Progressive Rock แบบ Concept Album
ธเนศ วรากุลนุเคราะห์
อัลบั้ม
คนเขียนเพลง บรรเลงชีวิต (2530)
ถือว่าเป็นงานที่มีภาคดนตรีและเสียงประกอบจากซินธิไซเซอร์ที่ล้ำสมัย
แม้ทุกวันนี้อัลบั้มชุดนี้จะผ่านมา 20
ปีแล้วก็ตามแต่ก็ยังฟังแล้วซาวนด์ไม่ล้าสมัยเลย
แถมยังดูดีกว่าเพลงในปัจจุบันที่มีการใช้ซินธิไซเซอร์กันอย่างมากจนดูรกไปหมด
จึงเทียบไม่ได้กับงานชุดที่ 2
ของอีกหนึ่งเจ้าพ่อโปรเกรสซีฟแห่งเมืองไทยคนนี้เลย
นักวิจารณ์หลายคนให้ทัศนะว่า ธเนศ ทำเพลงชุดนี้เร็วเกินไปถึง 10 ปี
เพราะใน ปี
พ.ศ. 2530 นั้น
เส้นทางสายดนตรียังไม่เปิดใจรับกับแนวเพลงแปลก ๆ ใหม่ ๆ
หากทำหลังจากนี้ซัก 10 ปี คงได้รับความนิยมในตลาดเพลงบ้านเรา
เช่นเดียวกับ
ชุด "แดนศิวิไลท์" อัลบัมชุดแรก ของ ธเนศ
ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในขณะนั้น
แต่ถึงอย่างไร อัลบัม คนเขียนเพลง บรรเลงชีวิต
ก็ก้าวเข้าสู่หนึ่งในอัลบัมที่ต้องฟังตลอดกาล ของวงการเพลงไทย
ว่าแล้วก็ เชิญสดับ
www.youtube.com/watch?v=nYBTv5OOQYo
คนเขียนเพลง บรรเลงชีวิต
ชีวิต......เราลิขิตมันได้ ใครบางคนเคยบอกเอาไว้
ใช่....ผมก็เคยเชื่ออย่างนั้น
แต่ตราบใดที่เรายังต้องอยู่ร่วมกัน
บางครั้ง...มันไม่ใช่
บางครั้ง...เหมือนไม่มีใคร
บางครั้ง...เหมือนทุกอย่างได้ถูกลิขิต...ถูกเขียนไว้
จากดินแดนอันแสนไกล
นานแสนนาน นับหมื่นนับล้านปี...A wonderful world the Promised land,
If only people would understand.
PHENOMENA / THANETH
ใช่....ผมก็เคยเชื่ออย่างนั้น
แต่ตราบใดที่เรายังต้องอยู่ร่วมกัน
บางครั้ง...มันไม่ใช่
บางครั้ง...เหมือนไม่มีใคร
บางครั้ง...เหมือนทุกอย่างได้ถูกลิขิต...ถูกเขียนไว้
จากดินแดนอันแสนไกล
นานแสนนาน นับหมื่นนับล้านปี...A wonderful world the Promised land,
If only people would understand.
PHENOMENA / THANETH
คนเขียนเพลง...บรรเลงชีวิต / ธเนศ วรากุลนุเคราะห์
บทเริ่มต้น...
(คนเขียนเพลง....บรรเลงชีวิต I)
โอ้วันและคืนฉันยืนมอง
ดวงตานั้นจ้องฉันมองไป
ผ่านตาสองพาคิดเรื่องราว
โอ้เขาพูดกัน...ฉันบ้าไป
เอาอีก อยากจะเอาอีก
เอาอีกอยากจะเอาอีก
เอาอีกอยากจะเอาอีก...เอาอีก...เอาอีก..
