สนับสนุนการทำกิจกรรม ส่งเสริมประชาธิปไตยของชาวเชียงใหม่ ร่วมกับศูนย์ประสานงานกลาง นปช.แดงเชียงใหม่

ชื่อบัญชี นปช.แดงเชียงใหม่ ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 02 0012142 65 7 ( มีผู้รับผิดชอบบัญชี 3 ท่าน )

ติดต่อเรา deangchiangmai@gmail.com

ราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน บล็อค นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชนรุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้สร้างเวปบล็อคไว้ 2 ที่ คือที่นี่ “ แดงเจียงใหม่” สำหรับการบอกกล่าวในเรื่องทั่วไป และอีกที่หนึ่งคือ “ Daeng ChiangMai “ สำหรับข่าวสารที่เราเห็นว่ามีประโยชน์ต่อการรับรู้ข่าวสารในการร่วมทำกิจกรรมของพี่น้องประชาชน


เชิญร่วมสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกันครับ
“แดงเจียงใหม่” " Daeng ChiangMai "

รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน

การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ : สมุดปกขาวโดยสำนักกฎหมาย Amsterdam & Peroff การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ . ไพร่สู้บนเส้นทาง ๗๘ ปี ประชาธิปไตย ( ๒๔๗๕ - ๒๕๕๓ ) จรรยา ยิ้มประเสริฐ Voter's Uprising Thai

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ใบตองแห้งออนไลน์ : คุกสมความคิด

เปล่า ไม่ได้เยาะเย้ยวีระ สมความคิด โห ใครจะบังอาจเยาะเย้ยวีรชนของชาติ ผู้ยอมพลีอิสรภาพเพื่อทวงคืนผืนแผ่นดินไทย จนมีคนยกชั้นเล่าขานเปรียบเทียบตำนานพระยอดเมืองขวาง

เอ้า พูดจริงๆ ถึงจะมีความเห็นต่างอย่างไร ชอบหน้าหรือไม่ชอบหน้า ถ้าเรายังมีใจเป็นธรรม ก็ต้องเห็นว่าวีระ ไม่ได้รับความยุติธรรมจากตุลาการภิวัตน์กัมพูชา แค่เดินเข้าไปในเขตที่เขมรยึดครอง (ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาปักปันว่าเป็นเขตแดนของใครแน่) แค่เนียะ ทำไมโดนข้อหาจารกรรมติดคุกตั้ง 8 ปี

ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องเรียกร้องให้รัฐบาลไทยต่อสู้ ประท้วง เจรจา ต่อรอง หรือทำอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อเอาตัววีระกับราตรีกลับมาให้ได้

นี่ไม่ใช่เรื่องชาตินิยมนะครับ แต่เป็นเรื่องความยุติธรรม เป็นเรื่องชีวิตและสิทธิเสรีภาพของบุคคล ไม่ว่าใครจะมองเป็นวีรชนหรือเป็นตัวอะไรก็ตาม เขาควรได้รับความยุติธรรม ส่วนไอ้เรื่องเส้นแบ่งเขตแดน หรือ MOU ปี 43 เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ปชป.กับ พธม.ไปเถียงกันเอง ขี้เกียจฟัง

แต่ที่บอกว่า สมความคิดเพราะคำตัดสินของตุลาการภิวัตน์เขมร ได้ผูกปมยุ่งเหยิงให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ จน สมความคิดของคนอย่างน้อย 2 ส่วน หนึ่งก็คือ พวกพ้องของวีระที่มาเย้วๆ อยู่สะพานมัฆวาน ซึ่งได้ยกระดับการต่อสู้ตามที่ตั้งเป้าไว้ สองก็คือ ฮุนเซ็นที่นั่งดูหัวร่อชอบใจ เตรียมเอาอิสรภาพของวีระเป็นเครื่องมือต่อรองอะไรซักอย่าง

ถ้าเป็นรัฐบาลอื่น เราคงกระอักกระอ่วนที่จะบอกว่า เฮ้ย เมริงต้องเอาตัววีระกะราตรีกลับมาให้ได้ เพราะการกดดันรัฐบาลก็เท่ากับไปเข้าทางพวก สมความคิดที่มี hidden agenda

