ผู้ ก่อการร้าย?-ทหารได้จับกุมมวลชนเสื้อแดงจำนวนมากหลังแกนนำประกาศ ยุติการชุมนุมและมอบตัว โดยสำนักข่าวต่างประเทศแพร่ภาพไปทั่วโลกว่า ผู้ถูกจับกุมประกอบไปด้วยทั้งผู้หญิงมือเปล่า พระภิกษุที่ถูกทหารกระชากจีวรออก ผู้ชาย และนำผ้าผูกตา นำเชือกมัดมือไพล่หลังพวกเขาแบบกระทำต่อเชลยศึก ซึ่งนักสิทธิมนุษยชนหวั่นวิตกว่ารัฐบาลเผด็จการอภิสิทธิ์จะปฏิบัติต่อคน เหล่านี้แบบที่ทหารสหรัฐฯกระทำต่อผู้ที่ถูกจับยัดข้อหาผู้ก่อการร้ายแล้วส่ง ไปคุกโหดในเกาะ"กวนตานาโม" เพื่อซัดทอดแกนนำนปช.
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
20 เมษายน 2553
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม กลุ่มสิทธิมนุษยชนศึกษา (Human Rights Education Group) และกลุ่มสันติประชาธรรม (The Network of Peace and Justice for Siam)ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอให้ปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุมตามมาตรฐานสากลว่าด้วยกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
ตามที่รัฐบาลได้เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ด้วยการใช้กำลังทหารและอาวุธสงครามเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตตามรายงานอย่างไม่เป็นทางการ ไม่น้อยกว่า 15 คน เป็นพลเรือนทั้งหมด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทำให้แกนนำกลุ่มนปช.ประกาศยุติการชุมนุม และยินยอมเข้ามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
นอกจากนั้นยังมี ผู้ถูกจับกุม โดยไม่ทราบจำนวนและสถานที่คุมขังอีกจำนวนหนึ่ง องค์กรและบุคคลท้ายจดหมายนี้ขอแสดงความเสียใจต่อญาติมิตรของผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนเจ้าของทรัพย์สินและอาคารที่เสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งนี้ เรามีความห่วงใยต่อผู้ถูกจับกุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุมในลักษณะที่อาจมีการละเมิด สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน...ตามที่ปรากฎในภาพที่แนบท้ายมานี้(เป็นภาพที่ สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ไปทั่วโลก)
จึง ขอเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังนี้
1. รัฐบาลต้องถือว่าผู้ถูกจับกุมทุกคน (ปรากฏตามภาพถ่ายท้ายแถลงการณ์) เป็น "ผู้มีความคิดเห็นทางการเมือง" แตกต่างจากรัฐ อันความหมายว่า เป็นนักโทษทางการเมือง และต้องได้รับความคุ้มครองตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและ สิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights) โดยเฉพาะมีสิทธิได้รับหลักประกันขั้นต่ำดังต่อไปนี้
ข้อ 4 การห้ามการซ้อม ทรมาน
ข้อ 9 อนุ ข้อ 2 ต้องได้รับแจ้งถึงเหตุผลในการจับกุม ในขณะถูกจับกุม และจะต้องได้รับแจ้งถึงข้อหาที่ถูกจับกุมโดยพลัน
ข้อ 9 อนุ ข้อ 3 มีสิทธิได้รับการพิจารณาคดีภายในเวลาอันสมควร หรือได้รับการปล่อยตัวไป มิให้ถือเป็นหลักทั่วไปว่าจะต้องควบคุมบุคคลที่รอการพิจารณาคดี
ข้อ 14 มีสิทธิมีทนายความ ที่ตนเลือกเอง หากไม่มี รัฐต้องจัดหาให้ ต้องได้รับการสันนิษฐานว่าไม่มีความผิด และมีสิทธิให้การหรือไม่ให้การด้วยความสมัครใจหรือไม่ให้การด้วยความสมัครใจ ต้องได้รับการพิจารณาคดีอย่างเปิดเผย รวดเร็ว โดยสื่อมวลชนสามารถเข้าสังเกตการณ์ได้
2. ขอให้รัฐบาลประกาศต่อสาธารณะว่าผู้ถูกจับกุม ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใด เพื่อ ให้ญาติและทนายความสามารถติดต่อได้ทันที เพื่อป้องกันข้อครหาว่า รัฐบาลซ้อมทรมานผู้ถูกจับ และหากผู้ถูกจับเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บต้องได้รับการรักษา พยาบาลอย่างเหมาะสม
ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2553
กลุ่มสิทธิ มนุษยชนศึกษา (Human Rights Education Group)
กลุ่มสันติประชาธรรม (The Network of Peace and Justice for Siam)
ติดต่อ:
กลุ่มสิทธิ มนุษยชนศึกษา (ศราวุฒิ ประทุมราช 085 9027161)
กลุ่มสันติประชาธรรม (เกษม เพ็ญภินันท์ 081 6319437)
Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 5/20/2010 10:24:00 หลังเที่ยง
จี้รบ.ไทย เลิกควบคุมตัวเหล่าผู้ประท้วงนปช.ในสถานที่ลับ-ค่ายทหาร ระบุละเมิดสิทธิมนุษยชน
ตอบลบสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ว่า นางอีลีน เพียร์ซัน รักษาการผู้อำนวยการหน่วยงาน"ฮิวแมน ไรซ์ วอช"ได้ออำแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเลิกการควบคุมตัวเหล่าแกนนำและผู้ประท้วงนปช.ในสถานที่ลับ เพราะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชน ภายหลังบุคคลเหล่านี้ถูกควบคุมตัวโดยกองกำลังความมั่นคง และพาไปยังสถานที่ไม่เปิดเผยโดยปราศจากการตั้งข้อหา โดยสถานที่สอบสวนลับ และเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่เปิดเผยชื่อ ถือเป็นสูตรสำหรับการละเมิดสิทธิมนุษยชน และว่า ผู้ประท้วงนปช.ควรถูกนำตัวขึ้นศาลและตั้งข้อหาคดีอาญา หรือไม่ก็ปล่อยตัว
ทั้งนี้ แถลงการณ์ได้แสดงความวิตกต่อรายงานกรณีรัฐบาลไทยใช้มาตรการฉุกเฉินที่มีอำนาจอย่างกว้างขวาง ซึ่งกำลังถูกใช้จับกุมผู้ประท้วงนปช.ในค่ายทหารแทนเรือนจำ และว่า ผู้ถูกจับกุมกำลังเสี่ยงจะเผชิญชะตาอันตรธานหายตัว ถูกทรมาน และการละเมิดทำร้ายอื่น ๆ มากขึ้น เมื่อพวกเขาถูกจับตัวจากทหารโดยไม่สามารถติดต่อกับผู้อื่นได้