ดูก่อน...อย่ามัวนอนหลับใหลในนิทรา
ลืมตามองมามองมาจะเข้าใจ
ลืมตามองมามองมาจะเข้าใจ
ดูก่อน...ก่อนจะวอนร้องขอขอสิ่งใด
มองใจ มองไป..มองไป ให้รอบกาย
มองใจ มองไป..มองไป ให้รอบกาย
โอ้ ดูก่อน...อย่าร้อนรุมสุมใจ
ใฝ่มากไปในใจเรา
มีล้นกายใช่คลายเศร้า
ไม่ใช่สิ่งซึ่งบรรเทา
ใฝ่มากไปในใจเรา
มีล้นกายใช่คลายเศร้า
ไม่ใช่สิ่งซึ่งบรรเทา
เอาอีกอยากจะเอาอีก
เอาอีกอยากจะเอาอีก...เอาอีก...เอาอีก
เอาอีกอยากจะเอาอีก...เอาอีก...เอาอีก
ดูก่อน...ผู้ที่วอนร้องขอขอเรื่อยไป
มองใจ มองใครใคร..มองไปให้รอบกาย
มองใจ มองใครใคร..มองไปให้รอบกาย
ดูก่อน...สิ่งที่วอนนี่น่ะคือความหมาย
มองใจ มองไปมองไป ให้รอบกาย
มองใจ มองไปมองไป ให้รอบกาย
โอ้ ดูก่อน...การร้อนรุม สุมใจ
มีแต่ทุกข์มาให้เรา
จงน้อมนำธรรมที่กล่าว
จะดับความเศร้าในจิตใจ...
มีแต่ทุกข์มาให้เรา
จงน้อมนำธรรมที่กล่าว
จะดับความเศร้าในจิตใจ...
...ใจนั้นไม่พอเพราะเราขอกันเกินไป
...จึงเกิดทุกข์รุกเร้าใจ
...มีเท่าไหร่ก็ไม่บรรเทา..
...จึงเกิดทุกข์รุกเร้าใจ
...มีเท่าไหร่ก็ไม่บรรเทา..
เอาอีกอยากจะเอาอีก
เอาอีกอยากจะเอาอีก...เอาอีก...เอาอีก..
(จิต) ... จากใจ
เจอะกันอีกครั้ง วันที่โลกยังคงหมุนไป
เธอยังน่ารัก เราได้ทายทัก ยังมีน้ำใจ
ประกายสายตา มองดูรู้ว่า เวลาไม่ได้พาเธอไป...
...
เรายังเข้าใจ...สดใสร่วมกัน
เอาอีกอยากจะเอาอีก...เอาอีก...เอาอีก..
(จิต) ... จากใจ
เจอะกันอีกครั้ง วันที่โลกยังคงหมุนไป
เธอยังน่ารัก เราได้ทายทัก ยังมีน้ำใจ
ประกายสายตา มองดูรู้ว่า เวลาไม่ได้พาเธอไป...
...
เรายังเข้าใจ...สดใสร่วมกัน
โอ้วันเวลา...ไม่อาจพาเราไป
อันกลางใจในตัวเรา มีทางไกลพาไปให้ใจนั้นคลายเศร้า
โอ้เราวางใจไว้ในเรา ไม่มัวเมาเพลินไปให้ใจนั้นไกลห่าง
หนทาง...นั้นเราสร้างไป..
(ไม่เคยจะจางร้างไกล)
มั่นใจ...จะสดใสสวยงาม...ยามจากกัน...
(มุ่งไปดั่งธารน้ำไหล)
อันกลางใจในตัวเรา มีทางไกลพาไปให้ใจนั้นคลายเศร้า
โอ้เราวางใจไว้ในเรา ไม่มัวเมาเพลินไปให้ใจนั้นไกลห่าง
หนทาง...นั้นเราสร้างไป..
(ไม่เคยจะจางร้างไกล)
มั่นใจ...จะสดใสสวยงาม...ยามจากกัน...