แต่ในเมื่อรัฐบาลนี้ติดหนี้บุญคุณพันธมิตรฯ ติดหนี้บุญคุณวีระ ที่ช่วยไล่รัฐบาลสมัคร-สมชาย จนตัวเองได้เสวยอำนาจ มันจึงเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องสางปมหาทางออกให้ได้ ถ้าไม่สามารถเอาตัววีระ-ราตรี กลับมาได้ เมริงก็สมควรถูกหอกข้างแคร่คืนสนอง

สิ่งที่เราเห็นในหน้าหนังสือพิมพ์ 2-3 วันนี้จึงเป็นการช่วงชิงพื้นที่ข่าว ไล่บี้กันระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตร ในเรื่องความรับผิดชอบต่อวีระ สมความคิด ซึ่งฝ่ายรัฐบาลพยายามเด้งเชือกไม่ยอมเข้ามุม เช่น อภิสิทธิ์ดักคอว่าอย่าเอามาเป็นเงื่อนไขทางการเมือง เทพเทือกย้อนว่า พันธมิตรโกรธใครกันแน่ระหว่างรัฐบาลไทยกับเขมร

อันที่จริงทั้งคู่ก็พูดถูก ถ้าดูจากพฤติกรรมพันธมิตร แต่ความเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกันมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่สมัยยึดทำเนียบยึดสนามบิน จนมาส่ง ส.ส.เดินไปให้เขมรจับร่วมกับวีระ จะปัดสวะพ้นตัวง่ายๆ ได้อย่างไร ถ้าช่วยวีระกลับมาไม่ได้ ก็หนีความรับผิดชอบไปไม่พ้นแน่นอน

มาร์คอ้างไม่ได้หรอกว่า พนิช วิกิตเศรษฐ์ ไม่ได้ร่วมหัวจมท้ายกับวีระ คนระดับนักเรียนนอก เดินทางไปพื้นที่สุ่มเสี่ยงโดยมีผู้ร่วมคณะชื่อตายแน่ มุ่งมาจนมันควรจะมีอีคิว มีความเฉลียว มีลางสังหรณ์มั่งว่าจะเกิดอะไรขึ้น เป็นเราๆ ท่านๆ แค่ฉิ่งฉับทัวร์ไปทอดกฐิน ถ้าเจอคนชื่ออย่างนี้ ก็คงไล่ลง (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ อิอิ)

เช่นกัน มาร์คจะทำอย่างไรถ้าพันธมิตรปีนรั้วบุกทำเนียบ ประกาศภาวะฉุกเฉินหรือ ก็ตอนนั้นผู้นำฝ่ายค้านเคยอภิปรายในสภาคัดค้านรัฐบาลสมัครประกาศภาวะฉุกเฉิน ปราบม็อบเสื้อเหลืองยึดทำเนียบมาแล้ว

นี่คือเรื่องสนุกในการยืนดูพวกไร้หลักการเผชิญหน้ากับพวกไร้หลักการ

ขณะเดียวกัน ถ้ามองในด้านพันธมิตร ก็พบว่ามี agenda อย่างไม่สามารถ hidden จนเป็นที่แจ่มแจ้งแดงแจ๋ ถ้าไม่เกรงใจวีระ ตอนรู้ข่าวว่าคุก 8 ปี คงมีบางคนอยากจุดประทัดฉลองตรุษจีน เพราะมันทำให้พันธมิตรมีเงื่อนไขยึดสะพานมัฆวานต่อไปอีกอย่างน้อย 30 วันตามระยะเวลาที่วีระต้องยื่นอุทธรณ์ เพียงแต่ พธม.วันนี้ไม่เหมือนวันนั้น คือยิ่งอยู่นานยิ่งร่อยหรอทั้งกำลังพล เสบียงกรัง หมดท่อน้ำเลี้ยง จึงยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิบัติได้อีกตามเคย คือขีดเส้นให้ช่วยวีระใน 3 วัน

