สนับสนุนการทำกิจกรรม ส่งเสริมประชาธิปไตยของชาวเชียงใหม่ ร่วมกับศูนย์ประสานงานกลาง นปช.แดงเชียงใหม่

ชื่อบัญชี นปช.แดงเชียงใหม่ ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 02 0012142 65 7 ( มีผู้รับผิดชอบบัญชี 3 ท่าน )

ติดต่อเรา deangchiangmai@gmail.com

ราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน บล็อค นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชนรุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้สร้างเวปบล็อคไว้ 2 ที่ คือที่นี่ “ แดงเจียงใหม่” สำหรับการบอกกล่าวในเรื่องทั่วไป และอีกที่หนึ่งคือ “ Daeng ChiangMai “ สำหรับข่าวสารที่เราเห็นว่ามีประโยชน์ต่อการรับรู้ข่าวสารในการร่วมทำกิจกรรมของพี่น้องประชาชน


เชิญร่วมสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกันครับ
“แดงเจียงใหม่” " Daeng ChiangMai "

รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน

การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ : สมุดปกขาวโดยสำนักกฎหมาย Amsterdam & Peroff การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ . ไพร่สู้บนเส้นทาง ๗๘ ปี ประชาธิปไตย ( ๒๔๗๕ - ๒๕๕๓ ) จรรยา ยิ้มประเสริฐ Voter's Uprising Thai

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ : คนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย


ทั้ง หมดนี้คือการเตรียมพร้อมกองทัพนอกสภา เพื่อรับมือกับการรุกกลับของฝ่ายเผด็จการจารีตนิยมที่จะกระทำต่อรัฐบาลยิ่ง ลักษณ์อย่างแน่นอน


โดย รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
19 สิงหาคม 2554


1. เผด็จการมุ่งตอกลิ่มคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย

การที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี และสามารถจัดตั้งคณะรัฐบาลผสมได้สำเร็จ ถือเป็นชัยชนะทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งของฝ่ายประชาธิปไตย และเป็นการถดถอยที่เกินความคาดหมายของฝ่ายเผด็จการ

ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้นอกจากอาศัยพลังการนำที่ขาดเสียมิได้ของทักษิณ ชินวัตรและยิ่งลักษณ์ ชินวัตรแล้ว ที่สำคัญยังเป็นผลจากการทำงานอย่างหนักของคนเสื้อแดงหลายล้านคนทั่วประเทศ ที่เคลื่อนไหวรณรงค์สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอย่างทุ่มเทชีวิต

ฝ่ายเผด็จการตระหนักแล้วว่า แนวร่วมคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยคือปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้พรรคเพื่อไทยฆ่า ไม่ตาย ทำลายไม่หมด ตราบใดที่แนวร่วมนี้ยังคงอยู่และเข้มแข็ง ฝ่ายเผด็จการจะไม่มีวันได้ชัยชนะในเวทีการเลือกตั้งภายใต้เสื้อคลุมรัฐสภา

ฉะนั้น ยุทธศาสตร์ประการหนึ่งของฝ่ายเผด็จการในการทำลายขบวนประชาธิปไตยคือ ต้องทำลายแนวร่วมคนเสื้อแดง-พรรคเพื่อไทย

ในระหว่างการคัดสรรบุคคลเข้าสู่ฝ่ายบริหาร ได้มีความสับสนถึงบทบาทของขบวนคนเสื้อแดง แกนนำนปช. กับพรรคเพื่อไทย

เกิดการถกเถียงและความเข้าใจผิดในหมู่คนเสื้อแดงและแกนนำนปช.บางคนที่มีต่อ พรรคเพื่อไทย เปิดช่องให้ฝ่ายเผด็จการใช้สื่อมวลชนในมือและสายลับบนสื่อออนไลน์ ปล่อยข่าวลือ สร้างข่าวเท็จ ยุแหย่ตอกลิ่มเพื่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย

ในการนี้ คนเสื้อแดงต้องหนักแน่น มีสติ ยึดภาพรวมทั้งหมดของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเป็นที่ตั้ง มองทะลุภาพลวงตาของการเลือกตั้งและเสื้อคลุมรัฐสภา ให้เห็นถึงเนื้อในที่ยังเป็นระบอบเผด็จการปัจจุบัน มุ่งหน้าไปให้ถึงเป้าหมายประชาธิปไตยที่แท้จริงในขั้นสุดท้าย จะต้องไม่ตกเป็นเหยื่อการยุแหย่และสงครามจิตวิทยาของฝ่ายเผด็จการอย่างเด็ด ขาด

คนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยนั้นต้องการซึ่งกันและกัน ขาดจากกันมิได้ในการต่อสู้เพื่อไปบรรลุประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยที่ปราศจากคนเสื้อแดงจะแพ้เลือกตั้ง จะถูกกระบวนการตุลาการและอำนาจทหารทำลายได้โดยง่าย

ส่วนคนเสื้อแดงที่ปราศจากพรรคเพื่อไทยจะอ่อนแอ ไม่มีที่ยืนในการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น ไม่มีกำลังที่จะต่อกรกับเผด็จการในแนวรบรัฐสภาและสนามเลือกตั้ง ไม่มีอาวุธในมือใด ๆ ที่จะสกัดอำนาจในระบบของฝ่ายเผด็จการ

ความแตกแยกระหว่างคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยคือความพ่ายแพ้ของขบวนประชาธิปไตย

2. พรรคเพื่อไทย

พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญ 2550 ที่เป็นระบอบเผด็จการแฝงเร้นของพวกจารีตนิยม พรรคเพื่อไทยจึงถูกจำกัดขอบเขตและมัดมือมัดเท้าทั้งในด้านกิจกรรม การเคลื่อนไหวและตัวบุคคลด้วยโซ่ตรวนทางกฎหมายของพวกเผด็จการ

ถึงกระนั้น สนามรบการเลือกตั้งก็เป็นการต่อสู้ที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายประชาธิปไตยมีจุดแข็งและมีโอกาสชนะได้มากที่สุด

อีกทั้งเป็นสนามรบที่ฝ่ายเผด็จการจะต้องเผชิญอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่ช้าก็เร็ว เว้นแต่จะหันไปก่อรัฐประหารและปกครองด้วยเผด็จการที่เปิดเผยยาวนาน

ในแนวรบการเลือกตั้ง หน้าที่ของพรรคเพื่อไทยคือ ต้องชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงมากที่สุด จึงจะสามารถจัดตั้งคณะรัฐบาลได้

ในการนี้ พรรคเพื่อไทยต้องโน้มน้าวจูงใจคนจำนวนมากที่สุดให้หันมาลงคะแนนเสียง ในสภาวะปัจจุบัน คนเสื้อแดงยังไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ ลำพังแต่คะแนนเสียงของคนเสื้อแดงนั้นไม่พอที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการ เลือกตั้งได้ ยังต้องอาศัยคะแนนเสียงของประชาชนจำนวนมากที่มิใช่คนเสื้อแดงแต่มีจิตใจที่ เป็นธรรม หรือประชาชนทั่วไปที่เบื่อหน่ายความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลพรรคประ ชาธิปัตย์ และคาดหวังการแก้ปัญหาของประเทศจากพรรคเพื่อไทย

ฉะนั้น ในการหาเสียงเลือกตั้ง การออกแบบนโยบาย ไปจนถึงการจัดตั้งคณะรัฐบาลและการคัดสรรรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยจึงต้องคำนึงถึงคะแนนเสียงทั้งหมด มิใช่คะแนนเสียงของคนเสื้อแดงเท่านั้น และรัฐบาลที่จัดตั้งโดยพรรคเพื่อไทยต้องเป็น รัฐบาลของคนไทยทุกหมู่เหล่าที่มุ่งบริหารงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้งประเทศ

ภารกิจของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจึงเป็นการเดินนโยบายสองขาคือ

