http://img689.imageshack.us/img689/644/91553086.jpg
http://img191.imageshack.us/img191/7342/52931604.jpg
คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง ชายแดนยุ่งเพราะกรุงเทพฯ
โดย กาหลิบ
ใคร อยากเข้าใจอย่างแท้จริงว่า การปะทะด้วยกำลังทหารที่ชายแดนไทยและกัมพูชาซึ่งระเบิดขึ้นมาตั้งแต่วัน เสาร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ มีเบื้องหลังอย่างไรแน่ อันดับแรกต้องถอนตัวออกมาจากความรู้สึกคลั่งชาติหลงชาติที่ระบบศักดินา-อำมา ตยาธิปไตยไทยกำลังเร้าอยู่เสียก่อน เพราะจะทำให้ขาดสติและสับสนทางใจได้ง่าย
ลัทธิรักชาติ (nationalism) ถือ เป็นคุณธรรมอย่างหนึ่งของระบบรัฐสมัยใหม่ ใครมีก็ถือว่าเป็นคนดี ควรยกย่องสรรเสริญกันให้เอิกเกริกไป ความจริงความรักชาตินี้ทำให้คนในชาติสามัคคีกันเพื่อความเจริญก้าวหน้าก็ได้ หรือทำให้คิดยกพวกไปตีกับชาติอื่นจนเกิดเสียหายใหญ่หลวงก็ได้ เรื่องนี้ผิดหรือถูกค่อยไปว่ากันในเวทีอื่น
แต่ ความคลั่งชาติและความหลงใหลในชาติ คือโรคอย่างหนึ่งที่ล้นทะลักออกมาจากความรักชาติ และทำให้คิดร้ายต่อสรรพสิ่งรอบตัวได้มากหากไม่ควบคุมให้ดี
เหมือนสถานการณ์ในขณะนี้
สิ่ง แรกที่ต้องตราไว้ก่อนที่ฝุ่นจะฟุ้งไปมากกว่านี้คือ สถานการณ์ชายแดนไทยและกัมพูชาเที่ยวนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ เหนือดินแดนหรือกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใดเลย เพราะกรณีเช่นนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยกลไกต่างๆ สารพัด ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาเสนอซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งกลไกในกรอบสหประชาชาติและอาเซียน แต่รัฐบาลไทยในฐานะที่เป็นตัวแทนของระบอบไทยก็ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยทุก ครั้ง
คำ ปฏิเสธเด็ดขาดของฝ่ายไทยชี้ว่าการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จอย่างคนใจสูง โดยใช้กลไกพหุภาคีและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างอารยะ คงไม่ใช่เป้าหมายอันแท้จริงเสียแล้ว
ที่ดิน ใต้ปราสาทพระวิหารและรอบๆ ดูจะเป็นเพียงข้ออ้างให้ได้เกิดพิพาทกัน เพราะนอกจากฝ่ายไทยจะปฏิเสธกลไกสันติภาพทุกประการอย่างไร้เหตุผลแล้ว ข้อตกลงแก้ปัญหาที่เพิ่งทำระหว่างรัฐบาลอภิสิทธิ์กับรัฐบาลกัมพูชาก็สูญหาย ไปเฉยๆ ภาพจึงชัดเจนขึ้นทุกทีว่า ระบอบการปกครองใหญ่ที่ครอบรัฐบาลอภิสิทธิ์อยู่อีกต่อหนึ่งคงเกิดกระหาย สงครามขึ้นมาแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ โอกาสในการอ้างปัญหาปราสาทพระวิหารมาเป็นเหตุในการยึดอำนาจรัฐประหารก็มีสูง
เรา เคยวิเคราะห์กันมาแล้วว่า ทางเลือกของประมุขแห่งระบอบศักดินา-อำมาตย์ไทยมีไม่มากนัก ยิ่งเมื่อเครือข่ายและแนวร่วมของฝ่ายประชาธิปไตยแข็งแกร่งขึ้นอย่างชนิดล้ม ไม่ลง เมื่อร่างทรงที่เลือกมาอย่างประณีตบรรจงคือนายอภิสิทธิ์ฯ มีโอกาสขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เพราะการสั่งฆ่ามวลชนประชาธิปไตย หรือเมื่อในขณะที่ขบวนการตาสว่างกำลังยกระดับขึ้นสู่แนวทางปฏิวัติ เป็นต้น
การล้างไพ่ล้มกระดานจึงอาจจะเป็นทางออกจากปมปัญหาที่สางไม่ออก
แต่ปัญหาคือกัมพูชาเป็นประเทศเอกราชอันสมบูรณ์ มิได้อยู่ในเขตอำนาจของประมุขของระบอบศักดินาไทย ปฏิบัติการ “ผลักอกชกหน้า” กัมพูชา ที่วัดแก้วสิกขาฯ จึงอาจกำลังนำไปสู่สภาวการณ์ใหม่ที่ผู้มีอำนาจไทยควบคุมไม่อยู่ การปะทะเล็กน้อยอาจขยายเป็นสงครามและสงครามอาจขยายเป็นการรบพุ่งกันตลอดแนว ชายแดนได้ การสร้างเหตุการณ์โดยหวังผลแคบๆ ภายในประเทศไทยจึงอาจกลายเป็นปัญหาใหม่ในระดับระหว่างประเทศไปในที่สุด
งาน นี้เป็นบทพิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่า ทัศนะอันคับแคบเห็นแก่ตัวของผู้นำระบอบโบราณของไทย ที่ทำให้เชื่อฝังใจว่า ประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศมีศักดิ์ศรีในความเป็นประเทศ ศักยภาพในการพัฒนา และขีดความสามารถในการรบที่ต่ำต้อยกว่าเขา ถึงขนาดแสดงกิริยาอาการที่ไม่ต่างอะไรจากคนหลงโลกที่ไม่รู้ว่าใครเขาพัฒนาไป ถึงไหนอย่างไรแล้ว
ระบอบ เดียวกันนี้จึงฉุดกระชากลากถูประเทศไทยลงสู่ที่ต่ำ จากประเทศที่เกือบพัฒนาแล้วกลายเป็นนประเทศที่มีความเสี่ยงอันตรายสูง และทำให้ราคาค่างวดของประเทศลดลงอย่างน่าใจหาย
ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์มติชนมีคอลัมน์ฮิตติดตลาดชื่อ “กรุงเทพไม่ใช่ประเทศไทย” ที่ ได้ชี้ประเด็นสำคัญคือการพัฒนาเมืองไทยให้สมดุล มิใช่ลำเอียงเข้าข้างนครหลวงจนน่าเกลียด วันนี้จะเห็นกันบ้างหรือไม่ว่ากลุ่มผู้ตัดสินใจที่มีฐานอยู่ในกรุงเทพฯ กำลังสร้างกรรมหนักหน่วงให้กับจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดทั้งแนวอย่างไม่ รับผิดชอบ แถมเศรษฐกิจโดยรวมของชาติยังเสียหายจากบรรยากาศในภาพรวม
ชาวบ้านเขาเริ่มเห็นกันทุกทีแล้วครับว่า วันหนึ่งคงต้องล้างกรุงเทพฯ กันเหมือนล้างป่าช้าเสียที.
http://www.democracy100percent.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น