โดย เรืองยศ จันทรคีรี
ผมชอบใจตัวละครใน ภาพยนตร์ไตรภาค เดอะแมทริกซ์ (The Matrix Reloaded)
ซึ่งเป็นภาคที่ 2 ของหนังดังฮือฮาเรื่องนี้ ซึ่งความจริงก็เป็นหนังเก่าผ่านมาตั้งร่วม 7 ปีเข้าไปแล้ว
แต่เห็นว่ามีสาระอะไรหลายอย่างที่น่าสนใจ ...
ตั้งแต่ คำถามเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของตัวตน? คำถามถึงความจริง?
การเข้าถึง สัจธรรมตลอดจนการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ ว่าไปแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้
ถือให้มีความลึกซึ้งในทางพุทธศาสนา ยังอาจกล่าวให้แมทริกซ์เทียบเคียงกับหลักสังสารวัฏ...
หมายถึงการที่เรา อาศัยอยู่ในโลกนี้ แต่เราก็คงรับรู้สิ่งต่างๆอย่างไม่ถูกต้อง เป็นจิตใจ
ซึ่ง หลงทางหรือหลงผิดของเราเอง ดังนั้น การถูกแมทริกซ์ปิดบังให้เกิดความมืดบอดจึงมิใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้...
ความ หลงผิดของมนุษย์นั้นโดยที่จริงแล้วช่างมีอยู่มากมายเหลือเกิน
เอา ตั้งแต่เรื่องง่ายๆสำหรับผู้ที่ไม่มีการศึกษา
หรือพวกคนป่าแถวแอฟริกาใน บางเผ่ายังอาจเข้าใจว่าพระอาทิตย์นั้นจะโผล่ขึ้นมาในเวลากลางวัน
เพราะ ถึงตอนกลางคืนมันก็ถูกดับ... ตัวอย่างนี้เป็นความเชื่อที่เชื่อเพราะสายตาของตัวเอง...
โลกมนุษย์จึง ถูกแมทริกซ์บดบังเอาไว้หลายอย่างทีเดียว มันมีสิ่งที่ลวงตาจนอธิบายไม่หมด...
ฉันใดก็ฉันนั้น สำหรับความจริงในสังคมไทยมันคล้ายกัน
เราคงไม่ยกเอาสัจธรรมหรือข้อธรรม ในศาสนามาเป็นแนวทางพิจารณา มันอาจจะสูงไป...
สังคมไทยในรอบ 5-6 ปี จึงเต็มด้วยแมทริกซ์
ที่ปิดบังทั้งความเข้าใจและสายตาของประชาชนเป็น จำนวนไม่น้อย เลย
ไม่แปลกที่คนไทยจะตีความ เข้าใจอะไรหลายอย่างไปชนิดผิดพลาดคลาดเคลื่อน...
มีตัวละครใน ภาพยนตร์ที่ควรกล่าวถึงอยู่หลายตัว เช่น
“มอร์เฟียส” หากใครติดตามเดอะแมทริกซ์ตั้งแต่ภาคแรกก็จะเห็นว่ามอร์เฟียสนั้นเป็นคนงมงาย ในคำทำนาย...
ผลสุดท้ายเขากลายเป็นคนที่มีศรัทธาอย่างมืดบอด โดยความมืดบอดดังกล่าวจึงเป็นความยึดมั่นถือมั่น...
ตัวละครตัวนี้ สะท้อนได้ถึงความเชื่อของคนเราทั่วไปซึ่งไม่เหมือนกัน
มีจำนวนไม่น้อย ที่จะเชื่อเฉพาะในสิ่งที่ตนเองเชื่ออยู่แล้ว
ในเดอะแมทริกซ์ “โอราเคิล” เป็นคนที่เก่งในการพยากรณ์ทำนายทายทัก...
หากจะเปรียบไป อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็คงเป็นโอราเคิลสำหรับมวลชนประชาธิปัตย์
ขณะที่สนธิ ลิ้มทองกุล ได้สูญเสียความเป็นโอราเคิลในกลุ่มคนเสื้อเหลืองมาปีกว่า
ยัง ไม่รู้จะปลุกอะไรขึ้นหรือเปล่า?