ด้านหนึ่ง ก็บริหารประเทศ แก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของประชาชนอย่างรีบด่วนและได้ผล เพื่อรักษาความเชื่อมั่นและเพิ่มความนิยมในหมู่ประชาชนส่วนข้างมาก ยึดกุมชัยชนะในสนามรบการเลือกตั้งไว้ให้มั่นเพื่อสู้กับฝ่ายเผด็จการในระยะ ยาวต่อไป

ในอีกด้านหนึ่ง ก็ต้องดำเนินการต่อสู้ทางประชาธิปไตย เสริมความเข้มแข็งให้กับขบวนคนเสื้อแดง เพื่อเป็นอาวุธในการรับมือและตอบโต้การรุกทำลายของฝ่ายเผด็จการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ในการนี้ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องดำเนินมาตรการรูปธรรมหลายประการ ได้แก่ การปลดปล่อยคนเสื้อแดงหลายร้อยคนที่ถูกคุมขังอยู่ทั่วประเทศ การชดเชยและเยียวยาแก่ประชาชนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์เมษายน -พฤษภาคม 2553 ดำเนินการสอบสวนเปิดเผยความจริงทั้งหมดที่เกี่ยวกับการสังหารหมู่ประชาชนใน ครั้งนั้น

นำเอาผู้สั่งการฆ่าประชาชนมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม และที่สำคัญคือ เริ่มต้นขั้นตอนการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ เพื่อขจัดเผด็จการ สร้างประชาธิปไตยที่ อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย

แต่ในการปฏิรูปรัฐธรรมนูญนั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมิอาจกระทำได้แต่ลำพัง แม้จะชนะเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่คะแนนเสียงในรัฐสภายังก้ำกึ่ง และรัฐบาลก็มีอำนาจแท้จริงที่จำกัด ต้องบริหารงานอยู่ในกรงเล็บของตุลาการและกองทัพที่ฝ่ายเผด็จการอาจใช้เพื่อ โค่นล้มรัฐบาลในโอกาสที่เหมาะสม

ขบวนคนเสื้อแดงต้องเรียกร้อง กดดัน และประสานหนุนช่วยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยให้ไปดำเนินการต่อสู้ทางประชาธิปไตย อย่างมีจังหวะก้าวและเด็ดเดี่ยว

3. คนเสื้อแดง แกนนำ นปช.

ในการคัดสรรตัวบุคคลมาเป็นรัฐมนตรีนั้น ไม่มีแกนนำนปช.ได้เข้าสู่ฝ่ายบริหารเลย ทำให้คนเสื้อแดงและแกนนำนปช.บางคนแสดงความไม่พอใจ ด้วยอ้างเหตุว่า การกีดกันคนเสื้อแดงจากฝ่ายบริหารแสดงว่า พรรคเพื่อไทยประนีประนอมและมีข้อตกลงลับกับเผด็จการหรือพรรคเพื่อไทยเห็นคนเสื้อแดงมีภาพพจน์เผาบ้านเผาเมือง จึงต้องกันออกไปเป็นต้น

แต่ทั้งหมดนี้ ก็เป็นผลจากการเข้าใจผิดของคนเสื้อแดงและแกนนำนปช.บางคนในสาระสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้
ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะกันแกนนำนปช.ออกไปจากฝ่ายบริหารด้วยเหตุผลใดก็ตาม

แต่เมื่อมองจากผลลัพธ์ทางยุทธศาสตร์ของภาพรวมทั้งหมดแล้ว ต้องถือว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

ประการแรก จุดประสงค์ของการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส.โดยแกนนำนปช.คือ ต้องการ สิทธิ์คุ้มครองทางสภาเพื่อรักษาสถานะการนำขบวนคนเสื้อแดงไว้ได้แม้ในยามคับขัน ดังเช่นที่ จตุพร พรหมพันธุ์ ได้แสดงให้เห็นมาแล้ว แต่การได้เป็น สส.แล้วเข้าไปสู่ตำแหน่งทางบริหารอีกนั้นเป็นการขัดต่อจุดประสงค์นี้โดยตรง เพราะแกนนำนปช.ที่มีตำแหน่งบริหารจะไม่อาจเป็นแกนนำนปช.ได้อีกต่อไป