ครบ 3 วันแล้วไง จะมีน้ำยามาทำอะไรขวัญใจจริตนิยม ผมยังมองไม่เห็น เห็นแต่มีข่าวลือเรื่องรัฐประหาร ซึ่งน่าจะมีคนคิดจริงคิดจัง แต่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นไปได้

พูดเรื่องรัฐประหาร ผมสอบถามดูแล้ว พวกที่เชื่อเป็นตุเป็นตะเขาอ้างว่า อำมาตย์ใหญ่วิตกกังวลความเติบใหญ่เข้มแข็งของขบวนการเสื้อแดง ที่กำลังตาสว่างทั้งแผ่นดินโดยเชื่อว่าไม่จบแน่ และไม่พอใจว่าอภิสิทธิ์ทำงานมา 2 ปีไม่ได้ผล ต้องทำรัฐประหารกวาดล้างปราบปรามกันขนานใหญ่

นอกจากนี้ อำมาตย์ยังกลัวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะแพ้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง ถ้าพรรคเพื่อไทยได้อันดับ 1 แต่ไม่ถึงครึ่ง แล้ว ปชป.ไปจับมือกับพรรคร่วมตั้งรัฐบาล ก็จะเป็นเหตุให้เสื้อแดงเคลื่อนไหวกล่าวหาว่ามีการตั้งรัฐบาลในค่ายทหารอีก แกนนำ ปชป.ต้องวิ่งเข้าหากันขาขวิด ให้ความมั่นใจว่าถ้าแก้รัฐธรรมนูญสูตร 375-125 ผ่าน ปชป.จะได้มาร่วม 240 คน

ฟังดูมันก็น่าเชื่อนะครับ เมื่อผสานกับข่าวลือที่ว่า พลเอกเปรมไปเพชรบูรณ์กับหน้าแหลมฟันดำ ซึ่งสามารถเอามาโยงกันเป็นคู่ๆ เปรม-จำลอง ประสงค์-ประพันธ์ คูณมี สองคนหลังนั่งบัญชาการอยู่ในม็อบ โดยแกนนำพันธมิตรหน้าเดิมๆ อย่างพี่พิภพ น้องยะใส อ.สมเกียรติ สมศักดิ์ แทบไม่มีบทบาท แม้แต่สนธิก็ยังมาพูดๆ แล้วกลับ อาจจะมีแค่ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่ดูเสมือนเป็นตัวเชื่อมระหว่างสนธิกับม็อบ นอกกระนั้นคนที่มีบทบาทก็เช่น พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ พลเรือเอกบรรณวิทย์ เก่งเรียน (ซึ่งไปอยู่ที่ม็อบเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ สาเหตุที่ไม่มาม็อบพันธมิตร ต้องไปค้นคำพูดของสนธิ ลิ้ม ย้อนหลัง ว่าเขาด่ากันไว้อย่างไรบ้าง) ซึ่งพัวพันกับบ้านสี่เสาทั้งสิ้น

แต่เอาเข้าจริง ข่าวนี้จริงหรือเปล่า ไม่ใช่แค่หน้าแหลมฟันดำออกมาปฏิเสธ ข่าวสายทหารก็ยืนยันว่าไม่จริง วันนั้นพลเอกเปรมไปคนเดียว กับบรรดานายทหารเช่น ผบ.สส. เสธ.ทหาร (ไม่ใช่เสธ.ทบ.ด้วย) แต่ไม่รู้ว่าใครเอาข่าวมาปล่อยกับจตุพร พรหมพันธุ์

คำถามคือทหารที่ไหนจะทำรัฐประหาร ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เอาด้วย ปัจุจบันทหารมีอำนาจบารมีชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนก จะตั้งกองพล ม.3 พล ร.7 ตั้งงบผูกพัน 10 ปี 1 ล้านล้าน จะซื้อรถถังยูเครน จะซื้ออาวุธอะไรไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์ ไม่มีใครกล้าหือ ท้องอิ่มพุงกางโดยยังสามารถวางฟอร์มสุภาพบุรุษในเฟซบุค ไม่ต้องออกหน้ามาให้ชาวบ้านด่าเหมือนนักการเมือง

