ฮักประชาธิปไตย บ่อเอาเผด็จการ ต่อต้านก๋านรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญก่ำลังใจ๋และความสุข เปื่อป๋วงชน
ชื่อบัญชี นปช.แดงเชียงใหม่ ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 02 0012142 65 7 ( มีผู้รับผิดชอบบัญชี 3 ท่าน )
ติดต่อเรา deangchiangmai@gmail.com
กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน บล็อค นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชนรุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม เรา “ แดงเจียงใหม่ “ ได้สร้างเวปบล็อคไว้ 2 ที่ คือที่นี่ “ แดงเจียงใหม่” สำหรับการบอกกล่าวในเรื่องทั่วไป และอีกที่หนึ่งคือ “ Daeng ChiangMai “ สำหรับข่าวสารที่เราเห็นว่ามีประโยชน์ต่อการรับรู้ข่าวสารในการร่วมทำกิจกรรมของพี่น้องประชาชน
“แดงเจียงใหม่” " Daeng ChiangMai "
รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน
วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
อมตะวาจาของ ดร.ซุนยัดเซ็น ผู้นำในการโค่นล้มฮ่องเต้
ดูหนัง "5พยัคฆ์พิทักษ์ซุนยัดเซน"
http://www.youtube.com/watch?v=sDep8k9wnd0&feature=related
สถานการณ์เหมือนกับเราตอนนี้เป๊ะเลย
เหมือนตั้งกะ ทหารต้องทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะจงรักภักดีต่อฮ่องเต้ จะสละชีพเพื่อฮ่องเต้
รากหญ้าของเขาก็เหมือนคนเสื้อแดงของเรา ยอมอุทิศชีวิตเพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมกัน
เรียกร้องประชาธิปไตยเพื่อพัฒนาแผ่นดินจีน โดยแลกได้ทุกอย่างไม่มีข้อแม้
สุดท้าย ดร.ซุนยัีดเซน ได้พูดว่า "เมื่อสิบปีก่อน ผมกับชูจุนได้พูดกันถึงการปฏิวัติว่า
เราจะปฏิวัติเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของคน 400 ร้อยล้านคน
ไม่ให้ต้องอดหยากขาดแคลนอีกต่อไป
แต่เมื่อสิบปีผ่านไป ผมก็ได้เห็นบรรดาสหายเสียสละชีวิต และผมโดนเนรเทศแล้วได้กลับมา
คำว่าปฏิวัติก็ไม่ได้มีความหมายเดิมๆอีกต่อไป ถ้าถามผมว่า ปฏิวัีติคืออะำไร
ผมจะตอบว่า ชาติจะก้าวหน้า หากเราเสียสละ เส้นทางของอารยธรรมชะด้วยหยดเลือด
เรียกว่า การปฏิวัติ"
วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
บันทึกไว้เป็นข้อมูล "อีกคืบการต่อสู้ ของหญิงเสื้อแดง"
บันทึกไว้เป็นข้อมูล "อีกคืบการต่อสู้ ของหญิงเสื้อแดง"
................
ข้อมูลจาก http://www.thairath.co.th/content/pol/77761
ความกล้าของผศ.ดร.
ปากคำ : นักข่าวออสเตรเลียหลบภัยอยู่ในวัดปทุมวนาราม เขาเห็น..