ประการที่สอง การนำเอาแกนนำนปช.เข้าสู่ฝ่ายบริหารในขณะนี้เป็นการเปิดศึกข้อขัดแย้งที่เผชิญหน้าเร็วเกินไปและโดยไม่จำเป็น คือได้ใจคนเสื้อแดงบางกลุ่มที่ไม่มองภาพใหญ่ แต่เผชิญแรงต่อต้านทั้งจากสื่อมวลชน ชนชั้นกลางในเมืองและฝ่ายเผด็จการทันที

คณะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องการเวลาในการสร้างความเชื่อมั่นในหมู่ประชาชนและ สร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้กับตนเอง รวมทั้งต้องการเวลาให้คนเสื้อแดงได้ปรับขบวน เพื่อรับมือกับการรุกกลับของฝ่ายเผด็จการ

ประการที่สาม แนวรบนอกสภากับแนวรบในสภานั้น แยกจากกันแต่ก็เดินควบคู่ไปด้วยกัน ขบวน คนเสื้อแดงเป็นกองทัพนอกสภาที่เข้มแข็งและกว้างใหญ่ไพศาล เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรและของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สองแนวรบ สองกองทัพ มีหน้าที่ต่างกัน แต่ประสานกันไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกันคือ ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง

สำหรับคนเสื้อแดงแล้ว จุดมุ่งหมายของการได้ชัยชนะในการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จไม่ใช่ เพื่อให้แกนนำคนเสื้อแดงบางคนได้เป็นรัฐมนตรี แต่เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เป็นมิตรกับฝ่ายประชาธิปไตย เปิดช่องให้คนเสื้อแดงได้ปรับขบวน พัฒนาตนเอง ยกระดับความคิดและการจัดตั้ง เสริมความเข้มแข็งและมีความพร้อมยิ่งขึ้น เพื่อเผชิญกับการรุกกลับของฝ่ายเผด็จการที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนใน อนาคตอันใกล้

แม้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะมีอำนเจบริหารจำกัด แต่ก็เป็นเงื่อนไขเพียงพอที่ฝ่ายประชาธิปไตยจะได้อาศัยเป็นประโยชน์ ยิ่งฝ่ายประชาธิปไตยขยายตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น รวมตัวจัดตั้งเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ชัยชนะขั้นสุดท้ายของประชาธิปไตยก็ยิ่งใกล้เข้ามา

สิ่งที่ขบวนประชาธิปไตยต้องเร่งกระทำโดยเร็วคือ ขยายจำนวนคนที่รู้ความจริงให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขยายการจัดตั้งในระดับรากฐานให้กว้างขวาง เช่น หมู่บ้านเสื้อแดงในภาคอีสาน และ บ้านธงแดงในภาคเหนือ บนพื้นฐานของภาษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่นพื้นบ้าน ประสานกับกระบวนประชาธิปไตยระดับรากหญ้า ตลอดจนการรวมกลุ่มเสื้อแดงในภาคกลางและเมืองใหญ่ตามสภาพสังคมวัฒนธรรมแต่ละ ท้องที่

เร่งขยายผลสะเทือนของประชาธิปไตยไปในหมู่ทหาร ตำรวจและข้าราชการให้มากที่สุด ขยายเครือข่ายสังคมออนไลน์เชื่อมกับเครือข่ายบนดินให้ทั่วถึง จัดตั้งวิทยุชุมชนให้เพิ่มขึ้นครบทุกอำเภอและตำบลทั่วประเทศ จัดตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเพิ่มขึ้นอีกในประเทศเพื่อนบ้าน ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ภาษา และวัฒนธรรมทั่วประเทศ

ทั้งหมดนี้คือการเตรียมพร้อมกองทัพนอกสภา เพื่อรับมือกับการรุกกลับของฝ่ายเผด็จการจารีตนิยมที่จะกระทำต่อรัฐบาลยิ่ง ลักษณ์อย่างแน่นอน