นี่คือสถานภาพที่ทหารมีความสุขที่สุดแล้ว ทำไมจะต้องขับรถถังออกมาหาเหาใส่หัว เอาตัวเป็นหนังหน้าไฟ ทำรัฐประหารให้สมความคิดพวกพันธมิตร ซึ่งเผลอๆ ตอนนี้ทหารอาจจะเกลียดพันธมิตรไม่น้อยกว่าเสื้อแดง เพราะจิกหัวด่าทหารทุกวัน

แต่พวกเชื่อข่าวรัฐประหารเขาก็เถียงว่า ถึงเวลามี ใบสั่งประยุทธ์ก็ต้องทำ

ไอ้ตู่ของ พธม.อีกนั่นแหละ อ้างว่าคนที่จะทำคือ พลเอก ด.ซึ่งคงหมายถึง พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก พวกเชื่อข่าวรัฐประหารเขาอ้างว่า อำมาตย์ต่อสายตรงถึงดาวพงษ์ ให้วางแผนเตรียมการ

ดาวพงษ์ขึ้นเป็น เสธ.ทบ.เพราะเป็นเพื่อนประยุทธ์ มีผลงานปราบม็อบเสื้อแดง ทั้งเป็นคนกว้างขวาง คบหาได้ทุกฝ่าย แม้แต่ทหารแตงโม ว่ากันว่าประยุทธ์ให้สัญญาเพื่อน ปีสุดท้ายจะขยับขยายไปเป็น ผบ.สส.เปิดช่องให้เพื่อนที่เกษียณพร้อมกันได้เป็น ผบ.ทบ.แม้คนวงในยังไม่มั่นใจว่า ถึงตอนนั้นดาวพงษ์จะโดนดาวรุ่งรายใหม่ๆ เบียดจนเป็นดาวร่วงหรือเปล่า แต่ก็เป็นไปได้ยากที่ดาวพงษ์จะทำรัฐประหารโดยพลการเพราะกำลังหลักอยู่ในมือบูรพาพยัคฆ์

ต้องทำความเข้าใจกันด้วยนะครับว่าฉายา บูรพาพยัคฆ์กับ วงศ์เทวัญซึ่งหมายถึงทหารกรุงเทพฯ มันมีที่มาที่ไป วงศ์เทวัญหมายถึงพวกลูกท่านหลานนาย จบ จปร.ออกมาแล้วก็รับราชการอยู่ในกรุงเทพฯสะดวกสบาย เที่ยวเตร่กินเหล้าจีบสาวตามผับทุกคืน (ลูกบิ๊กบางรายเขาเล่าว่า สมัยจีบเมียที่ทำงานการบินไทย ยังเคยเอา ฮ.ไปขับโชว์ข้างตึกการบินไทย) ส่วน บูรพาพยัคฆ์คือพวกหน้าเหี้ยมอยู่ชายแดน ออกลาดตระเวณทุกวัน ฉะนั้นเวลาวัดกำลังหรือวัดใจกัน พวก วงศ์เทวัญเนี่ยสู้ บูรพาพยัคฆ์หรือพวกทหารพล 9 พลร่มป่าหวายไม่ได้หรอก ฉายาก็บอกชัดเจนแล้ว

ใครที่หวังให้ทหาร วงศ์เทวัญโค่น บูรพาพยัคฆ์คงต้องช่วยปลุกพระกันหนักหน่อย

คำถามข้อใหญ่ก็คือ ทำไมพวกอำมาตย์มันฉลาดนักวะ รัฐประหาร 49 ทำให้เกิดเสื้อแดงเป็นล้านๆ ยังคิดจะทำรัฐประหารอีก อยากให้เสื้อแดงท่วมบ้านท่วมเมืองหรือไง โลกยุคนี้ใครมันจะยึดอำนาจเผด็จการจัดระเบียบประเทศอยู่ได้อย่างที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ พูด (เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.สุรยุทธ์ อดีตกบฎ 26 มีนา 2520 ร่วมกับเสธ.หนั่น ลูกน้องพล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ที่รัฐประหารแพ้โดนยิงเป้า)