Fri, 05/21/2010 - 02:08 | by ณ.ณ. | Vote to close topic
ปากคำ : นักข่าวออสเตรเลียหลบภัยอยู่ในวัดกลางกรุงเทพฯ
Thu, 2010-05-20 23:37
เมื่อคืนนี้ (19 พ.ค. 2553) สตีฟ ทิคเนอร์ ช่างภาพออสเตรเลีย ได้หลบภัยเข้าไปอยู่ในวัดที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางการปะทะกลางใจกลางเมือง ระหว่างผู้ชุมนุมกับทหารไปประมาณ
ทิคเนอร์ได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียน เมื่อคืน ท่ามกลางเสียงปืนและเสียงระเบิดว่า "คลื่นคนตายและผู้บาดเจ็บ" พยายามหาทางเข้าสู่วัด ที่เขาหลบภัยร่วมกับผู้ประท้วงเสื้อแดง และนักข่าวชาวอังกฤษ
ทิคเนอร์ยังบอกอีกว่า ส่วนมากที่เข้าหลบภัยเป็นผู้หญิง และยังมีนักข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามอีกคนถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณบั้นท้าย
เขายังบอกว่า "เสื้อแดงที่มาที่นี่โดยส่วนมากไม่ใช่สายฮาร์ดคอร์"
ทิคเนอร์เป็นนักข่าวจาก ‘นิวคาสเซิล’ ที่อยู่ทางค่อนไปทางเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้เดินทางไปกรุงเทพจากติมอร์ตะวันออกเมื่อวันอาทิตย์เพื่อทำข่าวการชุมนุม
เขาบอกว่าเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งโดนยิงจากทหารแค่ไม่กี่เมตรจากวัด
"ผมเห็นกระสุนพุ่งทะลุร่างคนนั้นออกมาจากหน้าอกและคนนั้นก็ล้มลง"
เมื่อเขาและพระพยายามจะเข้าไปช่วย พวกเขาก็ถูกยิงใส่ "พวกนั้นรู้ว่าผมเป็นนักข่าวต่างประเทศ จากกล้องของผม" เขากล่าว
"พวกเราเป็นห่วงว่าคนที่ถูกยิงที่นอนอยู่บนฟุตบาทจะตายจากการเสียเลือด เราจะทิ้งเขาไว้เฉยๆ ไม่ได้"
ทิคเนอร์กล่าวต่อไปว่า เขากับพระได้ช่วยผู้ชายคนนั้นเข้าไปในวัด แต่สุดท้ายก็ช่วยชีวิตไว้ไม่ได้
"อย่างน้อยมีคนตายแล้ว 6 คนในวัด" เขากล่าว
"คนถูกยิงเรื่อยๆ และเสียงระเบิดก็ดังไม่หยุด"
ทิคเนอร์ยังกล่าวว่า ความรู้สึกคนในวันนั้นเศร้ามาก ทุกคน "กระวนกระวาย กลัว และประสาทเสีย"
เขาเองก็กลัวว่าจะโดนยิงทันทีถ้าเขาออกไปพ้นบริเวณวัด
"มีทั้งรถถัง และพลซุ่มยิงอยู่ที่นั้น ทุกอย่างสับสนและบ้าคลั่งไปหมด"
กองทัพไทยได้ประกาศเมื่อคืนว่า สถานการณ์สามารถควบคุมไว้ได้แล้ว และปฏิบัติการทางทหารได้ยุติลง
แต่ทิคเนอร์บอกว่า เขาไม่แน่ใจว่าวันนี้จะหยุดยิง
เขาบอกว่า ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ประชาชนหลายกลุ่มจะไม่มี น้ำ และไฟฟ้าใช้ รวมถึงจะไม่มีอาหารกินด้วย
.........................
แปลจาก : http://www.theaustralian.com.au/news/world/australian-reporter-hides-out...
