Mon, 2011-06-06 21:54
นักปรัชญาชายขอบ
ท้ายบทความชื่อ “จากใจอภิสิทธิ์ถึงคนไทยทั้งประเทศ” (เผยแพร่ครั้งแรกในเฟซบุ๊ก Abhisit Vejjajiva) คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สรุปว่า
“ถ้าผมจะมีความผิดก็คงมีแค่ประการเดียวคือ ผมเป็นนายกฯในระบบสภาคนแรกหลังปี 2550 ที่คุณทักษิณสั่งไม่ได้”
เจอบทสรุปแบบนี้ผม “โดน” เลย เออใช่ๆ!! นี่แหละคือ “ตัวตนที่แท้จริง” ของอภิสิทธิ์ เขาคือจอมแถ กะล่อน เบี่ยงเบนประเด็นด้านๆ ภายใต้มาดที่ดูใสซื่อ ดูเหมือนสุภาพบุรุษ มีหลักการอะไรทำนองนั้น
โปรดดูความใสซื่อของเขานะครับ เช่น คำพูดที่ว่า
“...ใครจะคุยกับทหารอย่างไรผมไม่ทราบ เพราะผมไม่เคยติดต่อกับทหารท่านใดเลย แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครบังคับ ส.ส.ได้…”
มีใครเชื่อไหมครับว่าอภิสิทธิ์รับเป็นนายกฯ โดยไม่ทราบจริงๆ ว่าสุเทพคุยกับทหารว่าอย่างไร เชื่อไหมครับว่าการประกาศ “ปกป้องสถาบัน” ของเนวินไม่มี “ทหารแก่ไม่เคยตาย” อยู่เบื้องหลัง และอานิสงส์แห่งการประกาศนั้นไม่ได้ส่งผลให้เขารอดจากคดีทุจริตกล้ายาง อาจไม่มีใครบังคับ ส.ส.ได้ใช่ไหมครับ แต่ถ้าจัดแบ่งผลประโยชน์ลงตัวสามฝ่าย “รัฐบาลอำมาตย์อุ้ม” ก็เกิดขึ้นได้ และเกิดขึ้นเห็นๆ เฮือกสุดท้ายแล้วยังดันทุรังโกหกตัวเองอยู่ทำไมไม่ทราบ!
หรือบางข้อความของอภิสิทธิ์ที่ว่า
“…คำพูดที่คุณเนวินฝากไปถึงคุณ ทักษิณที่ว่า "มันจบแล้วครับนาย" ด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้าคงจะยังเป็นบาดแผลในใจคุณเนวินมาจนถึงวันนี้ ไม่ว่าคนจะมองคุณเนวินในภาพอย่างไร แต่ในวันนั้นผมเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า คุณเนวินได้ตัดสินใจทางการเมืองเพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้”
คือ ขนาดว่าเขาโดนเนวินต่อรองขอกระทรวงเศรษฐกิจไปหมด เขาก็ยัง “เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจ” เป็นไปได้อย่างไรครับที่คนจบอ๊อกฟอร์ด เป็นนักการเมืองอาชีพมาอย่างยาวนานจะใสซื่อบริสุทธิ์ขนาดนั้น!
ทีนี้ลองดู “หลักการ” ของเขาบ้าง อภิสิทธิ์เขียนว่า
“...แต่เหตุการณ์บ้านเมืองก็ไม่ ปกติ โดยเริ่มต้นจากความขัดแย้งที่เกิดจากนายกฯสมัคร เปิดประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำให้เกิดกระแสต่อต้านรุนแรงจากประชาชนที่ไม่ต้องการให้นักการเมืองกลายเป็น อาชีพเดียวที่อยู่เหนือกฎหมายได้ เพราะสามารถใช้เสียงข้างมากในสภาออกกฎหมายล้างความผิดตัวเองได้ ในความผิด เช่น การทุจริต คอรัปชั่น ซึ่งถือเป็นวิธีการที่สั่นคลอนความมั่นคงของกระบวนการยุติธรรม และระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเป็นอย่างยิ่ง”
จริงๆ แล้วอภิสิทธิ์ก็รู้ว่าในประเทศนี้ “ใคร” อยู่เหนือกฎหมายได้จริงๆ ทหารทำรัฐประหารซึ่งมีโทษประหารชีวิต พวกเขาเคยรับผิดตามกฎหมายหรือไม่ หากอภิสิทธิ์ยอมรับว่า “รัฐประหารไม่ถูกต้อง” กระบวนการเอาผิดที่สืบเนื่องจากรัฐประหารย่อมไม่ชอบธรรมด้วย ฉะนั้น นักการเมืองที่ถูกทำรัฐประหารย่อมมีความชอบธรรมที่จะต่อสู้เพื่อคืนความ ยุติธรรมให้กับตนเอง
ที่สำคัญคือ การต่อสู้ของนักการเมืองก็ต่อสู้ตามวิถีทางประชาธิปไตย คือผ่าน “การเลือกตั้ง” และ “กระบวนการรัฐสภา” ทำไมกรณีที่ตัวเองเป็นนายกฯ อภิสิทธิ์จึงอ้างกระบวนการรัฐสภาซ้ำแล้วซ้ำเล่า (ทั้งที่เป็นที่รู้กันว่าโดยพฤตินัยไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร) การออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็ผ่านกระบวนการรัฐสภาเช่นกัน แต่อภิสิทธิ์กลับอ้างว่า “เป็นวิธีการที่สั่นคลอนความมั่นคงของกระบวนการยุติธรรม และระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเป็นอย่างยิ่ง”
แล้วกระบวนการ “สองมาตรฐาน” ที่สืบเนื่องจากรัฐประหาร การแต่งนิทานเด็กเลี้ยงแกะ “ผังล้มเจ้า” เพื่อล้อมปราบคนเสื้อแดง เป็นวิธีการรักษาความมั่นคงของกระบวนการยุติธรรม และระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างไรไม่ทราบ!
