็นคนกินง่าย อะไรๆ ก็กินได้ ผมมักจะเห็นเค้าเปิดปลากระป๋องแล้วเทลงคอเอื๊อกๆ เคี้ยวกลืนลงคออยู่บ่อยๆ โดยไม่กินข้าวหรือขนมปังตามเลย เวลาส่วนใหญ่ของคอเนอร์จะถูกใช้ไปกับการอ่านและเขียนหนังสือ ทุกวันเวลาบ่ายโมงคอเนอร์จะออกกำลังกายที่ลานออกกำลังกาย ที่มักเห็นประจำคือการฝึกชกมวยกับผู้ต้องขังที่พอจะเป็นมวยอยู่บ้าง ซึ่งผมขอบาย เค้าเป็นคนรักสุขภาพมาก แต่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องความสะอาดเท่าไหร่ - -‘’บางคนบอกผมว่าคอเนอร์คงชินกับการเป็นทหารมาก่อนที่สอนให้นอนกลางดินกิน กลางทรายได้ เหตุผลนี้จึงทำให้ผมเข้าใจเขาได้มากขึ้นหน่อย อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของผมแล้ว คอเนอร์เป็นคนที่มีความรู้มากจริงๆ ในทุกๆ ด้าน ถามอะไรก็รู้หมด

แน่ล่ะ การมาอยู่ในนี้นานๆ เป็นบททดสอบความแข็งด้านของหัวใจเป็นอย่างดี เขาทั้งสองมีมุมอ่อนแอที่ผมแอบเห็นด้วย สำหรับเจฟช่วงแรกๆ ที่เข้ามาและอยู่ห้องเดียวกับผม ผมมีโอกาสดูแลเค้า พูดคุยกับเค้า เจฟหวังว่าจะได้รับการประกันตัว ซึ่งก็เหมือนกับคนอื่นๆ รวมถึงผมด้วย แต่พอไม่ได้ประกันก็ทำให้เจฟฟิวส์หลุดไปบ้าง เช่น การยืนเกาะลูกกรงเหล็กแล้วมองออกไปข้างนอกถนนแล้วน้ำตาคลอ บางทีเราจะเห็นเค้านอนอยู่เฉยๆ แล้วเอาหมัดทุบไปที่หัวตัวเองอย่างแรงแล้วก็ร้องไห้ ผมเข้าใจเลยว่ามันคือจุดที่สุดจะกลั้นแล้ของเจฟ หลังๆ เขาเป็นอย่างนี้อยู่บ่อยครั้ง และผมก็ต้องเข้าไปปลอบเค้าทุกครั้ง เป็นเรื่องที่แปลกมากๆ อันนี้ผมขอบอกเลยว่าเฉพาะกับคนเสื้อแดงเท่านั้นนะ คือ เวลาที่เราท้อแท้ ผิดหวัง เสียใจ (ในคุก) มันจะไประบายทางอื่นไม่ได้เลย ดังนั้นการที่พวกเราได้ปลอบใจกันเอง ในฐานะผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกันมันเหมือนยาวิเศษจริงๆ เวลาที่เจฟท้อแท้สิ้นหวัง ร้องไห้เสียใจ ผมจะเข้าไปจับมือเค้าแล้วพูดปลอบใจ ซักพักเจฟก็หาย บางทีอาจเป็นเพราะเจฟก็รู้ว่าผมก็ไม่ต่างจากเค้าทำให้เค้าคุมอารมณ์ได้เร็ว แต่ผมกลับมาเครียดเสียเอง ฮา