ยิ่งกว่านั้น ถ้าดูกระแสของพันธมิตรวันนี้ จะเห็นว่ามีแต่ถูกคนกรุงคนชั้นกลางด่า ไม่ต่างจากม็อบเสื้อแดง ที่ถูกด่าว่ามันจะม็อบไปทำไมทำให้ผู้คนเขาเดือดร้อน หยุดทำให้บ้านเมืองวุ่นวายได้แล้ว จะได้อยู่สงบๆ กันเสียที

เรื่องอ้างชาตินิยมก็เปล่าประโยชน์ เสียดินแดนหรือ แค่ 4.6 ตารางกิโลเมตรคนชั้นกลางไม่ได้แยแสหรอก (เกี่ยวไรกับกรู กรูกำลังผ่อนบ้านหรู 100 ตารางวา) แต่ตอนนั้นที่ตามแห่กันไปเรื่องปราสาทพระวิหารก็เพราะเกลียดสมัคร เกลียดทักษิณ ตอนนี้คอยดูสิ พอแม่ทัพภาค 2 เสนอให้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกัน คนกรุงคนชั้นกลางก็จะแซ่ซ้อง ส่งเสริมการท่องเที่ยว เงินทองไหลมา 4.6 ตารางกิโลเมตรจะเป็นของใครก็ช่าง ขอให้เป็นสนามการค้า

บนพื้นฐานของกระแสเช่นนี้หรือที่จะทำรัฐประหาร ถ้าทหารจะทำก็ต้องกวาดจับหมดทั้งแกนนำเสื้อเหลืองเสื้อแดง จับสนธิ จำลอง ประพันธ์ ไม่เว้นกระทั่งพิภพ ยะใส ใส่คุกรวมกับจตุพร ปิด ASTV ปิดเว็บไซต์ ปิดวิทยุชุมชน ฯลฯ แล้วประกาศว่าอีกปีค่อยเลือกตั้งใหม่ อย่างนั้นถึงจะสะใจคนชั้นกลาง ว่าจะได้สงบสุขเสียที แต่ต่อไปก็โวย เพราะมันจะกระทบการค้าการลงทุน ดัชนีตลาดหุ้น ราคาทองคำที่เก็งกำไรกันอยู่ทุกอย่าง

อย่างไรก็ดี ท้ายที่สุดผมก็ต้องจนปัญญาเมื่อเถียงกับพวกเชื่อรัฐประหาร เพราะเขาบอกว่าผมคิดแบบมีหลักการ แต่พวกที่ทำรัฐประหารมันคิดเหมือนเราที่ไหน ย้อนไปดูปี 49 ใครจะเชื่อว่ามันกล้าทำ ทั้งที่ใกล้เลือกตั้งอยู่แล้ว

เออ ถ้าพูดแบบนี้ผมก็เถียงไม่ออกเหมือนกัน ก็มีอย่างเดียวว่าขออวยพรให้รีบๆ ทำ กรูละเบื่อเต็มทีแล้ว จะได้แตกหักรู้แดงรู้น้ำเงินกันไปซะเลย

ถ้ารัฐประหารจริงก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ถ้าไม่มีรัฐประหารนี่สิ มีปัญหา ว่าลุงจำลองจะหาทางกลับบ้านไปอาบน้ำ 5 ขันได้ไง พันธมิตรจะมีชีวิตทางการเมืองต่อไปอย่างไร ในเมื่อด่าเขาไปทั่ว ทำลายแนวร่วมซะหมด (วันก่อน น้องนุ่งที่ไทยโพสต์เล่าให้ฟังว่า คนอ่านโทรมาด่าลูกชายสนธิ ลิ้ม สายแทบไหม้)

