สนับสนุนการทำกิจกรรม ส่งเสริมประชาธิปไตยของชาวเชียงใหม่ ร่วมกับศูนย์ประสานงานกลาง นปช.แดงเชียงใหม่

ชื่อบัญชี นปช.แดงเชียงใหม่ ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 02 0012142 65 7 ( มีผู้รับผิดชอบบัญชี 3 ท่าน )

ติดต่อเรา deangchiangmai@gmail.com

ราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน บล็อค นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชนรุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้สร้างเวปบล็อคไว้ 2 ที่ คือที่นี่ “ แดงเจียงใหม่” สำหรับการบอกกล่าวในเรื่องทั่วไป และอีกที่หนึ่งคือ “ Daeng ChiangMai “ สำหรับข่าวสารที่เราเห็นว่ามีประโยชน์ต่อการรับรู้ข่าวสารในการร่วมทำกิจกรรมของพี่น้องประชาชน


เชิญร่วมสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกันครับ
“แดงเจียงใหม่” " Daeng ChiangMai "

รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน

การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ : สมุดปกขาวโดยสำนักกฎหมาย Amsterdam & Peroff การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ . ไพร่สู้บนเส้นทาง ๗๘ ปี ประชาธิปไตย ( ๒๔๗๕ - ๒๕๕๓ ) จรรยา ยิ้มประเสริฐ Voter's Uprising Thai