(มุ่งไปดั่งธารน้ำไหล)
ดวงใจเรานั้น...ฝัน...ใฝ่ฝัน
จะอยู่แห่งไหนดวงใจจะฝันถึงกันทุกครา
จะอยู่แห่งไหนดวงใจจะฝันถึงกันทุกครา
ดวงใจเรานั้น...ฝัน...ใฝ่ฝัน
สุดกาลเวลาก็ปรารถนาจะมาชิดใกล้
สุดกาลเวลาก็ปรารถนาจะมาชิดใกล้
ดวงใจเรานั้น...ฝัน...ใฝ่ฝัน
จะไกลเพียงไหนดวงใจจะฝันถึงกันทุกครา
จะไกลเพียงไหนดวงใจจะฝันถึงกันทุกครา
ดวงใจเรานั้น...ฝัน...ใฝ่ฝัน
เราปรารถนาจะมาเจอะกันในวันแสนใกล้
กับความฝันที่มี
ยาม...ยามเมื่อเรารักกัน
โอ้ใจ..ผูกเป็นสายสัมพันธ์
จะพาสู่ความฝัน...อันตระการ
เราปรารถนาจะมาเจอะกันในวันแสนใกล้
กับความฝันที่มี
ยาม...ยามเมื่อเรารักกัน
โอ้ใจ..ผูกเป็นสายสัมพันธ์
จะพาสู่ความฝัน...อันตระการ
นาน...หากความรักยืนนาน
สิ่งใดไม่อาจมาต้านทาน
จะผ่านเลยสิ่งนั้นเพียงไม่นาน
สิ่งใดไม่อาจมาต้านทาน
จะผ่านเลยสิ่งนั้นเพียงไม่นาน
รักเพียงเท่านั้นที่จะสรรค์สร้างให้ฝัน...เป็นจริง
...อย่าได้ทิ้งกันไป
...อย่าได้ทิ้งกันไป
หากวัน...วันใดที่มั่นใจ
โอบกอดรักไว้..อย่ารู้คลาย
โอบกอดรักไว้..อย่ารู้คลาย
รักเพียงเท่านั้นที่จะสรรค์สร้างให้ฝัน...เป็นจริง
รักเพียงเท่านั้นที่จะสรรค์สร้างให้ฝัน...พลันศิวิไลซ์
รักเพียงเท่านั้นที่จะสรรค์สร้างให้ฝัน...พลันศิวิไลซ์
Baby don't cry. Don't letit die let's love each other,
love, only love will help us survive.
love, only love will help us survive.
Don't let it die. Baby Don't cry. Don't give up,
Don't, let's give it another try.
Don't, let's give it another try.
Baby I love you, So just don't cry
Don't give up, let's give it another try.
Don't give up, let's give it another try.
Baby I love you, So just don't cry
Don't give up, let's give it one more try.
วิถีที่เป็นไป
โอ้ในความทุกข์ โอ้ในความเหงา โอ้ในความเศร้า...ที่มี
ในความปวดร้าว ตั้งแต่คราวนั้น โอ้จงช่วยฉัน ที
Don't give up, let's give it one more try.
วิถีที่เป็นไป
โอ้ในความทุกข์ โอ้ในความเหงา โอ้ในความเศร้า...ที่มี
ในความปวดร้าว ตั้งแต่คราวนั้น โอ้จงช่วยฉัน ที
เนิ่นนานปีทำทุกอย่างอย่างคนดี แต่ทุกอย่างไม่เคยมีดีให้เห็น
เป็นเพียงฝันโอ้ทุกอย่างดั่งทางตัน ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงกันให้มันเป็นเช่นใจ...
เป็นเพียงฝันโอ้ทุกอย่างดั่งทางตัน ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงกันให้มันเป็นเช่นใจ...
(ซาตาน)...มีทุกข์ใด
...มีทุกข์ใด
...มีทุกข์ใด
...เธออยู่หนใด...เธออยู่ไหน...อยู่ไหน..