ผมฟังสนธิด่า ผู้ดีแล้วโคตรสะใจ ขออนุญาต quote

ผมมีความรู้สึกอบอุ่นกับพ่อแม่ พี่น้อง เพราะว่าพวกเรามันชนชั้นเดียวกัน พวกเรามันคนหาเช้ากินค่ำ พวกเรามันเป็นคนที่ยินด้วยลำแข้งตัวเอง พวกเราไม่มีเส้น ไม่มีวงศ์สกุลเก่าๆ ไม่ได้จบอีต้ม ไม่ได้จบออกซ์ฟอร์ด ไม่ได้จบบ้าบอคอแตก ไม่ได้เป็นลูกเจ้าพระยา ผมถึงบอกว่าวันนี้เป็นวันที่ผมกลับบ้านของผมจริงๆ เพราะว่าผมกลับมาหาพี่น้องที่แท้จริงครับ ผมเคยทบทวนตัวเองพี่น้อง ว่าทำไมเวลาเราสู้กับทักษิณนั้น มีคนเข้ามาร่วมเราเยอะแยะไปหมด พอเหตุการณ์ผ่านมาเรื่อยๆ ผมคิดอย่างนี้ของผมมานานแล้ว แต่ผมไม่พูด ไหนๆ ก็วันนี้แล้ว ถึงขั้นที่เรียกว่าเราไม่ต้องเผาผีกันแล้ว จะเล่าความในใจให้ฟัง ที่ต้องพูดเช่นนี้เพราะว่า ทักษิณนั้น เป็นอันตรายต่อสถานภาพของชนชั้นบางชนชั้นในสังคมไทย ด้วยเหตุนี้เขากลัวว่า ถ้าทักษิณใหญ่ขึ้นมาครองประเทศ ชนชั้นอภิสิทธิ์ต่างๆ ที่มีอภิสิทธิ์ ที่มีสกุลใหญ่ๆ ที่มีหม่อมหลวง หม่อมราชวงศ์ที่มีร่วมชุมนุมกับเรา จะโดนทักษิณทำลายไป แต่ความที่เป็นผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดิน ก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาสู้ทักษิณ พอมาเจอลูกเจ๊กบ้าคนหนึ่งขึ้นมา ขอโหนหน่อยๆ เข้าใจหรือยังพี่น้อง พี่น้องเริ่มเห็นภาพหรือยัง พอมีไอ้คนจบมาจากอีต้ม มาเป็นตัวแทน กระดูกกระเดี๊ยวอ่อนละทวยไปหมด โอ๊ย..เทพบุตรของฉัน เทพบุตรของฉัน เทพบุตรของฉัน ทำอะไรก็ไม่ผิด ทำอะไรก็ไม่ผิด ตดก็หอม ขี้ก็หอม

คือฟังแล้วขำนะครับ โดนพวกผู้ดีทิ้งขว้างเป็นนั่งร้าน โอดครวญน่าสงสาร แต่ตอน ไพร่ออกมาก็ด่าเขา

น่าสังเกตว่า รังสีอำมหิตระหว่าง ปชป.กับพธม.เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่อุ้มไชยวัฒน์-สมบูรณ์ ออกมาจากร้านสุกี้ แล้วก็มาจับการุณ ใสงาม ทั้งที่เพิ่งลงเครื่องกลับจากไปช่วยวีระ สมความคิด (เสียดายสารวัตรจ๊าบ นี่ถ้าน้องเขยยังอยู่ คงเปลี่ยนเป้ารถระเบิด)

ถึงแม้ปากหล่อๆ ของมาร์คยังจริตว่าพันธมิตรทำเพื่อผลประโยชน์ชาติ แต่ท่าทีทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า ปชป.ไม่ยอมให้หือ ซึ่งถ้ามองย้อนไปตั้งแต่แรก ตอนที่วีระโดนทหารเขมรจับ แล้วรัฐบาลรีบบอกว่าโดนจับในเขตเขมร ก็น่าจะเป็นเรื่องของไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ รัฐบาลรู้อยู่แล้วว่าพันธมิตรมี hidden agenda อย่างไร

สถานการณ์จากนี้ไปมองเห็นได้ชัดเจนว่า ถ้าไม่มีรัฐประหาร พันธมิตรก็มีแต่ย่อยกับยับ กลับบ้านไม่ถูก และมีแต่ถูก ปชป.บดขยี้ให้ไม่เหลือซาก