ถามจริงๆ เถอะครับ หากตอนนี้มีการใช้กองทัพยึดอำนาจอภิสิทธิ์ไป แล้วฝ่ายที่ยึดอำนาจนั้นก็เป็นโจทย์กล่าวหาว่า คุณเป็น “ฆาตกร 92 ศพ” ทำให้ประชาชนบาดเจ็บร่วม 2,000 คน แล้วก็ตั้ง “คตส.2” ขึ้นมาสอบสวนเอาผิดเอง ส่งฟ้องศาลได้เอง มีนักวิชาการ และสื่อจำนวนหนึ่งที่เกลียดคุณร่วมเป็นคณะกรรมการ “คตส.2” และเป็นพยานด้วย และศาลก็ตัดสินตามที่พวกเขาชงขึ้นมา อย่างนี้คุณอภิสิทธิ์โอเคไหมครับ เป็นการดำเนินการที่ปกป้องความมั่นคงของกระบวนการยุติธรรม และระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขไหมครับ?
คุณอภิสิทธิ์อย่าเถียงผมนะครับว่าเรื่องของคุณเป็นแค่เรื่องสมมติ เพราะ 92 ศพ กับบาดเจ็บร่วม 2,000 คน คือเรื่องจริง และเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีวันลบเลือนไปจากประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อ ประชาธิปไตยของประชาชนไทย (และไม่มีวันลบเลือนไปจาก “ความทรงจำ” ของคุณ เว้นเสียแต่ว่าคุณจะสูญเสีย “ความเป็นมนุษย์” จนหมดสิ้นแล้ว!)
อีกข้อความของอภิสิทธิ์ คือ
“ถ้าคิดในทางกลับกันผมไม่ยอมร่วม รัฐบาลกับคุณเนวินและพรรคอื่นๆ เพียงเพราะกลัวเปลืองตัว ปล่อยให้บ้านเมืองวุ่นวายเดินหน้าไม่ได้ ผมก็ลอยตัวไม่ต้องมาอยู่ในฐานะเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ชีวิตก็ไม่ต้องเสี่ยงจากความรุนแรงที่เริ่มปรากฏให้เห็นในการแข่งขันทางการ เมือง แต่ถ้าผมทำอย่างนั้นก็เท่ากับเป็นการปัดความรับผิดชอบในฐานะนักการเมืองที่ต้องแก้ปัญหาให้ประชาชน”
ถ้าคุณคิดว่า “การร่วมรัฐบาลกับเนวิน” เป็น “ความรับผิดชอบ” ที่ปฏิเสธไม่ได้ ของนักการเมือง “ผู้มีอุดมการณ์” ไม่เคยเปลี่ยนอย่างคุณ ถามว่าแล้ว 92 ศพ และบาดเจ็บร่วม 2,000 ที่เกิดจาก “ความผิดพลาด” (ไม่ได้ว่าคุณจงใจทำอย่างบ้าอำนาจนะ) ของการสลายการชุมนุมโดยรัฐบาลคุณ เป็นเรื่องที่นักการเมืองผู้มีอุดมการณ์ไม่ควรรับผิดชอบเลยเช่นนั้นหรือ?
ผมไม่เข้าใจจริงๆ ครับว่า “มาตรฐาน” ของ “ความรับผิดชอบ” ของนักการเมืองผู้มีอุดมการณ์อย่างคุณอภิสิทธิ์ มันคืออะไรกันแน่?
เท่าที่ผมพอจะเข้าใจได้ มีแต่ “ฆาตกร” เท่านั้น ที่มีพฤติกรรมปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการฆ่าเพื่อนมนุษย์อย่างเลือดเย็น!
http://www.prachatai3.info/journal/2011/06/35298
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น