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : ประชาไท http://www.prachatai1.info/journal/2010/05/29652
เรื่องเล่าจากเหตุการณ์ในวัดปทุม ชีวิตมีค่าเท่าใบไม้ร่วง
เหตุการณ์ในวัดปทุมวนาราม
ประชาชนจากหน้าเวทีทะยอยเดินเข้าวัดประทุมตั้งแต่ช่วงแกนนำประกาศยุติการชุมนุม
เพื่อหวังพึ่งพิง เขตอภัยทาน ในการรักษาชีวิต
ข่าวทีวีรายงานว่ามีการหยุดยิงแล้ว แต่หลังจากนั้น
บรรดา ญาติ เพื่อน พ่อแม่ พี่น้องของคนที่มาร่วมชุมนุม
ต่างโพสว่า ประชาชนเข้าไปติดอยู่ในนั้นเยอะมากๆ ทหารไล่ยิงคนข้างนอกวัด เสียงปืนระเบิดมากมาย
เห็นคนถูกยิงตายเยอะมาก แต่ไม่สามารถจะออกไปบอกให้ใครมาช่วยได้
"ในระหว่างที่อยู่ในวัด ไม่มีข้าวกิน ประชาชนต่างหวาดกลัวกับเหตุการณ์ข้างนอก
มีคนถูกยิง ล้มลง ใครโผล่ออกไป ถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา"
"เห็นผู้หญิงคนนึงถูกยิงล้มลงแต่ไม่ตายทันที
พยายามคลานหลบก็โดนยิงซ้ำอีกสองนัด
จนเสียชีวิต"
"21.00 น. มีคนบอกว่า ทหารบอกให้คนในวัดออกมามอบตัว
ทหารจะเข้าไปเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัย (ใช้คำว่าเคลียร์พื้นที่ในวัด!!)
เจ้าอาวาสประกาศไปว่า ประชาชนที่อยู่ในนี้ปลอดภัยดีแล้ว ทหารไม่ต้องเป็นห่วง"
"มีคนตายเพิ่ม ทหารยิงตายข้างนอกบริเวณอาคาร หลังจากนั้นทหารก็มาลากศพไปทำลายหลักฐาน"
"มีการเอารถคอนเทรนเนอร์มาจอดล้อมข้างนอก"
ช่วงเช้า ทหารบอกให้ประชาชนภายในวัดออกมามอบตัวข้างนอก
แต่ไม่มีใครกล้าออกไป หากไม่มีคนกลาง ที่เชื่อถือได้
สภาพอันโหดร้าย พร้อมที่จะมีการสูญเสียในทุกนาที
สไนเปอร์ส่องจากรถไฟฟ้าตลอดเวลาในขณะที่มีกองกำลังทหารที่ได้ข่าวว่าไม่พูดไทย
หรือพูดไม่ได้อยู่ด้านนอก คอยยิงเข้ามา ในเขตอภัยทาน
เขตแห่งการละซึ่งความเบียดเบียนชีวิตซึงกันและกัน
เราจะอยู่กันอย่างไร ชีวิตประชาชนตกอยู่ในอันตราย
หรือชีวิตเรา มีค่าเท่าใบไม้ที่ร่วงลง ภายในวัดเท่านั้น
ภาพที่วัดปทุม ตอนช่วงเช้าหัวเลี้ยวหัวต่อ
มีการโกหกออกทีวี ว่ามีการยิงปืนเข้าใส่ทหารตำรวจจากในวัด
แต่ความจริงแล้วทหารยิงลงมาจากรถไฟฟ้า เข้ามาในวัด
นักสู้ธุลีดินคนสุดท้าย
เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ร่วมชุมนุม และประชาชน ที่ได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วย ล้มตาย
เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ ร่วมชุมนุม และประชาชน ที่ได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วย ล้มตาย
พี่ชายใจดีแจ้งมา
ว่ามีผู้ไปรับเงินช่วยเหลือมาแล้ว เจ็บป่วย นิดหน่อย ไอค้อกแค้กนอน รพ ก้อไปรับมาแล้ว 2 หมื่น
มี 3 ที่นะครับ
1 พรรคเพื่อไทย
สำนักงานใหญ่พรรค เพื่อไทย เลขที่ 626 ซอยจินดาถวิล ถนนพระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทร 02 653 4040
2 สำนักพระราชวัง
ที่อยู่ สำนักพระราชวัง
พระบรมมหาราชวัง ถนน หน้าพระลาน
พระนคร กรุงเทพฯ
โทรศัพท์: 02 623 5499, 02 623 5500
3 กระทรวงพัฒนาสังคม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ เลขที่ 1034 ถนนกรุงเกษม แขวงมหานาค เขตป้อมปราบ กรุงเทพมหานคร 10100
0 2659 6399
หรือที่ ...