บัดนี้ ฝ่ายเผด็จการได้ใช้สรรพาวุธที่มีอยู่จนหมดแล้ว พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องซ้ำรอยเดิมคือ การใช้อันธพาลการเมืองบนท้องถนน ใช้พรรคประชาธิปัตย์ก่อการภายในสภา ทำให้รัฐบาลไม่อาจบริหารงานได้ แล้วใช้ตุลาการในมือมาทำลายรัฐบาลยิ่งลักษณ์

และในที่สุด ถ้าล้มเหลว หนทางสุดท้ายก็คือ รัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอีกครั้ง

http://thaienews.blogspot.com/2011/08/blog-post_5575.html


สส สุนัย จุลพงศธร ความคืบหน้าการประกันตัวแดงวันนี้ที่ศาลอาญา กทม.

ขอแสดงความเสียใจกับ ญาติพี่น้องและเพื่อนของผู้ต้องหาเสื้อแดง โดยเฉพาะ คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ อ.สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์(แซ่ด่าน) ที่โดนข้อหา ม. 112 ร่วมทั้งแฟนคลับทั้งหลายที่กำลังรอฟังผลการวินิจฉัยจากศาลอาญาและศาลในต่าง จังหวัดอีกหลายแห่ง เช่น อุบลราชธานี ขอนแก่น มหาสารคาม และ นนทบุรี ในวันนี้ปรากฎว่าผู้ต้องหาทุกคนไม่ได้มีโอกาสออกมาสูดลมหายใจแห่งเสรีภาพได้ เลย

เฉพาะ ผมเองได้เดินทางไปที่ศาลอาญาแต่เช้าวันนี้ได้พบ ส.ส. หลายคนโดยการประสานงานของ ส.ส.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ ส.ส.จตุพร พรหมพันธุ์ ทุกคนได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ของ ส.ส. ประกันตัวผู้ต้องหา แบ่งกันไปแต่ละสำนวน สำหรับผมได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประกันตัว คุณสมยศ ส่วน อ.สุรชัย ดูจะหา ส.ส. ที่มีลำหักลำโค่นเก๋าลงนามให้ยากหน่อยแต่สุดท้ายก็ได้นามสกุลเก๋า "เทียนทอง" ชื่อ สุรชาติ เทียนทอง (ลูกป๋าเหนาะ) เป็นผู้ลงนามในคำขอประกันตัว โดยมีทนายความอีกหลายคนมาช่วยดำเนินการให้โดยไม่คิดค่าบริการ ก็ต้องขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

ผม ได้มีโอกาสอ่านคำร้องขอประกันของทนายความ เขาเสนอศาลมีเนื้อหาดีน่าฟัง โดยอ้างถึงสถานการณ์ทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้ง ที่เข้าสู่บรรยากาศ สมานฉันท์ ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และนายกฯได้นำพระราชดำรัส ในด้านความสามัคคีและปรองดองใส่เกล้าใส่กระหม่อมกำหนดเป็นนโยบาย แล้ว ส.ส.ก็นำนโยบายแห่งการปรองดองนี้มากราบเรียนต่อศาล ซึ่งก็ถือว่าเป็นบรรยากาศที่นุ่มนวลให้ความเคารพต่อสถาบันและศาลอย่างดี เยี่ยม แต่เมื่อผลออกมาเช่นนี้เราผู้เป็นพสกนิกรก็ต้องให้ความเคารพต่อคำวินิจฉัย ของศาลซึ่งเป็นตัวแทนสถาบันพระมหากษัตริย์

