Posted: Fri, 29 Oct 2010 06:38:00 +0000
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : ลูกน้องอันตราย
โดย : กาหลิบ
สังเกต อาการแสดงออกต่างๆ ของฝ่ายศักดินา-อำมาตย์ในระยะนี้แล้วก็ออกจะขำ คงจะลืมนัดกันว่าควรจะสื่อสารให้สอดคล้องต้องกันอย่างไร ถึงได้ออกมาคนละแควอย่างนี้
ก็เรื่องขบวนการเสื้อแดงกับข้อกล่าวหาเรื่องเจ้านี่ล่ะครับ
กอง ทัพบกใหม่ ในยุคที่นักเต้นรำได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก กำลังปั้นเรื่องอย่างเอาเป็นเอาตาย ว่าในโลกนี้มีขบวนการล้มเจ้าไทยจริง ทั้งตัวผู้บัญชาการและลูกหาบอย่างแม่ทัพภาคที่ ๓ ต่างพากันให้สัมภาษณ์อย่างดุเด็ดเผ็ดมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมความคือกองทัพบกยุคนี้จะไม่ทำอะไรอื่นกันแล้ว แต่จะไล่ล่าขบวนการนี้จนสิ้นซาก เพื่อถวายเจ้านายตน ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลยในมือ นอกจากข้อกล่าวหาในยุคแรกๆ โดยเครือข่ายผู้จัดการ/ASTV และพรรคประชาธิปัตย์ในยุคที่เป็นฝ่ายค้านเท่านั้น
แต่สื่อมวลชนฝ่าย อำมาตย์กลับหยิบเอากรณีมีข่าวว่า นาย
ถ้าอ่านทีละด้านอาจจะ เคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะและเชื่อว่าจริง แต่เมื่ออ่านสองด้านควบกันแล้วจะรู้เลยว่าเลอะเทอะกันไปหมด อ่านได้ชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตยนั่นแหละที่กำลังระส่ำ ไม่รู้จะเดินเกมกลต่อไปอย่างไร เพราะขบวนการประชาชนกำลังเข้มแข็งจนไม่อาจหยุดยั้งได้ โดยไม่เกี่ยวอะไรเลยกับพรรคเพื่อไทยและ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน
ความเข้มแข็งโดยธรรมชาติของฝ่ายประชาชน/มวลชนโดยไม่มีหน้าไหนเข้ามาช่วย กำลังทำให้ฝันเรื่องระบอบประชาชนใกล้ความจริงขึ้นมาทุกขณะ
สวน ทางกับระบอบเผด็จการโบราณที่ผุกร่อนจนไม่กล้าขยับรุนแรง เพราะเสื่อมถอยรวดเร็วชนิดไม่น่าเชื่อ จนไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะยังอยู่กันหรือไม่
บรรยากาศเช่นนี้ทำให้บรรดา ลูกกระเป๋งทั้งหลายต้องออกทำงานเพื่อรักษาเศษเนื้อข้างเขียงอันเป็นผล ประโยชน์ของตัวเองกันเต็มที่ แต่เพราะไม่ได้นัดหมายกัน ก็เลยสื่อสารขัดแย้งกลางอากาศจนผู้คนเขารู้เท่าทันและไม่เชื่อถือ
การเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในโลกมักเกิดในขณะที่ความน่าเชื่อถือของรัฐถดถอยลงหรือไม่มีเหลือเลย เหมือนเมืองไทยในขณะนี้
เมื่อ ไหร่เขาจะรู้กันสักทีว่า ผู้ที่มีฐานอำนาจขนาดมหึมาอย่างระบอบเผด็จการโบราณของไทยนั้น ไม่มีใครจะไปล้มล้างหรือโค่นทำลายเขาได้ถ้าตัวเขาเองไม่ทำลายตัวเองด้วยการ คิดผิดและทำผิดซ้ำๆ ซากๆ
ไม่รู้หรอกหรือว่า ไม่มีใครล้มเจ้าได้ยกเว้นเจ้าเอง
ถ้า สื่อสารเมามันมากๆ อย่างที่กองทัพยุคตื้นเขินไร้ปัญญากำลังทำอยู่นี้ ในที่สุดตัวเองก็จะเชื่อในคำโกหกของตัวเอง เหมือนที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์แห่งระบอบนาซีเยอรมันเคยเชื่อและฉิบหายมาแล้วเมื่อสงครามโลกครั้ง ที่ ๒ จนในที่สุดก็จะล่มสลายตามกันไป
กองทัพไทยในขณะนี้ ปรายตามองไปก็รู้ทันทีว่า เป็นเรื่องคนโง่ปกครองคนฉลาด ทำให้เกิดความอึดอัดขัดใจไปทั่วองค์กร
ความ โง่นี่เองที่จะสร้างความอัปยศต่อเนื่องให้กับคนในเครื่องแบบจนวันหนึ่งจะ เหมือนภาวะบ้านเมืองหลัง ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ และพฤษภาทมิฬ ๒๕๓๕ นั่นคือทหารไม่กล้าสวมเครื่องแบบเดินถนน
พูดกันให้มาก โฆษณาชวนเชื่อกันให้เยอะเถิดครับ คนไทยจะได้รู้เช่นเห็นชาติว่าคนที่พูดมีสันดานและเจตนาร้ายต่อชาติบ้าน เมืองอย่างไร ไอ้เรื่องที่เขาจะเชื่อในสารที่นำเสนอนั้น ต้องย้อนเวลาไทยกลับไปยุคสฤษดิ์ ธนะรัชต์จึงจะได้ผล ในยุคนี้สมัยนี้ประชาชนเขามีฐานข้อมูลดีกว่ากองทัพและรัฐบาลหลายเท่าตัว
สุดท้ายคนที่เป็นอันตรายต่อเจ้า คือตัวเจ้าเองบวกกับลูกน้องของเจ้าที่ชอบพูดเรื่องล้มเจ้านั่นแล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น