ซึ่ง เป็นหน่วยงานของกระทรวงพัฒนาสังคม
ผู้ จะไปรับเงินช่วยเหลือ ขอให้มีหลักฐานดังนี้
1 ใบแจ้งความ
2 ใบรับรองแพทย์
3 สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน
4 สำหรับผู้ เสียชีวิต ทายาทโปรดนำใบมรณะบัตรไปด้วย พร้อมสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียน บ้านของต้วเอง หรือหลักฐานที่แสดงความเป็นทายาท
โปรด ช่วยกันกระจายข่าวไปยังทุกๆ เว็บนะครับ
ขอบพระคุณ
นัก สิทธิมนุษยชนถามหาคุกกวนตานาโมเมืองไทย? หวั่นมั่วซ้อม-ขังลืมยัดข้อหาก่อการร้ายม็อบเสื้อแดง
ผู้ ก่อการร้าย?-ทหารได้จับกุมมวลชนเสื้อแดงจำนวนมากหลังแกนนำประกาศ ยุติการชุมนุมและมอบตัว โดยสำนักข่าวต่างประเทศแพร่ภาพไปทั่วโลกว่า ผู้ถูกจับกุมประกอบไปด้วยทั้งผู้หญิงมือเปล่า พระภิกษุที่ถูกทหารกระชากจีวรออก ผู้ชาย และนำผ้าผูกตา นำเชือกมัดมือไพล่หลังพวกเขาแบบกระทำต่อเชลยศึก ซึ่งนักสิทธิมนุษยชนหวั่นวิตกว่ารัฐบาลเผด็จการอภิสิทธิ์จะปฏิบัติต่อคน เหล่านี้แบบที่ทหารสหรัฐฯกระทำต่อผู้ที่ถูกจับยัดข้อหาผู้ก่อการร้ายแล้วส่ง ไปคุกโหดในเกาะ"กวนตานาโม" เพื่อซัดทอดแกนนำนปช.
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
20 เมษายน 2553
เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม กลุ่มสิทธิมนุษยชนศึกษา (Human Rights Education Group) และกลุ่มสันติประชาธรรม (The Network of Peace and Justice for Siam)ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอให้ปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุมตามมาตรฐานสากลว่าด้วยกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
ตามที่รัฐบาลได้เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ด้วยการใช้กำลังทหารและอาวุธสงครามเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตตามรายงานอย่างไม่เป็นทางการ ไม่น้อยกว่า 15 คน เป็นพลเรือนทั้งหมด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทำให้แกนนำกลุ่มนปช.ประกาศยุติการชุมนุม และยินยอมเข้ามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
นอกจากนั้นยังมี ผู้ถูกจับกุม โดยไม่ทราบจำนวนและสถานที่คุมขังอีกจำนวนหนึ่ง องค์กรและบุคคลท้ายจดหมายนี้ขอแสดงความเสียใจต่อญาติมิตรของผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนเจ้าของทรัพย์สินและอาคารที่เสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งนี้ เรามีความห่วงใยต่อผู้ถูกจับกุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติต่อผู้ถูกจับกุมในลักษณะที่อาจมีการละเมิด สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน...ตามที่ปรากฎในภาพที่แนบท้ายมานี้(เป็นภาพที่ สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ไปทั่วโลก)
จึง ขอเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังนี้
1. รัฐบาลต้องถือว่าผู้ถูกจับกุมทุกคน (ปรากฏตามภาพถ่ายท้ายแถลงการณ์) เป็น "ผู้มีความคิดเห็นทางการเมือง" แตกต่างจากรัฐ อันความหมายว่า เป็นนักโทษทางการเมือง และต้องได้รับความคุ้มครองตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและ สิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights) โดยเฉพาะมีสิทธิได้รับหลักประกันขั้นต่ำดังต่อไปนี้
ข้อ 4 การห้ามการซ้อม ทรมาน
ข้อ 9 อนุ ข้อ 2 ต้องได้รับแจ้งถึงเหตุผลในการจับกุม ในขณะถูกจับกุม และจะต้องได้รับแจ้งถึงข้อหาที่ถูกจับกุมโดยพลัน
ข้อ 9 อนุ ข้อ 3 มีสิทธิได้รับการพิจารณาคดีภายในเวลาอันสมควร หรือได้รับการปล่อยตัวไป มิให้ถือเป็นหลักทั่วไปว่าจะต้องควบคุมบุคคลที่รอการพิจารณาคดี
ข้อ 14 มีสิทธิมีทนายความ ที่ตนเลือกเอง หากไม่มี รัฐต้องจัดหาให้ ต้องได้รับการสันนิษฐานว่าไม่มีความผิด และมีสิทธิให้การหรือไม่ให้การด้วยความสมัครใจหรือไม่ให้การด้วยความสมัครใจ ต้องได้รับการพิจารณาคดีอย่างเปิดเผย รวดเร็ว โดยสื่อมวลชนสามารถเข้าสังเกตการณ์ได้