ใยไม่คลายทุกข์ ใยไม่คลายเหงา ใยไม่คลายเศร้าให้พ้นไป
ใยจึงปวดร้าว ตั้งแต่คราวนั้น ใยไม่ช่วยฉัน..โอ้ใย
ใยจึงปวดร้าว ตั้งแต่คราวนั้น ใยไม่ช่วยฉัน..โอ้ใย
เนิ่นนานปีทำทุกอย่างอย่างคนดี แต่ทุกอย่างไม่เคยมี...มีความหมาย
ได้เพียงฝันโอ้ทุกอย่างดั่งทางตัน ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงกันให้มั่นใจ
ได้เพียงฝันโอ้ทุกอย่างดั่งทางตัน ไม่เห็นจะเปลี่ยนแปลงกันให้มั่นใจ
เหมือนดั่งไม่รู้ ปล่อยให้อยู่เดียวดาย
ฉันทนจนเหมือนว่าศรัทธาเริ่มจะหมดไป
ฉันทนจนเหมือนว่าศรัทธาเริ่มจะหมดไป
วันคืนได้แต่ยืนคอย คอยเธอ
เหม่อมองตาลอย คอยหาย คอยหาย
........
เหม่อมองตาลอย คอยหาย คอยหาย
........
(ซาตาน)...มีทุกข์ใด...
...เธออยู่หนใด...เธออยู่ไหน...อยู่ไหน
ฮะฮ่า......................
เนื่องด้วยอากาศมันร้อน...ตอนบ่ายวันนั้น
เพียงคิดคิดไปบ่ายวันนั้น
คิดตอนตำรวจตรวจการณ์และคนพาลผ่านหน้าไป
เนื่องด้วยอากาศมันร้อน...ตอนบ่ายวันนั้น
เพียงคิดคิดไปบ่ายวันนั้น
คิดตอนตำรวจตรวจการณ์และคนพาลผ่านหน้าไป
ใจคิดใยต้องมีทหาร
รบฆ่าฟันประจันบาน เพื่อให้บ้านเมืองพ้นภัย
รบฆ่าฟันประจันบาน เพื่อให้บ้านเมืองพ้นภัย
ใจคิดใยต้องมีกฏหมาย
ใช้นำ...กำหนดลงไป ชี้ให้ทำสิ่งใดใด
ใช้นำ...กำหนดลงไป ชี้ให้ทำสิ่งใดใด
ใยโลกทั้งใบยังต้องใช้
ทุกๆวันที่ผ่านไป ล้วนต้องให้กฏหมายคุม
คนเขียนเพลงบรรเลงชีวิต II
โอวันและคืนฉันยืนมอง
ดวงตาฉันจ้องมองไป
ทุกๆวันที่ผ่านไป ล้วนต้องให้กฏหมายคุม
คนเขียนเพลงบรรเลงชีวิต II
โอวันและคืนฉันยืนมอง
ดวงตาฉันจ้องมองไป
ผ่านตาสมองพาคิดเรื่องราว
หนุ่มสาวพวกเราควรเข้าใจ
หนุ่มสาวพวกเราควรเข้าใจ
*เนิ่นนานนับปีที่ผู้คน
มีผลของงานสรรค์สร้างไกล
มีผลของงานสรรค์สร้างไกล
ดั่งโน๊ตดนตรีลีลาเพลง
ให้เราบรรเลงเปล่งความหมาย
ให้เราบรรเลงเปล่งความหมาย
เขาอยู่แสนไกล
เขาไม่รู้อยู่ไหน
เขาดูเข้าใจ
เขาไม่รู้เป็นใคร
เขาไม่รู้อยู่ไหน
เขาดูเข้าใจ
เขาไม่รู้เป็นใคร
**โอวันและคืนเขายืนมอง
(ฉันตัดสินใจไม่ฝืน)
ดวงตานั้นฉันจ้องมองไกล
(ฉันเพียงแค่ยืน...มองไป)
ผ่านตาสมองพาคิดเรื่องราว
(นับวันเวลา...ภาวนา)
หนุ่มสาวพวกเราควรเข้าใจ
(ขอเขาจงพาความหมาย)