พ.ต.ท.
ตอนหลังมีเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยได้ก้าว ข้ามทักษิณไปแล้ว
แต่กลุ่มอำมาตย์และรัฐบาลยังไม่ค่อยจะเชื่อ จึงสั่งตามล่าไปทั่ว 187 ประเทศ
หวังเอาตัวมาลงโทษด้วยข้อหา “ก่อการร้าย”
เขียนมาตรงนี้ไม่ได้หมายมุ่งไปกระทบชิ่งใคร?
แต่ ชี้ให้เห็น “ความศรัทธาที่มืดบอด เชื่อในสิ่งที่อยากเชื่อ เชียร์ในสิ่งที่เชื่อ
ฟังเฉพาะคนที่ตัวเองรัก ใครรักทักษิณก็ฟังแต่ทักษิณ
รักอภิสิทธิ์ก็ฟังแต่อภิสิทธิ์ สังคมที่มีสภาวะของแมทริกซ์บดบังดูจะเป็นไปได้ยาก
ที่จะสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ขึ้นมาได้” ...
กระทั่งคนที่จะปรองดองก็ยังอาจไม่เชื่อในวิถี ทางนี้ เลยเข้าทำนองพูดปรองดองไปควบคู่กับการไล่ตามจับ
นอกจาก “มอร์เฟียสผู้เปี่ยมศรัทธาแต่เต็มล้นด้วยความมืดบอด”
สังคมไทยเรายัง จำเป็นต้องหยิบเอาตัวละครอย่าง “นีโอ” เข้ามาเปรียบเทียบ
หรือใช้เป็น สัญลักษณ์ กล่าวคือ นีโอนั้นถือเป็นผู้มีความเปี่ยมเมตตา
แต่กลับขาด “ปัญญา” เขาเป็นคนเชื่อในศักยภาพของตัวเอง
อาจบอกให้นีโอเป็นผู้หลงตัว ก็ได้ มีทิฐิมานะสูง คนพวกนี้มักไม่เชื่อผู้ใด?
จัดเป็นประเภท “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา หรือเห็นแล้วอาจยิ้มคิดว่าเป็นเตียงนอนได้”
นีโอ เห็นว่าตัวเอง “เป็นหนึ่งเดียว” มีศักยภาพที่จะช่วยเหลือคนทุกคนให้พ้นไปจากแมทริกซ์...
แต่ถึงที่สุด นั้นแม้เขาจะเปี่ยมไปด้วยเมตตากรุณา
แต่เมื่อขาดปัญญาไปเสียอย่างคงไม่ อาจนำพาสรรพสัตว์ไปพ้นจากบ่วงกรรมหรือวัฏสงสาร...
ตัวละครแบบนีโออาจมี อยู่มากมายในสังคมไทยขณะนี้ เปรียบเป็นผู้นำก็คือ
คนซึ่งมีความตั้งใจ รักประชาชน รักชาติบ้านเมือง มุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง
แต่เมื่อขาดปัญญา ขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์อำนาจบริหารประเทศชาติ ก็สามารถถึงกาลฉิบหายได้ไม่ยาก...
ใครเป็นนีโอที่ถือตัวตนเป็นหนึ่ง เดียว ผู้อ่านลองไปต่อยอดคิดดูเอาเอง?
ความจริงตัวละครยังมีมากมายใน ภาพยนตร์ “The Matrix Reloaded” แต่เขียนถึงได้ไม่กี่ตัว
เมื่อมองย้อน กลับมาในสังคมไทยเราที่มี “ซูเปอร์แมทริกซ์” คอยปิดบังอยู่มาตั้งนานนม
ตัว ละครอย่างมอร์เฟียสหรือนีโอ ทั้งหมดนี้เห็นจะไม่มีตัวละครใดที่ร้ายกาจไปมากกว่า
“เอเยนต์สมิธ” รายนี้เป็นมารที่คอยขัดขวางไม่ให้ “นีโอ” ได้ก้าวสู่การบรรลุสัจธรรม ...
เพราะ เมืองไทยเรามีคนแบบเอเยนต์สมิธมากมาย เป็นอย่างนี้มารถึงครองเมืองไงครับ?
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=39543
| |
| |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น