คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง คนในตำแหน่งเลขาธิการ สมช.
โดย กาหลิบ
หลัง จาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณว่าอาจจะโยกย้าย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ออกจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหา “ทางลง” ให้ในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ข่าวที่ตามมาไม่กี่วันก็คือ พล.ต.อ.วิเชียรฯ ตัดสินใจยอมรับตำแหน่งใหม่ “โดยสมัครใจ” และจะทำหนังสือมาแสดงเจตนานั้นอย่างเป็นทางการ
เลขาธิการ สมช. คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นสายพลเรือน คือนายถวิล เปลี่ยนศรี ก็คงจะถูกโยกไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีหรืออะไรอื่นๆ ที่ดูเหมือนว่า ร.ต.อ.เฉลิมฯ ก็ยังไม่แน่ใจนัก
วิธี บริหารแบบไทยๆ ที่เน้นการรักษาหน้า ซื้อใจ ปรับเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร อะไรทำนองนี้ก็คงมีคุณค่าในตัวเองให้ดูเป็นแบบอย่างและบทเรียนอยู่ โดยเฉพาะในยามที่มวลชนประชาธิปไตยยังคงงงๆ กับคำว่า “ปรองดอง” ใครสนใจในทักษะของการครองบ้านครองเมืองก็ศึกษาเรียนรู้เอาไว้ ดีหรือไม่ดีก็โปรดไปวินิจฉัยกันเอาเอง
สิ่งที่ต้องสนใจอย่างปล่อยผ่านไปไม่ได้คือตัวตำแหน่งเลขาธิการ สมช. และผู้ที่จะมาเป็น
สำนัก งานสภาความมั่นคงแห่งชาตินั้น มีความสำคัญมากหรือน้อย เป็นกลไกหลักของการได้มาซึ่งอำนาจและรักษาอำนาจนั้น ขึ้นกับตัวบุคคลที่มากินตำแหน่งเลขาธิการอยู่มาก ในยุคที่นาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริ หรือก่อนหน้านั้นคือ พล.อ.ต.สิทธิ เศวตศิลา (ได้ยศ พล.อ.อ. ในภายหลัง) เราต่างรู้กันดีว่าเป็นยุคเรืองอำนาจของ สมช. งบประมาณหน่วยงานและเครื่องมือต่างๆ เพิ่มพูนขึ้นมาก เพราะเป็นช่วงเวลาของการ “ยึดบ้านเมืองคืน” จากฝ่ายประชาชนภายหลังเหตุการณ์เลือด ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ มาจนกระทั่งเกือบสิ้นสมัยของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี
แต่ เมื่อถึงยุคของ นายขจัดภัย บุรุษพัฒน์ พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ นายถวิล เปลี่ยนศรี ฯลฯ เราต่างก็รู้สึกกันว่า สมช. ลดการพองตัวลงมาเป็นหน่วยงานของรัฐธรรมดาๆ งานความมั่นคงออกจะมุ่งไปที่กระบวนการหาข่าว เปรียบเทียบข่าว และส่งคนลงพื้นที่อย่างไม่มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงนัก
แต่ ยุคที่น่าสนใจคือ เมื่อพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากและเป็นรัฐบาล โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจในยุคนั้นเลือกเอา พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ข้ามห้วยมาเป็นเลขาธิการ สมช. พร้อมเอา พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย เป็นผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
พล.อ.วินัยฯ จะทำหน้าที่ดีเลวอย่างไรไม่ใช่ประเด็นตรงนี้ ประเด็นคือ พล.อ.วินัยฯ ที่ควรมีหน้าที่กระซิบบอกรัฐบาลและทำทุกอย่างเพื่อให้รัฐบาลและรัฐไทยมั่นคง ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นส่วนสำคัญในการรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของประชาชนและ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อทักษิณ
สำคัญขนาดเป็นตัวเลขาธิการคณะรัฐประหารเลยด้วยซ้ำ
สรุปให้ชัดเพื่อให้ภาพเป็นที่จดจำจารึกว่า “เขา” สั่ง ให้ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพยึดอำนาจ และให้เลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติทำหน้าที่ผู้ประสานใหญ่เพื่อ ร้อยทุกกำลังในการต่อต้านรัฐบาลของประชาชนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
เลขาธิการ สมช. ในยุค คปค./คมช. จึงเป็นกลไกหลักที่เขาใช้ในการทำลายฝ่ายประชาชนอย่างเราๆ
วันนี้ เรามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง โดยจะนานสักเท่าไหร่ยังไม่รู้เลยนั้น เราไม่ควรใส่ใจในตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช. กันเสียหน่อยหรือ?
ตำแหน่ง นี้ควรจะถูกยกขึ้นมาให้สำคัญนั้นถูกต้องแล้ว แต่ตัวบุคคลที่จะเลือกสรรมารับตำแหน่งนั้นจะต้องสอดคล้องต่อเงื่อนไขความ อยู่รอดของรัฐบาลที่อยู่ท่ามกลางคมหอกคมดาบนี้ด้วย พูดง่ายกว่านั้นก็คือเลขาธิการ สมช. ต้องเป็นคนของรัฐบาลฝ่ายประชาชนร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ใครที่ถูกโยกย้ายมาจากที่อื่นเพราะต้องการแก้ไขปัญหาในที่นั้น
เว้า กันซื่อๆ ก็คือ เราจะไว้ใจให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในยุคที่ประชาธิปัตย์ครองเมือง มารับผิดชอบงานต่อต้านการรัฐประหารทำลายรัฐบาลฝ่ายประชาชนหรือไม่?
ถ้า งานนี้เป็นเสมือนการสร้างอสุรกายตัวใหม่ขึ้นมาเตรียมทำลายรัฐบาลที่ประชาชน เลือกเข้ามา เหมือนที่ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เคยทำตัวอย่างให้ดูมาแล้ว โปรดบอกด้วยว่าใครจะรับผิดชอบ?
http://democracy100percent.blogspot.com/2011/09/blog-post_02.html?utm_source=feedburner&utm_medium=feed&utm_campaign=Feed:+Democracy100Percent+%28Democracy+100+percent%29&utm_content=FeedBurner
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น