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

มูบารัคลาออก โดย กาหลิบ



คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง มูบารัคลาออก
โดย กาหลิบ
ขณะ ที่เขียนบทความอยู่นี้ ผู้ประท้วงอียิปต์เป็นแสนๆ กำลังโห่ร้องแสดงความยินดีสุดขีด เมื่อรู้ข่าวว่า ประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารัค ที่ครองอำนาจมานานกว่า ๓๐ ปี ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว
ผู้ ออกมาแถลงข่าวนี้ทางโทรทัศน์แห่งชาติของอียิปต์คือ รองประธานาธิบดี โอมาร์ สุไลมาน ผู้เป็นเป้าหมายหนึ่งของการประท้วงต่อต้าน โดยเฉพาะเมื่อเขากล่าวอย่างชัดเจนไปทั่วประเทศและทั่วโลกเมื่อไม่กี่วันนี้ ว่าอียิปต์และคนอียิปต์ยังไม่พร้อมต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถึงคำพูดสั้นๆ ว่า “ประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารัคได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของรัฐต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ ของอียิปต์” จะ เป็นเหตุให้คนอียิปต์ส่วนใหญ่รู้สึกลิงโลดใจ แต่ก็ยังไม่ชัดนักว่า รักษาการประธานาธิบดีอย่างนายสุไลมานจะอยู่ร่วมโลกกับขบวนประชาธิปไตย อียิปต์อย่างไรต่อไปเมื่อหัวใจและอุดมการณ์แตกต่างกันถึงเพียงนั้น
ใน ขณะที่เสียงยินดีดังกึกก้องไปทั้งจัตุรัสตาเฮียร์กลางกรุงไคโรและนครอเล็ก ซานเดีย เราควรลองพิจารณาโดยใช้สติว่าเกิดอะไรขึ้นแน่ในประเทศที่สำคัญในโลกอาหรับ ประเทศนี้
การลาออก “ต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ ของอียิปต์” นั้น เป็นวิธีสื่อสารที่ค่อนข้างชัดว่าผู้นำของอียิปต์คงมิได้ลาออกอย่างสมัครใจ หรือด้วยตนเอง แต่ถูกบังคับด้วยคนถืออาวุธที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของตนมากกว่า
มิหนำซ้ำยังเอ่ยถึงคำว่า “สภากลาโหม” ของประเทศในฐานะผู้ “ใช้อำนาจ” แทนเสียด้วย
ครับ มูบารัคคงจะถูกรัฐประหารเงียบเข้าให้แล้ว
วันนี้ คือวันศุกร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันนัดหมายประท้วงครั้งใหญ่ในอียิปต์ จุดประสงค์อันชัดเจนและเป็นสาธารณะคือการกดดันเรียกร้องให้ประธานาธิบดีมูบา รัคลาออกจากตำแหน่ง ขณะที่แม่ทัพนายกองของอียิปต์ก็รีบเข้าหารือกันว่าจะรับมือกับสถานการณ์ดัง กล่าวนี้อย่างไร
เวลา ผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง คำประกาศลาออกก็ปรากฏขึ้น ภาษาที่ใช้อธิบายอย่างสั้นๆ ก็สื่อความหมายว่าชนชั้นปกครองในอียิปต์ได้ตัดสินใจร่วมกันแล้วว่าจะไม่ ท้าทายประชาชนที่กำลังแสดงสิทธิ์ประท้วงอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงประชาธิปไตยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แนวโน้มเมื่อตอนเย็นชี้ว่าขบวนประท้วงอาจจะเคลื่อนเข้าสู่บริเวณที่ตั้งของ ทำเนียบประธานาธิบดีได้ ซึ่งหากเกิดปรากฎการณ์เช่นนั้น โอกาสที่จะเกิดการปะทะชนิดเสียเลือดเสียเนื้อคงจะมีมาก
สุด ท้ายก็ต้องถอดชนวนสถานการณ์ด้วยการบีบให้ประธานาธิบดีผู้เป็นนายพลเก่าและ เป็นรองประธานาธิบดีของอันวาร์ ซาดัตต้องลาออกไปทั้งที่เจ้าตัวไม่สมัครใจและประกาศแล้วว่าจะอยู่ต่อไป
คำถามคือ สิ่งที่ดีใจกันมากว่าเป็น “ชัยชนะ” ของ ประชาชนชาวอียิปต์ในขณะนี้ คือชัยชนะเหนือตัวบุคคลผู้มีอำนาจล้นพ้นอย่างมูบารัคเพียงคนเดียว หรือเป็นชัยชนะเหนือเหล่าผู้มีอำนาจในอียิปต์ที่ยังอยู่ในอำนาจกันอีกมากมาย กันแน่?
ตัว บุคคลอย่าง โอมาร์ สุไลมาน รักษาการประธานาธิบดี ที่ประชาชนกำลังโกรธแค้นกันมากในทัศนะว่าอียิปต์ควรเป็นเผด็จการต่อไปและไม่ พร้อมต่อระบอบประชาธิปไตย คณะผู้บัญชาการทหารที่ร่วมกันกดดันอย่างหนักจนอาจถึงขั้นเอาปืนจ่อหัวผู้ที่ เคยเป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐให้ลาออกหรือไม่ก็ไม่รู้นั้น คือมิตรหรือศัตรูของประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย?
ประชาชนชาวอียิปต์ได้รับ “ชัยชนะ” เปลาะนี้แล้ว ยังต้องเตรียมใจและเตรียมกายไว้รอสู้รบอีกรอบหนึ่งกับ โอมาร์ สุไลมาน และคณะทหารเหล่านี้หรือไม่?
เหล่า นี้ล้วนเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ เพราะเสียงเช่นนี้ย่อมจางหายไปกับเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของคนที่คิดว่า ตนเองได้รับชัยชนะแล้ว เช่นในอียิปต์ขณะนี้
เราควรร่วมยินดีกับเพื่อนชาวประชาธิปไตยอียิปต์ที่ออกแรงอย่างได้ผล สามารถเปลี่ยนตัวหัวของประเทศได้ด้วยความมุ่งมั่นและกล้าหาญของตน
การ ไล่ประธานาธิบดีเผด็จการออกจากตำแหน่งได้หนึ่งคนถือเป็นความก้าวหน้าอย่าง สำคัญที่มองข้ามมิได้ แต่การรุรังเผด็จการเหมือนล้มจอมปลวกลงทั้งอันนั้น ยังเป็นภารกิจต่อเนื่องที่หัวใจอันเปี่ยมไปด้วยความปีติในค่ำคืนนี้อาจยัง ไม่ได้คิดหรือไม่อยากจะคิด
อย่าง ไรก็ตาม เราต้องแสดงความยินดีจากหัวใจสู่พี่น้องของเราในอียิปต์ และในใจก็หวังอย่างเหลือเกินว่าชาวประชาธิปไตยไทยคงจะตามไปติดๆ ในไม่ช้า.
http://www.democracy100percent.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น