(ฉันตัดสินใจไม่ฝืน)
ดวงตานั้นฉันจ้องมองไกล
(ฉันเพียงแค่ยืน...มองไป)
ผ่านตาสมองพาคิดเรื่องราว
(นับวันเวลา...ภาวนา)
หนุ่มสาวพวกเราควรเข้าใจ
(ขอเขาจงพาความหมาย)
มองดูชีวิตใช่ใครลิขิตขีดชะตา
มองดูปัญหามองกันด้วยตากว้างไกล
มองดูปัญหามองกันด้วยตากว้างไกล
มองดูจะรู้...โอ้เรานั้นดูวุ่นวาย
กฏเกณฑ์มีไว้ใยมองข้ามไปไกลกัน
(ซ้ำ **และ*)
ใครผิด
ผิดไหมที่จะคิดไกล
ผิดไหมที่ไม่คิดอะไร
ผิดไหมที่มีมากมาย
ผิดไหมที่ไม่มีอะไร...ใครผิด...ใครผิด
กฏเกณฑ์มีไว้ใยมองข้ามไปไกลกัน
(ซ้ำ **และ*)
ใครผิด
ผิดไหมที่จะคิดไกล
ผิดไหมที่ไม่คิดอะไร
ผิดไหมที่มีมากมาย
ผิดไหมที่ไม่มีอะไร...ใครผิด...ใครผิด
ชีวิต...ผิดหรือถูกอย่างไร
ชีวิต...สิ่งกำหนดของใคร
ใครบอกได้ไหม
ชีวิต...สิ่งกำหนดของใคร
ใครบอกได้ไหม
ชีวิต...มากมายอยากได้คำตอบจากใครสักคน
เธอคิดใช่มั๊ย?
เธอคิดใช่มั๊ยว่าชีวิตมันคือ..."ฉันคนเดียว"...
เธอคิดใช่มั๊ยว่าชีวิตมันไม่ต้องการแลเหลียว
เธอคิดใช่มั๊ย?
เธอคิดใช่มั๊ยว่าชีวิตมันคือ..."ฉันคนเดียว"...
เธอคิดใช่มั๊ยว่าชีวิตมันไม่ต้องการแลเหลียว
เธอคิดใช่มั๊ยว่าชีวิตมันต้องผสานกลมเกลียว
เธอคิดใช่มั๊ยชีวิตมันจะเลี้ยวไปตามเส้นทาง
เธอคิดใช่มั๊ยชีวิตมันจะเลี้ยวไปตามเส้นทาง
เธอคิดใช่มั๊ยว่าโลกนี้ไม่มีใครสำคัญ
เธอคิดใช่มั๊ยว่าโลกนี้มีเพียงเธอเท่านั้น
เธอคิดใช่มั๊ยว่าโลกนี้มีเพียงเธอเท่านั้น
เธอคิดใช่มั๊ยว่าโลกนี้มีแค่ที่เห็นกัน
เธอคิดใช่มั๊ยสักวันสวรรค์นั้นจะตัดสินใจ
เธอคิดใช่มั๊ยสักวันสวรรค์นั้นจะตัดสินใจ
อย่ามัวคิดอยู่จงเริ่มดูดูรอบกาย
มองดูจะรู้ความหมาย...อย่าทำลายคิดร้ายกับมัน
มองดูจะรู้ความหมาย...อย่าทำลายคิดร้ายกับมัน
จากกันถึงกันต่างก็มีความสัมพันธ์
เชื่อมโยงกันไปทั้งนั้น...ต่างผลักดันให้มันเป็นไป
เชื่อมโยงกันไปทั้งนั้น...ต่างผลักดันให้มันเป็นไป
เช่นเดียวกับเราทั้งหมด...ต่างช่วยกันเป็นตัวกำหนด
เชื่อมโยงกันไปตามกฏ...หากจดจำจะเข้าใจ
เชื่อมโยงกันไปตามกฏ...หากจดจำจะเข้าใจ
จากกันถึงกันต่างก็มีความสัมพันธ์
ใช่ตัวเธอ...ใช่ตัวฉัน...ใช่สวรรค์...ใช่ใครๆ
ใช่ตัวเธอ...ใช่ตัวฉัน...ใช่สวรรค์...ใช่ใครๆ
อย่าคิดเลยนะว่าชีวิตมันคือ..."ฉันคนเดียว"...