ส่วนคอเนอร์นั้นแทบจะบอกได้เลยว่าไม่เคยเห็นน้ำตาหรือการแสดงอาการเศร้า เสียใจ อ่อนแอจากเค้าเลย ยกเว้นเรื่องเดียวที่ทำให้เค้าเครียดมากที่สุด คือ ตอนที่ทางเรือนจำมีคำสั่ง งดเยี่ยมญาติเพราะสาเหตุที่คอเนอร์เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทตอนเข้ามาอยู่แดนแรกรับใหม่ๆ การตัดสินและมีคำสั่งแบบนั้นทำให้คอเนอร์ไม่พอใจมาก เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นมีการตั้งคณะกรรมการสอบ มีการสอบคู่กรณีแต่ไม่มีการสอบคอเนอร์ ท้ายสุดเลยมีคำสั่งให้ลงโทษงดเยี่ยมญาติทั้งคู่กรณี 3 คนรวมคอเนอร์ด้วยเป็นเวลา 1 เดือน แรกๆ ดูเหมือนคอเนอร์จะไม่คิดอะไร แต่พอผ่านไปสักอาทิตย์ คอเนอร์ก็เริ่มแสดงอาการซึมเศร้า ไม่ยิ้มแย้มแบบเมื่อก่อน ขึ้นอนก็จะนอนเงียบๆ ตามองเพดานโดยไม่พูดไม่จา โธ่ ใครจะไปทนได้ครับ ผมสาบานได้ นักโทษ ผู้ต้องขังทุกคนในนี้ เฝ้ารอคอยการมาเยือนของญาติกันทั้งนั้น การได้พบคนอื่นบ้างมันจะทำให้มีชีวิตชีวา เมหือนมีการเติมพลังให้ชีวิต ผมเองยังเป็นอยู่บ่ายๆ อย่างที่คุณมาเยี่ยมผม มาคุยกับผม ผมก็ดีใจนะ แล้วก็รู้สึกสดชื่นด้วย มาเฉยๆ ไม่ต้องซื้อของฝากก็ได้ ก็แหม 24 ชั่วโมงอยู่แต่ในกรอบสี่เหลี่ยม ได้เจอคนอื่นได้พูดคุยกับคนรู้จัก มันเป็นสิ่งวิเศษจริงๆ ดังนั้น ไม่แปลกที่จะเห็นคอเนอร์คนเหล็กของเราหงอยลงถนัดตาตอนห้ามเยี่ยมญาติ

ข้อหาที่สองคนนี้โดนเหรอ ก็อย่างที่เป็นข่าว คือ โดนข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินด้วยกันทั้งคู่ แต่เพราะเป็นชาวต่างชาติ ศาลจึงไม่ให้ประกันตัวเพราะกลัวหลบหนี ดังนั้น ศาลจึงมีการนัดขึ้นศาลโดยทิ้งช่วงเป็นเวลานาน เจฟเอง ช่วงหลังๆ เริ่มเครียดและหงุดหงิดง่าย เลยทำให้สุขภาพเขาทรุดลงไปด้วย เริ่มจากเกิดแผลที่เท้า เน่าจนเดินไมได้ เจฟจึงถูกส่งให้ไปพักฟื้นที่แดนพยาบาลระยะหนึ่ง ในช่วงเวลานั้นแกนนำก็มีการย้ายจากคลองเปรมมาที่นี่ และมีการกระจายแกนนำไปยังแดนต่างๆ บางคนก็ย้ายมาอยู่แดนผมนี่ด้วย แต่เขาสั่งห้ามเสื้อแดงอยู่ห้องเดียวกัน แต่ย้ายไปย้ายมาคนเสื้อแดงคงเยอะเกิน มันเลยมาลงให้ทำให้ ผม เจฟ และคอเนอร์ได้อยู่ห้องเดียวกันเฉยเลย ไม่กี่วันถัดมาเจฟก็ได้ขึ้นศาล โดยเจฟเลือกทาง รับสารภาพจึงทำให้เจฟได้กลับบ้านเลยในทันที เพราะจำคุกมาเกินกว่าโทษที่ตัดสินมา

“ ... แล้วเจฟก็มาลาผมและคอเนอร์ หน้าตาเปื้อนรอยยิ้ม เคล้าน้ำตา ผมกับคอเนอร์ได้สัมผัสมือเจฟเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะให้สัญญากันว่าออกไปแล้วจะไม่ลืมกัน และเราจะพบกันใหม่ข้างนอก การจากไปของเจฟในครั้งนี้ ทำเอาผมใจหาย และนึกใจด้วยว่าเมื่อไหร่จะเป็นวันของผมบ้าง...