2. ขอให้รัฐบาลประกาศต่อสาธารณะว่าผู้ถูกจับกุม ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใด เพื่อ ให้ญาติและทนายความสามารถติดต่อได้ทันที เพื่อป้องกันข้อครหาว่า รัฐบาลซ้อมทรมานผู้ถูกจับ และหากผู้ถูกจับเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บต้องได้รับการรักษา พยาบาลอย่างเหมาะสม
ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2553
กลุ่มสิทธิ มนุษยชนศึกษา (Human Rights Education Group)
กลุ่มสันติประชาธรรม (The Network of Peace and Justice for Siam)
ติดต่อ:
กลุ่มสิทธิ มนุษยชนศึกษา (ศราวุฒิ ประทุมราช 085 9027161)
กลุ่มสันติประชาธรรม (เกษม เพ็ญภินันท์ 081 6319437)
Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 5/20/2010 10:24:00 หลังเที่ยง
เบล เยี่ยม ประกาศ ระงับการส่งอาวุธมาไทยแล้ว
Fri, 05/21/2010 - 10:32 | by ฝาโรง | Vote to close topic
20 พฤษภาคม 2553 23.00 ข่าวจากประเทศเบลเยี่ยมแจ้งว่ารัฐบาลประเทศเบลเยี่ยมสั่งให้ บริษัท ส่งออกอาวุธหยุดส่งอาวุธให้ไทยโดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาทางการเมือง Demotte Rudy ประธานแคว้น Wallon สั่งระงับการส่งออกอาวุธจากแคว้น Wallon ไป ยังราชอาณาจักรไทยหลังจากเฝ้าสังเกตการณ์วิกฤตการเมืองนี้มาตลอดในที่สุดเขา ก็ตัดสินใจเมื่อช่วงวันหยุดยาวเสด็จขึ้นสู่สวรรค์เทศกาลทั้งนี้จำนวนใบ อนุญาต บริษัท หรือสัญญา
คำฯหลวงพ่อฤาษี
คำฯหลวงพ่อฤาษี
คำทำนายที่เคย มีช้านาน นัก
เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย
เมื่อ ถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง
น้ำมัน ผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา
เป็นประชาจนเต็มพระ นคร
ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน
ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุก สิงขร
ออก พระนามลือชื่อดั่งทินกร
องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
ชาวประชาจะ ปิติยิ้มสดใส
แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน
เพื่อ ให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา
จะมีการต่อตีกันกลางเมือง
ขุนนางเขื่อง กังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา
ประดุจปลวกกินฝา นั้นปะไร
ข้าราชการตงฉินถูกประนาม
สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิด วิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป
โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
ประชาชีจะ สับสนเรื่องดีชั่ว
ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำ ความดี
เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ
มิตร เคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน
พายุลั่น น้ำถล่มดินทลาย
แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์ เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย
เลือดเป็นสายน้ำตานองสอง แผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช
ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้ง พฤฒาอาจารย์ลือระบิล
จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
ความระทมจะถม ทับนับเทวศ
ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม
ส่วน คนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกราก วหวาดเสียวใจ
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะ ยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คน ชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น
แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติ ผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