บทสุดท้าย
หลายคราแปลกใจ แปลกดูว่างเปล่า...โลกเราหรือไร
มองเงา...โอ้เราใย...นับวันช่างห่างดูเหมือนดัง...โอ้
ใครกัน...สับสน คน มีผู้คน...ดูซิคนวนเวียนมากมาย
โอ้กาลเวลาพาทุกคนไกล...นับวันมันช่างดูเหมือนดัง...โอ้ใย
ไกลเกินใครจะกล้าถาม
เพลินไปตามความแปรผัน
หมุนไปทุกวัน...ไปไหน...
ไกลเกินใครจะกล้าถาม
เพลินไปตามความแปรผัน
หมุนไปทุกวัน...ไปไหน...
ไร้ใคร...ได้เพียงฝัน ต่างคอยนับวันคงถึงวันที่มันหมุนไป
โลกเรา...ไม่มีแล้ววันเข้าใจ นับวันมันช่างดูเหมือนดัง...โอ้ใย
โลกเรา...ไม่มีแล้ววันเข้าใจ นับวันมันช่างดูเหมือนดัง...โอ้ใย
หากเพียงไร้ใครเข้าใจซึ่งกันและกัน
อาจมีสักวันที่ความหมายพลันผิดไป
อาจมีสักวันที่ความหมายพลันผิดไป
หากอธิบายโอ้ใครจะฟังเหตุผล
เหตุการณ์ทุกข์ทนรุกรานมากล้นร่ำไป
เหตุการณ์ทุกข์ทนรุกรานมากล้นร่ำไป
รอยจูบนั้นต่างฝันถึงอีกสิ่งหนึ่งข้างใน
ใครจะรู้ขัดแย้งคุกรุ่นอยู่มากมาย
รู้มั๊ยเคยคิดชีวิตช่างโหดร้าย
ใครจะรู้ขัดแย้งคุกรุ่นอยู่มากมาย
รู้มั๊ยเคยคิดชีวิตช่างโหดร้าย
ใจใช่กลัวแต่คิดให้ถ้วนทั่วสงสัย
ใยโลกนี้ช่างมีเพียงคนที่หวังทำลาย
ใยโลกนี้ช่างมีเพียงคนที่หวังทำลาย
ไม่กลัวแม้จะเห็นว่ามันเป็นบทสุดท้าย...ไม่คิดเสียใจ...ใช่เพียงแต่ฉัน
ทุกคนทั้งนั้น...มันประโยชน์ใด
ทุกคนทั้งนั้น...มันประโยชน์ใด
เสียงจากสายลม
(คนเขียนเพลง...บรรเลงชีวิต III)
มองดูชีวิตใช่ใครลิขิตขีดชะตา
มองดูปัญหา...มองคนด้วยตากว้างไกล
มองดูจะรู้...โอ้เรานั้น...วุ่นวาย
กฏเกณฑ์มีไว้ใยมองข้ามไปไกลกัน
มองดูปัญหา...มองคนด้วยตากว้างไกล
มองดูจะรู้...โอ้เรานั้น...วุ่นวาย
กฏเกณฑ์มีไว้ใยมองข้ามไปไกลกัน