ความประทับใจในตัวเจฟเหรอ เอาเรื่องที่ประทับใจสุดก่อนนะ ตอนเค้ามาห้อง 10 ใหม่ๆ มีคนถามเจฟในทำนองดูถูกเหยียดหยามและหยาบคายว่าเป็นฝรั่งเอี้ยอะไรเสือกมายุ่งกับเสื้อแดง ฝรั่งแม่งเกี่ยวอะไรเจฟตอบเค้าในทันที โดยมีผมทำหน้าที่แปล เจฟตอบว่าเค้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกถ้ามันไม่จำเป็นจริงๆ แต่บังเอิญเค้ามีลูกสาวคนไทย มีเมียคนไทย เค้าจึงจำเป็นต้องออกมาร่วมกับคนเสื้อแดง เพื่ออนาคตของลูกสาวของเค้าคำตอบนี้ทำเอาคนถามหน้าหงายกลับไป พร้อมกับคำพูดแถมจากผมว่า เป็นไงล่ะ อายฝรั่งมั้ย แล้วเอ็งเคยคิดทำอะไรให้ประเทศมั่งมั้ย” ...หมอนี่มันทำให้ผมได้ยิ้มระรื่นด้วยความสะใจไปทั้งวัน

เจฟไปแล้ว แล้วคอเนอร์เป็นยังไงน่ะเหรอ แน่ล่ะ เจฟได้กลับบ้านเพราะรับสารภาพ ประเด็นนี้เป็นเรื่องท้าทายบุรุษผู้เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอย่างคอ เนอร์มาก เขามีความเชื่อ ความมุ่งมั่นว่า ถ้าผมไม่ผิด ผมก็จะสู้จนวินาทีสุดท้ายดังนั้นเค้าจึงยืนกรานมาตลอดว่าจะ สู้เพื่อชนะคดีให้ได้ แม้จะมีคนใกล้ชิดมาหว่านล้อม ขอร้องให้เค้ารับสารภาพเพื่อจะได้รับการพิจารณาแบบเดียวกับที่เจฟได้รับก็ ตาม

มีอยู่วันหนึ่ง คอเนอร์ได้รับจดหมายจากคนใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งที่มาเยี่ยม ดูแล เอาใจใส่ให้คอเนอร์อยู่ตลอด เนื้อความในจดหมายเขียนยกย่องในความเป็นนักต่อสู้ของคอเนอร์ และเข้าใจ แล้วก็เคารพการตัดสินใจของคอเนอร์ทุกอย่าง แต่ถึงยังไงเค้าก็ยังห่วงคอเนอร์ และอยากให้คอเนอร์ห่วงเค้าด้วยเช่นกัน....เมื่อผมอ่านจบแล้ว คอเนอร์ถามกลับผมว่า ถ้าเป็นผม ผมจะตัดสินใจยังไง? จริงๆ แล้วผมบอกตามตรงว่าใจหายที่จะตอบ เพราะใจหนึ่งผมก็เห็นแก่ตัวสุดๆ อยากให้คอเนอร์อยู่เป็นเพื่อนผมไปก่อน แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้เพื่อนพ้นทุกข์จากตรงนี้ ผมจึงตอบไปว่า รับเถอะถ้าแน่ใจว่ารับแล้วโทษจะตัดมาเท่าเจฟ...

ก่อนวันขึ้นศาลประมาณ 2 สัปดาห์ ผมแน่ใจแล้วว่า คอเนอร์เลือกเส้นทางแบบเจฟ จึงได้ปรึกษาหารือกันในกิจกรรมที่ผมจะทำกับคอเนอร์เมื่อได้ออกไป แล้วผลคำพิพากษาก็ออกมาในแนวทางเดียวกับเจฟ เย็นวันนั้น ผมได้สัมผัสมือกับคอเนอร์ผ่านลูกกรงประตูเป็นครั้งสุดท้าย กับคำมั่นสัญญาว่าเค้าจะช่วยเหลือผมและลูกอย่างแน่นอน .. และปัจจุบันคอเนอร์ก็ได้ยืนยันคำพูดนั้น ผ่านการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ทำให้ผมและคนเสื้อแดงมาโดยตลอดเท่าที่เขาจะทำได้

เขาสองคนจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป หวังว่าเราได้เจอกัน..ข้างนอกนั่น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:

"เรื่องอย่างว่า" : ตอน 1 ความน้อยเนื้อต่ำใจของผู้ต้องหาคนหนึ่ง

http://prachatai.com/journal/2011/01/32822

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น