แต่ขณะเดียวกัน พันธมิตรก็มี พลังแฝงอยู่ไม่น้อย ที่จะใช้ตอบโต้ ซึ่งหลายเรื่องก็เป็นสิ่งดี อย่างเช่นที่ขู่จะแฉเรื่องการนำเข้าน้ำมันปาล์ม หรือที่คณะกรรมาธิการสอบทุจริต วุฒิสภา โดยรสนา โตสิตระกูล, คำนูณ สิทธิสมาน, ไพบูลย์ นิติตะวัน ออกมาระบุว่า รัฐบาลปัจจุบันกับอดีตโกงไม่ต่างกัน (สร้างเงื่อนไขดีมากเลยนะเนี่ย)

ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องน่าสนุก ที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะได้พันธมิตรเป็นแนวร่วมด้านกลับคือไม่มีทางร่วมกันได้แต่ช่วยทำลายพวก ผู้ดีตีนแดงกระหนาบข้างประชาชนชาวไพร่

ในสถานการณ์วันนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยไม่มีอะไรจะต้องกลัวรัฐประหาร ถ้าใครทำจริง ก็มีแต่พังกับพัง เพราะคนกรุงคนชั้นกลางไม่เอาด้วย ไม่เหมือนปี 49

ถ้ามีคนที่จะทำรัฐประหาร ก็ทำได้ในเงื่อนไขเดียว คือประกาศว่าเป็นกลางจริง ต้องการล้างความอยุติธรรมและความไม่เป็นประชาธิปไตยทั้งหมดที่เป็นผลสืบ เนื่องจากรัฐประหารปี 49 นิรโทษกรรม หรือล้างมลทิน เสมือนกลับไปตั้งต้นใหม่ เสนอแนวทางปฏิรูปอำนาจต่างๆ ให้มีสมดุลแห่งอำนาจ แล้วใช้เวลาเลือกตั้งเร็วที่สุดใน 3-6 เดือน

แต่นั่นเพ้อฝันครับ ไม่มีใครทำอย่างนั้นได้หรอก ไม่มีใครเป็นกลางได้จริง ไม่มีใครเป็นเทพเจ้าที่จะคิดอะไรทำอะไรได้สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะคนที่กุมกำลังอาวุธ ประชาธิปไตยไม่สามารถงอกจากการรัฐประหาร ประชาธิปไตยมีแต่ต้องเติบโตจากการตื่นตัวต่อสู้ของประชาชน

การเคลื่อนไหวของเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 ก.พ.จึงไม่ควรที่จะต้องสนใจเงื่อนไขว่า จะเกิดรัฐประหารหรือไม่ ไม่ควรเคลื่อนไหวเพราะอยากให้เกิดรัฐประหาร (จะได้แตกหักเร็วๆดี) หรือกลัวรัฐประหารจนไม่เคลื่อนไหว คือถ้าจะเคลื่อนไหวก็ควรเป็นเรื่องที่มีเหตุผล มีประโยชน์ รู้ประมาณ เป็นตัวของตัวเอง อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด

ที่ต้องพูดส่งท้ายก็เพราะกลัวพวกอยากเร่งไฟให้เกิดรัฐประหาร จะไปสร้างเงื่อนไข เหมือนช่วงพฤษภา 53 ที่หลายคนอยากยั่วยุให้มันเกิดเสียเร็วๆ แต่พอมันไม่เกิด ไม่มีรัฐประหาร แล้วเป็นไง ก็เสียหายเอง

คอยดูพันธมิตรเดินซ้ำรอยเป็นแมงเม่าหลังทำเนียบดีกว่าครับ ถ้าอยากช่วยก็เอาบันไดไปบริจาค แล้วถอยมาหาที่เหมาะๆ นั่งดู (เอ้า ลุย ปตท.เลย รสนา-ฮา)

ใบตองแห้ง
4 ก.พ.54

http://prachatai.com/journal/2011/02/32954

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น