ผม เข้าใจถึงความคาดหวังของญาติสนิตมิตรสหายของผู้ต้องหาทุกท่าน ที่อยากจะเห็นทุกๆคนเดินออกจากคุกเพื่อมาต่อสู้คดี เช่นเดียวกับผู้ต้องหาเสื้อแดงที่ จ.อุดรธานี ที่ศาลอุดรฯให้ความเมตตา แต่ขอเรียนเพื่อให้เข้าใจร่วมกันว่าคำวินิจฉัยของศาลแต่ละศาลเป็นดุลยพินิจ และ เป็นอำนาจที่มิอาจแทรกแซงได้และเป็นหนึ่งในสามอำนาจอธิปไตย คือ อำนาจตุลาการ(มาจากพระมหากษัตย์) อำนาจนิติบัญญัติหรือสภาผู้แทน (เลือกมาจากประชาชน) อำนาจบริหารหรือรัฐบาล(เลือกมาจากประชาชน) นี้คือระบบการเมืองของไทยที่พี่น้องของเราต้องเข้าใจและเคารพ ทางออกของปัญหานี้มีสองทางคือ

1. ยื่นอุธรณ์คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นนี้ต่อศาลอุธรณ์ แล้วก็รอคำวินิจฉัยของศาลอุธรณ์

2. อดทนรอไปพลางก่อนจนกว่าจะมีเหตุการณ์ที่ดีที่จะกราบเรียนต่อศาลให้มี ดุลยพินิจที่จะปล่อยตัวผู้ต้องหาได้โดนยื่นคำร้องใหม่ต่อศาลเดิมนั้นๆ

ทั้ง หมดนี้เป็นข้อกฎหมายที่เราต้องเคารพและโต้แย้งอะไรมิได้ และขอความกรุณาอย่านำเอาคดีต่างๆเหล่านี้ไปเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ ของ พธม. เช่น ยึดสนามบิน และทำเนียบรัฐบาล เพราะมีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันและดุลยพินิจของศาลเป็นไปตามแต่ละคดี

จึง เรียนมาเพื่อจะโปรดทราบว่าผมและเพื่อนๆ ได้ทำหน้าที่ตามเงื่อนไขของกฎหมายอย่างเต็มที่แล้วและขอให้พี่น้องอดทนรอและ อยู่ในความสงบเพื่อรอโอกาสใหม่

เขียนโดย JJ_Sathon

http://www.go6tv.com/2011/08/blog-post_7731.html

คนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทย (ภาคพิสดาร)


โดย หรี่ฟุน
20 สิงหาคม 2554


จะเห็นว่า เซี่ยมก่ก มีเหล่าอำมาตย์เฒ่าเจ้าเล่ห์ และกองกำลังทหารมากมาย แต่หาเป็นประโยชน์กับการชิงชัยของ มวลชนคนเสื้อแดง ไม่!

จึงกล่าวกันว่า ชัยชนะนั้นสร้างขึ้นได้ กองทัพทหารและเหล่าขุนนางอำมาตย์เฒ่ามีกำลังมหาศาลก็จริง แต่เราสามารถทำให้กองทัพและอำมาตย์ต่อกรกับเราไม่ได้

ดังนั้นต้องวิเคราะห์ เพื่อทราบจุดอ่อนจุดแข็งของแผนการ ต้องเคลื่อนไหว เพื่อหยั่งรู้กฎเกณฑ์การเคลื่อนกำลังของอำมาตย์เฒ่าเจ้าเล่ห์ กองกำลังขุนทหาร นักรบรับจ้างนอกถนน และบรรดากลุ่มเกี๋ยวกุ๊ยที่ออกมาปลุกกระดม

ดังนั้น พลังมวลชนคนเสื้อแดง จึงต้องกำหนดตัว ยิ่งลักษณ์เพื่อทราบจุดเป็นจุดตาย และต้องสู้รบเพื่อหยั่งรู้จุดอ่อนจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย สุดยอดแห่งการกำหนดตัว ยิ่งลักษณ์ก็คือทำให้ (ฝ่ายเรา) ไร้ยิ่งลักษณ์เมื่อไร้ ยิ่งลักษณ์ยอดจารชนก็ไม่อาจสืบสภาพที่แท้จริงฝ่ายเราได้

ผู้มีสติปัญญาจึงไม่สามารถวางแผน (รบกับเรา) เพราะว่ากำหนด ยิ่งลักษณ์จึงอำนวยชัยแก่นักรบไพร่พล แต่นักรบไพร่พลหาดูออกไม่ คนทั้งหลายล้วนทราบยิ่งลักษณ์เหตุแห่งชัยของเรา แต่หารู้วิธีใช้ ยิ่งลักษณ์แห่งชัยของเราไม่ ก็เพราะเรารบชนะโดยเปลี่ยน ยิ่งลักษณ์พลิกแพลงไร้ขอบเขต ไม่ซ้ำ ยิ่งลักษณ์เดิม

ยิ่งลักษณ์แห่งมวลชนคนเสื้อแดงคล้ายน้ำ น้ำไหลโดยหลีกที่สูงลงสู่ที่ต่ำ มวลชนคนเสื้อแดงชนะโดยเลี่ยงจุดแข็งตีจุดอ่อน น้ำไหลตามสภาพการเปลี่ยนแปลงของมวลชนคนเสื้อแดง คือกองทัพแห่งเทพ ธาตุทั้งห้าไม่มีธาตุใดชนะเสมอ (ธาตุทั้งห้าจะให้กำเนิดและข่มซึ่งกันและกัน) สี่ฤดูหมุนเวียนเคลื่อนคลาด กลางวันมีสั้นมียาว พระจันทร์มีเต็มมีเว้า

ที่โบราณเรียกว่าผู้สันทัดการรบนั้น คือผู้ที่เอาชนะได้ง่าย ฉะนั้น ชัยชนะของผู้สันทัดการรบ จึงมิได้ชื่อว่ามีสติปัญญา มิมีความชอบในเชิงกล้าหาญ ฉะนั้น ชัยชนะของเขาจึงมีพึงกังขา เหตุที่มิพึงกังขา ก็เพราะปฏิบัติการของเขาจักต้องชนะ จึงชนะผู้ต้องพ่ายแพ้ ฉะนั้น ผู้สันทัดการรบจึงตั้งอยู่ในฐานะไม่แพ้ และไม่สูญเสียโอกาสทำให้ข้าศึกต้องแพ้

เหตุนี้ ฝ่ายชนะรู้ว่าชนะก่อนจึงออกรบ ฝ่ายแพ้รบก่อนแล้วจึงหวังว่าจะชนะ ฉะนั้น ผู้สันทัดการบัญชาทัพ จักจรรโลงไว้ซึ่งมรรคและกฎระเบียบ ฉะนั้น จึงสามารถกำหนดชัยชนะและพ่ายแพ้ได้ หลักแห่งการทำศึก มี หนึ่งคือวินิจฉัย สองคือคำนวณ สามคือปริมาณ สี่คือเปรียบเทียบ ห้าคือชัยชนะ

พื้นที่และความสูญเสียก่อให้เกิดการวินิจฉัย การวินิจฉัยก่อให้เกิดการคำนวณ การคำนวณก่อให้เกิดปริมาณ ปริมาณก่อให้เกิดการเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบก่อให้เกิดชัยชนะ นี่คือหัวใจการทำศึกของมวลชนคนเสื้อแดง

ฉะนั้น มวลชนคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยที่ชนะ จึงประดุจเอาหนึ่งอี้ไปเปรียบกับหนึ่งจู พรรคประชาธิปัตย์รวมทั้งเหล่าอำมาตย์เฒ่าและขุนทหารที่แพ้ จึงประดุจเอาหนึ่งจูไปเปรียบกับหนึ่งอี้ ไพร่พลของฝ่ายมวลชนคนเสื้อแดง จึงเสมือนปล่อยน้ำที่กักในลำธารสูงแปดพันเซียะ ให้ทะลักกระโจนลงมา นี้คือรูปลักษณ์ของการรบ


สรุปอย่าปล่อยน้ำให้มากไปทางเหนืออีสานขุมข่ายพลังแดงจะเดือดร้อน......

http://thaienews.blogspot.com/2011/08/blog-post_20.html